Swatch ชวนนึกสนุก ย้อนเวลาสู่จุดกำเนิดของตำนานนาฬิกาที่เขย่าโลกกว่า 40 ปี กับคอลเลกชัน BIOCERAMIC WHAT IF? ด้วยคำถาม โลกจะเป็นอย่างไร ถ้าหากวันนั้นสวอท์ชเลือกเปิดตัวด้วยนาฬิกาสี่เหลี่ยม

ในวันนี้ ทุกคนอาจจะคุ้นเคยกับไอเดียของ ‘มัลติเวิร์ส’ (multiverse) หรือโลกแห่งความจริงคู่ขนานเป็นอย่างดี เรื่องราวแห่งกาลเวลาของสวอท์ช (Swatch) ครั้งนี้พาสาวกนาฬิกาย้อนกลับไปในช่วงต้นของยุค 1980 ช่วงที่โปรเจ็คสวอท์ชอยู่ระหว่างการพัฒนาและถูกเก็บเป็นความลับขั้นสุดยอดอยู่ ก่อนจะพลิกโฉมประวัติศาสตร์ของนาฬิกาข้อมือ ด้วยการเลือกใช้ดีไซน์หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสในคอลเลกชัน BIOCERAMIC WHAT IF? สุดตื่นตาต้อนรับครึ่งหลังของปี 2023

เมื่อปี 1982 วงกลม หรือ จตุรัส คือคำถามที่ตอบยากที่สุดในออฟฟิศของสวอท์ช เพราะคำตอบนั้นจะกลายมาเป็นหน้าตาของนาฬิกาข้อมือกว่าหลายล้านเรือนในอนาคตข้างหน้า และแน่นอนว่าสี่ทศวรรษต่อมา ในปี 2023 ทุกคนคงจะเห็นกันแล้วว่า ’วงกลม’ เป็นคำตอบสุดท้ายของคำถามสุดหินเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ทำให้ทุกครั้งที่เราก้มลงไปดูเวลาบนข้อมือก็จะพบกับหน้าปัดทรงกลมสุดคุ้นเคย

(ภาพ prototype บางส่วนในปี 1982, ต้นแบบคอลเลกชัน BIOCERAMIC WHAT IF? เรือนซ้ายสุด
และต้นแบบเรือนที่ 2 จากขวา คือดีไซน์ที่ได้เลือกเปิดตัว เป็นรุ่น GENT และ NEW GENT ในปัจจุบัน)

แต่ถ้าหากในวันนั้นสวอท์ชตัดสินใจเลือกรูปทรงจตุรัสแทน ตอนนี้โลกของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ต้องเสียเวลาสงสัยนาน เพราะสวอท์ชได้เตรียมคำตอบสนุกๆ ไว้ให้คุณแล้วในภาพยนตร์สั้น ถ่ายความเป็นไปในโลกปัจจุบันที่พลิกผันไปเนื่องจากการตัดสินใจที่เปลี่ยนไปของสวอท์ชเมื่อ 40 ปีก่อน พร้อมคอลเลกชัน BIOCERAMIC WHAT IF? คอลเลกชันนี้เปรียบเสมือนจักรวาลคู่ขนานที่สวอท์ชเลือกเปิดตัวแบรนด์เมื่อ 40 ปีก่อนด้วยนาฬิกาข้อมือดีไซน์หน้าปัดจตุรัส โดยสวอท์ชได้นำเอาโปรโตไทป์ของนาฬิกาในปี 1982 มารังสรรค์เป็นคอลเลกชันใหม่ที่มาพร้อมกับความท้าทาย เต็มไปด้วยพลังบวก และดีไซน์สุดล้ำบนหน้าปัดที่จะสร้างความแตกต่างให้กับทุกลุคของคุณ

นอกจากหน้าปัดทรงจตุรัสสุดยูนีคแล้ว คอลเลกชันนี้ยังผลิตด้วยวัสดุไบโอเซรามิกที่ผสานผงเซรามิกเข้ากับวัสดุชีวภาพ (biosourced materials) ทำให้คุณสามารถออกไปผจญภัยอย่างมั่นใจด้วยความทนทานที่เหนือกว่าในวัสดุพิเศษที่จะอยู่บนนาฬิกาทุกเรือนในคอลเลกชันนี้

ครั้งนี้สวอท์ชมาพร้อมกับ 4 สไตล์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครด้วยหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาด 33 x 33 มิลลิเมตร และตัวเรือนผิวแมทท์ ใน 4 สี ทั้งสีเทา (WHAT IF…GRAY?) สีเขียว (WHAT IF…GREEN?) สีเบจ (WHAT IF…BEIGE?) และสีดำ (WHAT IF…BLACK?) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนึ่งในโมเดลออริจินัลกลุ่มแรกของสวอท์ช ส่งต่อดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลาสู่ข้อมือของคุณ พร้อมกับเข็มเรืองแสงในที่มืด และหน้าต่างบอกวันและวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา

คอลเลกชัน BIOCERAMIC WHAT IF? ยังก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วยกระจกเต็มขอบจากวัสดุชีวภาพ เป็นนวัตกรรมวัสดุที่แข็งแกร่งทำให้เห็นมุมด้านข้างของหน้าปัดได้ ให้คุณได้ชื่นชมนาฬิกาจากทุกองศาและมองเห็นขีดบอกเวลาจากด้านข้างด้วย อีกนวัตกรรมสุดล้ำอย่างวัสดุไบโอเซรามิกที่ทำให้สวอท์ชสามารถฟื้นคืนดีไซน์จากสี่ทศวรรษที่แล้วสู่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปี 2023 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากความพิเศษทั้งหมดแล้ว ฝาปิดแบตเตอรี่ด้านหลังของคอลเลกชันนี้ยังมาพร้อมกับลายพิมพ์หน้าปัดสุดคลาสสิกที่ถอดแบบมาจากรุ่นแรกของสวอท์ชในปี 1983 ระบุวันที่ 1 MAR ตรงกับวันเปิดตัวแบรนด์สวอท์ช เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีอีกด้วย

ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของสวอท์ช แล้วออกเดินทางสู่จักรวาลคู่ขนานของโลกแห่งนาฬิกาไปกับคอลเลกชัน BIOCERAMIC WHAT IF? ได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน Swatch ทุกสาขา และบนเว็บไซต์ SWATCH.COM ในราคา 3,750 บาท

ติดตามข่าวสารและรายละเอียดการวางจำหน่ายเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA @swatch_th
Facebook: SWATCH Instagram: @SWATCH_TH
@Swatch_TH #Swatch_TH #SwatchWHATIF #SwatchBIOCERAMIC
Swatch Flagship store @ CentralWorld ชั้น 1
ศูนย์การค้า ICONSIAM ชั้น M, Central Plaza Ladprao ชั้น 2, Mega Bangna ชั้น 1,
Fashion Island ชั้น 1, Terminal 21 Pattaya ชั้น G, Pop Up Store Central Phuket Festival ชั้น 1เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Watch Galleria @ SiamParagon, The Mall Bangkhae
และแผนกนาฬิกา Central Pinklao, Central Festival Samui