Huawei ต่อยอดความสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว โดยการส่ง Huawei P10 ที่รอบนี้มีสีให้เลือกเต็มพิกัดถึง 6 สี แถมในปีนี้ยังจัดกล้องหน้า ‘Leica’ มาให้ด้วย
ดาวเด่นในงาน Mobile World Congress 2017 ประจำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แน่นอนว่า หนีไม่พ้น Huawei ที่ประกาศไว้ล่วงหน้าแล้วว่า Huawei P10 และ Huawei P10 Plus มาแน่ๆ
และแล้วก็เป็นไปตามที่คาดจากที่เคยเห็นในเทรลเลอร์ตัวแรก นั่นคือ Huawei P10 เปิดตัวสีใหม่ให้เลือกอย่างครบครันยิ่งกว่าขบวนการ 5 สี เพราะ P10 มีให้เลือกตั้งแต่ สีเงิน Mystic Silver, สีชมพู Rose Gold, สีดำ Graphite Black, สีทอง Dazzling Gold, สีฟ้า Dazzling Blue และสีเขียว Greenery ซึ่งเป็นสีหลักๆ
Huawei P10 ยืนหยัดบนขนาดหน้าจอพอดีมือ 5.1 นิ้ว ความละเอียด 1080p แต่ถ้าต้องการความละเอียดกว่านั้น จะต้องหันไปมอง P10 Plus ที่มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด QHD
นอกเหนือจากนี้ความแตกต่างระหว่าง P10 และ P10 Plus อยู่ที่ความจุของเครื่องที่มี 64GB แรม 4GB แบตเตอรี 3,200mAh ซึ่งของ P10 Plus จะไฮเอนด์กว่า เช่น แรมขนาด 6GB หน่วยความจำเครื่อง 128GB แบตเตอรี 3,750mAh สิ่งที่เหมือนกันของสองโมเดลนี้คือ ชิปประมวลผล Kirin 960 ที่เป็นการพัฒนาของ Huawei เอง
ทั้งนี้ในเรื่องของแบตเตอรี เป็นครั้งแรกที่ Hauwei จัดให้ P Series ใช้งานการชาร์จเร็วที่เรียกกันว่า Supercharge แถมยังบอกว่า เพียงแค่การชาร์จ 20 นาที ก็เพียงพอต่อการใช้งานตลอดวัน
พร้อมกันนี้การมาของ P10 ยังเป็นเสริมเติมแต่งด้านอินเตอร์เฟส Emotion UI เวอร์ชันใหม่ 5.1 ที่จะมาครอบทับ Android 7 Nougat ซึ่ง Emotion UI จะมีการปรับหน้าตาใหม่ มีฟีเจอร์ที่จะแปลงภาพถ่ายไปเป็นวิดีโอด้วย
ด้านซอฟต์แวร์ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะ P10 จะเป็นครั้งแรกที่นำเอา Matchine Learning มาใช้ หลังนำร่องมาก่อนแล้วในรุ่น Mate 9 ที่วางจำหน่ายเมื่อปลายปีที่แล้ว มาช่วยในด้านการจัดการหน่วยความจำ ทำให้เครื่องทำงานได้เร็ว ไม่ช้า ไม่อืด
ขณะเดียวกันด้านการออกแบบแม้ว่าดูจะไม่แตกต่างจาก Huawei P9 มากนัก แต่ก็จะมีที่เห็นถึงความแตกต่างแบบชัดๆ อยู่ก็จะมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ย้ายมาเป็นปุ่ม Home ด้านหน้า ซึ่งจะทำงานเป็นปุ่ม Back และ Recent ในปุ่มเดียว วิธีการใช้ก็คือ แตะ 1 ครั้งเป็นปุ่ม Back, กดค้างเป็นปุ่ม Home ใช้นิ้วปาดที่ปุ่มจะเป็น Recent
ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งเห็นจะเป็นด้านการเชื่อมต่อ เพราะ Huawei มีเคลมว่า เป็นเจ้าแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE และใช้งาน P10 บนเครือข่ายย่านความถี่ต่างๆ ได้ทั่วโลก
สุดท้ายที่เป็นจุดขายของ P10 นั่นคือ การถ่ายภาพ ซึ่งยังคงทำความร่วมมือกับ Leica เหมือนเดิม แต่คราวนี้มาทั้งหน้าและหลัง (ตามที่คาดไว้จากวิดีโอตัวแรกสุด) กล้องหลังจะยังคงใช้เลนส์ 2 ตัว แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซลของภาพสี และ 20 ล้านพิกเซลของภาพขาวดำ
ความร่วมมือในครั้งนี้ Huawei เรียกว่า Leica Dual Camera 2.0 (ถ้าเป็น P10 Plus จะมีคำว่าPro Edition) ที่จะนำเอาเทคโนโลยีการถ่ายภาพมาใส่ไว้ใน P10 และ P10 Plus เช่นการถ่ายภาพ Bokeh ที่ดีกว่าเดิม, การปรับแสงเพื่อให้ภาพออกมาสวยงามที่สุด, การจับโฟกัสที่ดีขึ้น รวมถึงจุดเด่นที่ Huawei พยายามขายคือ Leica Portrait ที่จะให้ประสบการถ่ายภาพที่ใกล้เคียงกับกล้อง Leica จริงๆ
และที่พิเศษสุดก็คือกล้องหน้า ที่มีการร่วมมือกับ Leica ส่งผลให้หลังจากนี้น่าสนใจว่า P10 จะเป็นกล้องหน้าที่มีความโดดเด่นเทียบกับเจ้าอื่นๆ ได้หรือไม่