ไอโมบายกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์มือถือที่หันมาทำมือถือ Android และผลตอบรับค่อนข้างดี เห็นได้จากในปีนี้ที่เปิดตัวมือถือ Android มาติดๆ กันมากมายหลายรุ่น ขนาดที่ว่าผมเองวางทียังเขียนข่าวตกหล่นบางรุ่นไปเลย เพราะพี่แกเปิดทีหลายรุ่น และชื่อก็ค่อนข้างสับสน ไม่ใช่แค่เรื่องชื่อ ราคาเองก็พามึนเหมือนกัน มีหลายรุ่นของไอโมบายที่ราคาห่างกันหลักร้อยบาท แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมว่ามือถือไอโมบายเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่น่าสนใจ หลายครั้งที่มีคนสอบถามมาแนะผมแนะนำไอโมบายไป ด้วยราคาและประสิทธิภาพที่ได้ ผมว่ามันคุ้มค่าเลยทีเดียว เอาละนอกเรื่องกันมายาวละ เข้าเรื่องรีวิวของเรากันต่อ มือถือที่ผมจะมารีวิวให้ชมในตอนนี้ก็คือ i-mobile IQ X เป็นมือถือแอนดรอยด์หนึ่งในตัวท็อปของไอโมบาย เป็นมือถือตัวที่ 2 ของไอโมบายที่มาพร้อมกับซีพียู quad-core (ตัวแรกเป็น i-mobile 5.1)
เรื่องของหน้าจอแสดงผล
มาเรื่องกล้องหน้า
ดีไซน์ วัสดุ และงานประกอบ
คุณสมบัติและฟังก์ชัน
หน้าจอระบบแจ้งเตือนก็เป็น UI เดิมๆ ของ Android 4.2 เลย มีเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับเปิด/ปิดอุปกรณ์ต่างๆ ของตัวเครื่อง สามารถแสดงข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของเครื่องได้ ถ้าไม่ชอบก็เอาออกได้ครับ
IQ X รองรับการอ่านและพิมพ์ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering)
IQ X ไม่รองรับ MTP (Media Transfer Protocol) เวลาจะต่อมือถือกับเครื่องคอมเผื่อโอนย้ายไฟล์ต้องทำการเปิด USB Storage ก่อนทุกครั้ง ข้อเสียคือเราจะไม่สามารถบันทึกข้อมูลใดๆ จากมือถือเก็บใน microSD หรือหน่วยความจำของมือถือได้ จนกว่าจะปิด USB Storage
ประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะเวลาสลับจากแอพหนึ่งไปยังแอพหนึ่ง เวลาพิมพ์ข้อความก็มีหน่วงให้เห็นบ้างนิดหน่อย เวลาเปิดจริงๆ ช้าบ้าง ขึ้นอยู่กับแอพอย่าง Facebook มีช้าบ้าง Instagram ปกติ โดยรวมเรื่องประสิทธิภาพผมให้ผ่านนะ ทำได้ขนาดนี้ถือว่าโอเคมากๆแล้ว สำหรับมือถือราคา 9,490 บาท
กล้องและวีดีโอ
ตามสเปกระบุว่า i-mobile IQ X มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยแฟลชคู่ แต่ความจริงแล้วเซ็นเซอร์กล้องจริงๆ คือ 13 ล้านเท่านั้น แล้วใช้ซอฟท์แวร์ในการขยายขนาดภาพให้เป็น 18 ล้านพิกเซล
ซึ่งตัวแอพกล้องจะสามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายที่ความละเอียดเท่าไหร่ จากที่ทดสอบพบว่าภาพขนาด 18 ล้าน กับ 13 ล้านไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าซูมดูจะพบว่าภาพ 18 ล้านจะแตก ส่วน 13 ล้านรายละเอียดยังครบถ้วน
ส่วนเรื่องการทำงานของแอพถ่ายรูป อันนี้บอกตามตรง มีหน่วงบ้าง ซัตเตอร์มีช้าบ้าง เร็วบ้าง ขึ้นอยู่ที่สภาพแวดล้อมที่ถ่าย การโฟกัสภาพก็ทำได้เร็ว แต่ยังไม่สู้พวกตัวท็อปๆ ใน Android บางครั้งก็โฟกัสไม่ติด ภาพที่ถ่ายออกมาจึงเบลอ
อีกหนึ่งข้อสังเกตคือ ถ้าเราเปิดแฟลชถ่าย จะโฟกัสช้า และซัตเตอร์ก็ช้าตามไปด้วย
ตัวอย่างรูปถ่ายตอนเปิดแฟลช และไม่เปิดแฟลช จากที่ใช้งานพบว่าการจัดการแสงฟลชของ IQ X ทำได้ไม่ค่อยดี
ตัวอย่างรูปถ่าย
ตัวอย่างภาพอื่นๆ ที่ถ่ายจาก i-mobile IQ X สามารถเข้าดูได้ที่ Google+ ของ mobiledista ครับ
ตัวอย่างวีดีโอความละเอียด 1080p จาก i-mobile IQ X
ความยาวนานของการใช้งาน
ก่อนพูดถึงเรื่องแบตเตอรี่ ผมขอพูดเรื่องช่องเสียบ micro USB 2.0 ก่อน หลังจากที่ได้เครื่องมา และลองชาร์จแบตไปหลายรอบ พบว่าช่องต่อ micro USB ของ IQ X จะมีปัญหากับหัส micro USB บางอัน ปัญหาที่ว่าคือ เสียบแล้วชาร์จไฟไม่เขา คือมันมองไม่เห็นว่าเป็น micro USB นั้นเอง จากที่ลองกับสาย micro USB ที่ผมมี พบว่า หลายเส้นเลยที่เสียบแล้วไม่เจอ
IQ X ไม่สามารถถอดแบตได้ (ตอนแรกผมคิดว่าถอดได้ซะอีก) ตัวแบตเตอรี่ใส่มาให้ 2000 mAh จากที่ใช้งานมาพบว่า “ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ” ลองใช้งานหนักๆ พบว่าไม่ถึง 5 ชั่วโมงแบตก็ลงต่ำกว่า 20% แล้ว (ปกติผมเคยใช้ Nexus 4 แบบหนักๆ จากแบต 100% เหลือ 15% ภายในเวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ) แต่ถ้าสแตนบาย เล่นนิดๆ หน่อยๆ ก็อยุ่เกิน 8 ชั่วโมงแน่นอน เอาเป้นว่าถ้าใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน (ของคนทำงานประจำ) จะอยู่ได้ราวๆ 6 – 8 ชั่วโมงแน่นอน
จกาที่ลองใช้งานโดยเปิด WiFi Hotspot อย่างเดียว อยู่ได้ 4-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องที่มาต่อ
ความคุ้มค่า
มาถึงหัวข้อสุดท้ายของการีวิว i-mobile IQ X แล้ว ในหัวข้อนี้ผมจะพูดถึงความคุ้มค่า เรื่องฟีเจอร์ตัดไปได้เลย เพราะรุ่นนี้เป็น Android เพียวๆ ถ้าเทียบความคุ้มค่ากับประสิทธิภาพที่ได้ ก็ถือเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่า และเพียงพอสำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องการมือถือที่แรงมาก แต่เล่นได้ทุกอย่าง