Team Digital แถลง! SEO vs SEM อันไหนดีกว่ากัน

Keyword seo content website tags search

แน่นอนว่าการตลาดในยุคนี้การวางแผนจัดการและสร้างกลยุทธ์เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ไม่ว่าจะทำการตลาดในช่องทางไหนก็ต้องนำเครื่องมือทางการตลาดเข้ามาช่วย ทำให้นักการตลาดมือใหม่หลายคนอาจจะยังสงสัยความต่างระหว่าง SEO และ SEM ซึ่ง Team Digital สถาบันอบรมและสัมมนาการตลาดออนไลน์รวมไปถึงการจัดทำคอร์สเรียน SEO ชั้นนำ ได้ไขข้อข้องใจความแตกต่างของ SEO และ SEM มา ดังนี้

ข้อแตกต่างระหว่าง SEO vs SEM

SEO (Search Engine Optimization) คือ การทำการตลาดบน Search Engine โดยการใช้ Keyword เป็นตัวช่วยให้ Traffic ของเว็บไซต์ติดอันดับบนหน้า Google ทำให้ไม่ต้องเสียเงินลงโฆษณาให้สิ้นเปลืองเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว สามารถแก้ไขข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยปกติแล้วการใช้เครื่องมือ SEO มาช่วยจะเป็นในทาง on-page / off-page / Technical SEO ทั้งนี้ไม่ควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ควรที่จะใช้ทั้งสามอย่างนี้ไปพร้อม ๆ กัน 

SEM (Search Engine Marketing) เป็นเครื่องมือทางการตลาด ที่คล้ายกับการทำ SEO แต่การทำ SEM เป็นการยิง Ads ควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะมีเสียค่าใช้จ่ายโดยราคาขึ้นอยู่กับการเลือก Keyword นั้น ๆ ว่าเป็นที่นิยมมากแค่ไหน สามารถสังเกตเห็นได้จากเวลาค้นหาข้อมูลบนหน้า Google แล้วเว็บไซต์แรกที่ขึ้นมา มีคำว่า “Sponsored” อยู่ นั่นคือการใช้เครื่องมือ SEM เข้ามาช่วย 

ทั้งนี้การทำ SEM ยังสามารถวัดประมวลผลว่าเว็บไซต์เรานั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ทำให้เราสามารถรู้จุดแข็ง-จุดด้อย เพื่อนำไปวิเคราะห์และนำมาพัฒนาหน้าเว็บไซต์ให้ติดอันดับอยู่ตลอดเวลา และยังรู้กลุ่มเป้าหมาย เจาะไปยังกลุ่มได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องให้เว็บไซต์มีประสิทธิมากเพียงพอเสียก่อน เพราะสามารถเพิ่ม Awareness ได้ทันที 

ควรเริ่มจาก SEO หรือ SEM ดี

สำหรับมือใหม่แนะนำว่าควรเริ่มจากการทำ SEO เสียก่อน เพราะการใช้เครื่องมือ SEO และ SEM นั้นมีความคล้ายกัน ไม่ว่าจะในส่วนของ Traffic และการใช้ข้อมูล Keyword  เพื่อนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์ทำคอนเทนต์ลงเว็บไซต์ แต่จะมีความต่างกันในเรื่องของการลง Ads โฆษณา สำหรับใครที่มือใหม่ก็อยากให้ทดลองเครื่องมือ SEO มาช่วยประสิทธิภาพของหน้าเว็บไซต์ไปก่อน ทดลองการนำ Keyword ที่เป็นกระแสตอนนั้นมาปรับใช้ เมื่อชำนาญแล้วจึงจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการหาคีย์เวิร์ดเพื่อลงโฆษณา

มีเครื่องมือหลายตัวที่สามารถใช้หาคีย์เวิร์ดเพื่อทำ SEM (Search Engine Marketing) ดังนี้

  1. Google Keyword Planner: เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยในการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด สามารถดูปริมาณการค้นหา, มูลค่า และคำที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญได้เบื้องต้น
  2. Ahrefs: เครื่องมือ SEO ที่มีฟังก์ชัน Keyword Explorer ที่ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้ 
  3. SEMrush: เครื่องมือ SEO และ SEM ที่มีฟังก์ชั่น Keyword Research เพื่อช่วยในการค้นหาคีย์เวิร์ดยอดนิยมพร้อมเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
  4. WordStream Keyword Tool: เครื่องมือ SEM ออนไลน์ที่ช่วยในการค้นหาคีย์เวิร์ดและจัดเรียงคำสำคัญในแคมเปญ Google Ads
  5. Ubersuggest: เครื่องมือ All-In-One ที่มีฟังก์ชัน Keyword Research Tool และ SEM Analyzer เพื่อช่วยในการค้นหา ประเมิน และวิเคราะห์คีย์เวิร์ด

สำหรับใครที่ยังมีความกังวลว่าจะเลือกใช้เครื่องมือกลยุทธ์แบบไหนดีระหว่าง SEO และ SEM ก็อยากให้ศึกษาหาข้อมูลในการทำ SEO ให้มากเพียงพอเสียก่อน เพราะการทำ SEO ก็เหมือนเป็นตัวต่อยอดให้ใช้กลยุทธ์แบบ SEM หากใครที่คิดว่าทำ SEO มามากเพียงพอแล้ว แต่เว็บไซต์ยังไม่ติดอันดับหรือ Traffic ยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็สามารถที่จะใช้ SEM เพื่อต่อยอดและนำมาวิเคราะห์ผลได้ในภายหลัง