เทรนด์การออกกำลังกายกำลังถาโถมเข้าสู่ชีวิตคนยุคนี้ ดังจะเห็นได้จากเครือข่ายสังคม ทั้งเฟซบุ๊กเอย ทวิตเตอร์เอย อินสตาแกรมเอย มักจะมีเพื่อนๆ ของเราถ่ายภาพตัวเองกับงานวิ่งที่นั่น เข้ายิมที่นี่ หรือแม้แต่การถ่ายภาพอาหารสุขภาพทั้งหลาย
แน่นอนว่า ผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ตามกระแสเทรนด์นี้เช่นกัน เลยอยากถือโอกาสนี้ร่วมแบ่งปันเทรนด์การออกกำลังกายนี้ผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า adidas Train & Run
แอปนี้อย่างที่ชื่อระบุชัดเจนว่า adidas Train & Run ย่อมต้องแปลว่า แอปพลิเคชันนี้เป็นของอาดิดาส ผู้ผลิตเครื่องกีฬาชั้นนำระดับโลก ซึ่งผมเองก็เป็นแฟนคลับของแบรนด์นี้อย่างเหนียวแน่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา จุดเด่นของแอปนี้อยู่ตรงที่ผู้ใช้งานสามารถออกแบบการออกกำลังกายให้เป็นไป “ตามความต้องการ” ของตัวเองได้อย่างหลากหลายผ่านฟังก์ชันที่มีให้ใช้งานครบครัน เดี๋ยวเราจะค่อยๆ เจาะดูว่า ภายในแอป adidas Train & Run มีอะไรน่าสนใจบ้าง
หลังการดาวน์โหลดแอปลงสมาร์ทโฟน เท่าที่ผมลองดูหน้าตาของแอป ยอมรับว่า adidas Train & Run พัฒนาอินเตอร์เฟสได้สวยงามขึ้น โดยหน้าตาของแอปได้มีการปรับเป็นรูปแบบใหม่ให้มีหน้าตาสวยงามเหมือนกันทั้งใน iOS Android และ Windows Phone
โอเค คราวนี้จะมาเจาะเป็นส่วนๆ ถ้าหากคุณผู้อ่านเลือกหัวข้อ Running หัวข้อนี้ทำออกมาเพื่อรองรับแก่ผู้ใช้ที่เป็นคนชอบออกกำลังกายประเภท “วิ่ง” เป็นพิเศษ เช่น ถ้าเราชอบการวิ่งมาราธอน ภายในแอปจะทำการ “ออกแบบ” ตารางการฝึกที่มีมาเฉพาะนักวิ่งมาราธอนเท่านั้นว่า การจะเป็นนักวิ่งมาราธอนจะต้องวางแผนการ Cardio อย่างไร จำนวนความถี่ในการ Cardio อยู่ที่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ ระยะเวลานานเท่าไหร่ แล้วจำเป็นต้องเข้ายิมไหม ถ้าต้องเข้ายิมควรออกกำลังกายด้วยท่าอะไรจึงจะเหมาะสมต่อนักวิ่งมาราธอน ทั้งหมดที่ว่ามานี้แอปจะทำจัดการให้เราหมด
แน่นอนว่า ถ้าเราไม่ใช่นักวิ่งมาราธอน แต่เป็นนักวิ่งที่วิ่งระยะสั้น 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร หรือสูงกว่านั้นคือระดับฮาล์ฟมาราธอนก็มีให้เลือกใช้งาน
หัวข้อต่อมาก็คือ Fitness ผมคิดว่าหัวข้อนี้ค่อนข้างตรงตัวครับ เพราะทุกวันนี้เราต่างคุ้นชินกับคำว่า Fitness อย่างดีมากแล้ว ในหัวข้อนี้ ก็จะให้ผู้ใช้ได้ออกแบบการออกกำลังกายเหมือนเช่นเคย ซึ่งก็จะมี 5 ส่วนให้เลือกบริหารร่างกาย คือ
- เพิ่มมวลกล้ามเนื้อสำหรับคนที่อยากเพิ่มขนาดกล้าม (Gain Muscle Mass)
- การฝึกโดยหวังผลในด้านกีฬา (Improve Athleticism)
- การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและไลฟ์สไตล์ (Better health and lifestyle)
- ปรับพื้นฐานการออกกำลังกาย (Build a training foundation)
- การฝึกโดยไม่ใช้อุปกรณ์ (Train without Equipment)
โดยทั้ง 5 ส่วนนี้ ก็จะมึแบบแผนการฝึกที่เป็นคาร์ดิโอและการเข้ายิมเหมือนกับ Running เพียงแต่ว่าเนื้อหา สัดส่วน ไปจนถึงท่าการออกกำลังก็จะแตกต่างออกไปตามรูปแบบที่เลือกฝึกครับ
สุดท้ายเป็นหัวข้อ Sports หมวดนี้เป็นส่วนที่ผมใช้งานเป็นประจำครับ เพราะความโดดเด่นของมันก็คือ เราสามารถเลือกได้เองครับว่า เราต้องการออกกำลังกายเพื่อที่เราจะนำการฝึกนี้ไปใช้ในการเล่นกีฬานั้นๆ โดยเฉพาะ ซึ่งมีตั้งแต่ American Football, Football, Basketball, Tennis และอีกเพียบ ตัวอย่างเช่น ผมต้องการฝึกร่างกายเพื่อนำไปใช้กับกีฬาอเมริกันฟุตบอล แอป adidas Train & Run ก็จะประมวลออกมาทันทีว่า การออกกำลังกายรูปแบบใดเหมาะสมแล้วจะช่วยพัฒนาการเล่นอเมริกันฟุตบอลได้บ้าง
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของแอป adidas Train & Run ผมคิดว่าอยู่ตรงที่เมื่อเราระบุชัดเจนแล้วว่า จะออกกำลังกายรูปแบบใด เมื่อเข้ามาสู่หน้าของการออกกำลังตามที่เรากำหนดไว้ (Training Plan) มันจะมีวิดีโอสาธิตการออกกำลังกายว่า แต่ละท่าต้องจัดวางตัวเองอย่างไร ถึงจะได้ประสิทธิภาพดีที่สุด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามความสามารถภายในแอป adidas Train & Run ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ภายในจะยังมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานอีกมากพอสมควร เช่น Blog ซึ่งจะเป็นเนื้อหา คำแนะนำ ทริคดีๆ ในการออกกำลังกาย Device ซึ่งจะเป็นส่วนของการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของอาดิดาสผสมผสานเข้ากับการออกกำลังกายและใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันนี้ รวมไปถึงการซิงค์เข้ากับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับอาดิดาสครับ ก็ลองใช้งานดูครับ เพราะนี่คือแอปที่พกพาความสามารถครบครันจริงๆ
สำหรับ adidas Train & Run มีให้ใช้งานทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS | Android| Windows Phone ครับ ดาวน์โหลดไปใช้งานได้ตามสะดวกครับ
กด Like เพจเพื่อติดตามข่าวสาร