mobiledista.com

รีวิว i-mobile IQ X มือถือ quad-core กล้องหลัง 18 ล้าน กล้องหน้า 8 ล้าน

ไอโมบายกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์มือถือที่หันมาทำมือถือ Android และผลตอบรับค่อนข้างดี เห็นได้จากในปีนี้ที่เปิดตัวมือถือ Android มาติดๆ กันมากมายหลายรุ่น ขนาดที่ว่าผมเองวางทียังเขียนข่าวตกหล่นบางรุ่นไปเลย เพราะพี่แกเปิดทีหลายรุ่น และชื่อก็ค่อนข้างสับสน ไม่ใช่แค่เรื่องชื่อ ราคาเองก็พามึนเหมือนกัน มีหลายรุ่นของไอโมบายที่ราคาห่างกันหลักร้อยบาท แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมว่ามือถือไอโมบายเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่น่าสนใจ หลายครั้งที่มีคนสอบถามมาแนะผมแนะนำไอโมบายไป ด้วยราคาและประสิทธิภาพที่ได้ ผมว่ามันคุ้มค่าเลยทีเดียว เอาละนอกเรื่องกันมายาวละ เข้าเรื่องรีวิวของเรากันต่อ มือถือที่ผมจะมารีวิวให้ชมในตอนนี้ก็คือ i-mobile IQ X เป็นมือถือแอนดรอยด์หนึ่งในตัวท็อปของไอโมบาย เป็นมือถือตัวที่ 2 ของไอโมบายที่มาพร้อมกับซีพียู quad-core (ตัวแรกเป็น i-mobile 5.1) IMG_9212 จุดเด่นของ i-mobile IQ X ที่ผมว่ามันน่าสนใจคือ ซีพียู, กล้องหน้า และกล้องหลัง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ธรรมดาไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ แต่ธรรมดาในที่นี้ใช่ว่าจะไม่น่าสนใจนะครับ มีหลายอย่างที่น่าสนใจ เพียงแต่ถ้าเอาแค่จุดเด่นจริงๆ ก็อย่างที่บอกไว้ตอนแรก

เรื่องของหน้าจอแสดงผล

i-mobile IQ X มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 4.7 นิ้ว ที่ 320ppi (ความละเอียดเทียบเท่า Nexus 4 เลยแหละ) 16,700,000 สี ความละเอียด 1280×720 พิกเซล ใครที่คิดว่ารุ่นนี้หน้าจอใหญ่แล้ว ทางไอโมบายยังมีรุ่นที่หน้าจอใหญ่กว่านี้อีกครับ ส่วนการรองรับ Multi-Touch จากที่ทดสอบดูได้แค่ 2 จุด ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่ขายจริงเป็นเหมือนกันไหม อ้อ…เกือบลืม อีกหนึ่งความน่าสนใจของรุ่นี้คือ มาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วนที่จะเกิดขึ้นกับหน้าจอ สำหรับหน้าจอของ IQ X ถ้าไม่นับเรื่องความสว่างเวลาใช้งานกลางแจ้ง ที่เหลือก็ทำได้ดีครับ ปรับความสว่างอัตโนมัติได้

มาเรื่องกล้องหน้า

i-mobile IQ X มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่เป็นเซ็นเซอร์ 8 ล้านจริงๆ ที่สำคัญยังมีระบบออโต้โฟกัสอีกด้วย เป็นหนึ่งในมือภถือไม่กี่รุ่นที่มีระบบออโต้โฟกัสในกล้องหน้า อีกทั้งยังมีระบบตรวจจับใบหน้ามาให้ จากที่ลองใช้ค่อนข้างประทับใจกล้องหน้าของ IQ X มากกว่ากล้องหลัง

ดีไซน์ วัสดุ และงานประกอบ

ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องดีไซน์ของ IQ X ผมขอพูดถึงแว๊บแรกที่ผมได้เห็นหน้าตาของเจ้า IQ X ก่อนเลย วินาทีแรกที่ผมแกะ IQ X ออกจากกล่อง (ไม่เคยเห็นรูปตัวเครื่องมาก่อน ป่ะกันที่เครื่องจริงเลย) ความรู้สึกแว๊บแรกของผมคือ “แม่ง !! โคตรเหมือน iPhone 5” คิดว่าหลายๆ คนก็คงคิดเหมือนผม ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็มีส่วนที่คล้ายคลึงกับ iPhone 5 จริง i-mobile IQ X มีความหนาอยู่ที่ 7.5 มม. น้ำหนัก 130 กรัม วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด ขอบด้านข้างของตัวเครื่องตอนแรกผมคิดว่าเป็นอะลูมิเนียม แต่ไปๆ มาๆ เป็นพลาสติก ฝาหลังเป็นพลาสติกผิวด้าน จับถนัดมือ แต่เป็นรอยง่ายมาก เครื่องที่ผมรีวิวก็เป็นรอยเรียบร้อย ส่วนเรื่องงานประกอบก็…เหมาะสมกับราคาครับ ส่วนตัวถือว่าวัสดุและงานประกอบไม่ได้ดูแย่ เมื่อเทียบกับราคา จะเอาไปเปรียบเทียบกับ HTC One หรือ Xperia Z ก็คงใช่เรื่อง ตัวฝาหลังเป็นพลาสติกบ้าง โค้งงอได้ระดับหนึ่ง สำหรับ i-mobile IQ X เป็นมือถือแอนดรอยด์ 2 ซิม ตามสไตล์ไอโมบาย แต่รุ่นนี้พิเศษคือรองรับซิมขนาดธรรมดา 1 ช่อง และ Micro SIM อีก 1 ช่อง อ้อ เพิ่ม mcriSD ได้สูงสุด 32GB

คุณสมบัติและฟังก์ชัน

i-mobile IQ X มาพร้อมกับ Android 4.2.1 Jelly Bean อินเตอร์เฟสก็เป็น Android 4.2 เพียวๆ เหมือนเช่นกับไอโมบายรุ่นอื่นๆ สามารถใช้งานฟีเจอร์ของ Android 4.2 อย่าง Lockscreen Widget หรือ Daydream ได้ ความพิเศษของตัวนี้คือ ทางไอโมบายทำระบบอัพเดท FW ผ่าน OTA ติดมาด้วย พร้อมกับสัญญาว่าจะปล่อยอัพเดทแก้ปัญหาการทำงานต่างๆ ที่ไม่สมบูรณ์มาให้ผู้ใช้ได้อัพเดทผ่านช่องทาง OTA นอกจากรุ่นนี้แล้ว ยังมี i-mobile IQ 6, i-mobile IQ 9, i-mobile IQ 1.1 Lockscreen Widget สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่น หรือกล้องถ่ายรูปได้โดยไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอ แม้จะใส่รหัสผ่านก่อนเข้าใช้งาน ก็สามารถเข้าใช้ Lockscreen Widget ได้

หน้าจอระบบแจ้งเตือนก็เป็น UI เดิมๆ ของ Android 4.2 เลย มีเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับเปิด/ปิดอุปกรณ์ต่างๆ ของตัวเครื่อง สามารถแสดงข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของเครื่องได้ ถ้าไม่ชอบก็เอาออกได้ครับ

IQ X รองรับการอ่านและพิมพ์ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering) ด้านการใช้งานถามว่ากระตุกไหม…? กระตุกครับ มีกระตุก มีหน่วง จะให้ใช้งานได้ลื่นเหมือน Android ราคาแพงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้จะใช้ชิป quad-core เหมือนกัน แต่ประสิทธิภาพของชิปก็แตกต่างกันครับ จะมีหน่วงหนักๆ เวลาสลับแอพ หรือออกจากเกม ส่วนหน้าอิตเตอร์เฟสถ้ามันหน่วงมากๆ แนะนำให้โหลด Launcher  จาก Play Store มาใช้ดีกว่า ลื่นกว่าเยอะ

IQ X ไม่รองรับ  MTP (Media Transfer Protocol) เวลาจะต่อมือถือกับเครื่องคอมเผื่อโอนย้ายไฟล์ต้องทำการเปิด USB Storage ก่อนทุกครั้ง ข้อเสียคือเราจะไม่สามารถบันทึกข้อมูลใดๆ จากมือถือเก็บใน microSD หรือหน่วยความจำของมือถือได้ จนกว่าจะปิด USB Storage

ประสิทธิภาพ

เรื่องความแรงอย่างที่ผมบอกในหลายๆ หัวข้อที่ผ่านมา ถึงแม้จะเป็นซีพียู quad-core แต่ถ้าจะให้ลื่น หรือประสิทธิภาพเทียบเท่ามือถือราคาหมื่นกลางๆ ขึ้นไปก็ยากครับ ส่วนนึงมาจากตัว ROM ของ IQ X ด้วย จากที่ผมใช้งานมา จะเจออาการหน่วงเยอะพอสมควร

โดยเฉพาะเวลาสลับจากแอพหนึ่งไปยังแอพหนึ่ง เวลาพิมพ์ข้อความก็มีหน่วงให้เห็นบ้างนิดหน่อย เวลาเปิดจริงๆ ช้าบ้าง ขึ้นอยู่กับแอพอย่าง Facebook มีช้าบ้าง Instagram ปกติ โดยรวมเรื่องประสิทธิภาพผมให้ผ่านนะ ทำได้ขนาดนี้ถือว่าโอเคมากๆแล้ว สำหรับมือถือราคา 9,490 บาท

กล้องและวีดีโอ

ตามสเปกระบุว่า i-mobile IQ X มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยแฟลชคู่ แต่ความจริงแล้วเซ็นเซอร์กล้องจริงๆ คือ 13 ล้านเท่านั้น แล้วใช้ซอฟท์แวร์ในการขยายขนาดภาพให้เป็น 18 ล้านพิกเซล

ซึ่งตัวแอพกล้องจะสามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายที่ความละเอียดเท่าไหร่ จากที่ทดสอบพบว่าภาพขนาด 18 ล้าน กับ 13 ล้านไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าซูมดูจะพบว่าภาพ 18 ล้านจะแตก ส่วน 13 ล้านรายละเอียดยังครบถ้วน

ส่วนเรื่องการทำงานของแอพถ่ายรูป อันนี้บอกตามตรง มีหน่วงบ้าง ซัตเตอร์มีช้าบ้าง เร็วบ้าง ขึ้นอยู่ที่สภาพแวดล้อมที่ถ่าย การโฟกัสภาพก็ทำได้เร็ว แต่ยังไม่สู้พวกตัวท็อปๆ ใน Android บางครั้งก็โฟกัสไม่ติด ภาพที่ถ่ายออกมาจึงเบลอ

อีกหนึ่งข้อสังเกตคือ ถ้าเราเปิดแฟลชถ่าย จะโฟกัสช้า และซัตเตอร์ก็ช้าตามไปด้วย

ตัวอย่างรูปถ่ายตอนเปิดแฟลช และไม่เปิดแฟลช จากที่ใช้งานพบว่าการจัดการแสงฟลชของ IQ X ทำได้ไม่ค่อยดี

ตัวอย่างรูปถ่าย

 ตัวอย่างภาพอื่นๆ ที่ถ่ายจาก i-mobile IQ X สามารถเข้าดูได้ที่ Google+ ของ mobiledista ครับ

ตัวอย่างวีดีโอความละเอียด 1080p จาก i-mobile IQ X

ความยาวนานของการใช้งาน

ก่อนพูดถึงเรื่องแบตเตอรี่ ผมขอพูดเรื่องช่องเสียบ micro USB 2.0 ก่อน หลังจากที่ได้เครื่องมา และลองชาร์จแบตไปหลายรอบ พบว่าช่องต่อ micro USB ของ IQ X จะมีปัญหากับหัส micro USB บางอัน ปัญหาที่ว่าคือ เสียบแล้วชาร์จไฟไม่เขา คือมันมองไม่เห็นว่าเป็น micro USB นั้นเอง จากที่ลองกับสาย micro USB ที่ผมมี พบว่า หลายเส้นเลยที่เสียบแล้วไม่เจอ

IQ X ไม่สามารถถอดแบตได้ (ตอนแรกผมคิดว่าถอดได้ซะอีก) ตัวแบตเตอรี่ใส่มาให้ 2000 mAh จากที่ใช้งานมาพบว่า “ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ” ลองใช้งานหนักๆ พบว่าไม่ถึง 5 ชั่วโมงแบตก็ลงต่ำกว่า 20% แล้ว (ปกติผมเคยใช้ Nexus 4 แบบหนักๆ จากแบต 100% เหลือ 15% ภายในเวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ) แต่ถ้าสแตนบาย เล่นนิดๆ หน่อยๆ ก็อยุ่เกิน 8 ชั่วโมงแน่นอน เอาเป้นว่าถ้าใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน (ของคนทำงานประจำ) จะอยู่ได้ราวๆ 6 – 8 ชั่วโมงแน่นอน

จกาที่ลองใช้งานโดยเปิด WiFi Hotspot อย่างเดียว อยู่ได้ 4-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องที่มาต่อ

ความคุ้มค่า

มาถึงหัวข้อสุดท้ายของการีวิว i-mobile IQ X แล้ว ในหัวข้อนี้ผมจะพูดถึงความคุ้มค่า เรื่องฟีเจอร์ตัดไปได้เลย เพราะรุ่นนี้เป็น Android เพียวๆ ถ้าเทียบความคุ้มค่ากับประสิทธิภาพที่ได้ ก็ถือเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่า และเพียงพอสำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องการมือถือที่แรงมาก แต่เล่นได้ทุกอย่าง

Exit mobile version