Samsung Galaxy S5 Review: เรียบ ไร้เสน่ห์

1. Galaxy S5 Cover

อาจเป็นความโชคดีที่ในทุกๆ ปีจะได้มีโอกาสสัมผัสกับสมาร์ทโฟนนามกระเดื่องที่ซัมซุงภาคภูมิใจอย่างตระกูล Galaxy ก่อนที่ช่วงหลังตลาด Phablet โบยบินเข้ามาจนกระทั่งยึดหัวหาดเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จนทำให้ดูคล้ายกับว่า Galaxy ที่รันตัวเลขมาตั้งแต่ Galaxy S, Galaxy S II จนถึงรุ่นนี้ Galaxy S5 ซุ่มเสียงความน่าสนใจดูลดน้อยถอยลง

เท่าที่ฟังเสียงของมวลมหาประชาชนจำนวนหนึ่งที่ได้ลองจับ สัมผัส Galaxy S5 ต่างค่อนข้างรู้สึกผิดหวังกันอยู่เล็กน้อย ด้วยความที่ตัวเครื่องไม่ได้ดูหรูหราอย่างที่คาดคะเนกะเกณฑ์ไว้ ซึ่งมวลมหาประชาชนบางท่านที่เป็นเจ้าของ Galaxy Note 3 ต่างก็รู้สึกยินดีโล่งใจที่ Galaxy S5 ไม่ได้เป็นรุ่นที่น่าสนใจเท่ากับ Galaxy Note 3 ที่อยู่ในมือ

สำหรับตัวผมแล้ว อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า มีโอกาสได้สัมผัส Galaxy มาทุกรุ่น หากถามถึงความชอบในซีรีส์นี้ ต้องบอกว่า ความชอบของผมต่อ Galaxy มันหยุดนิ่งอยู่กับที่ตั้งแต่ Galaxy SII

2.-First-Impression

First Impression ของ Galaxy S5 มันไม่ได้รู้สึกฟีลกู๊ดดังเช่นเดียวกับตอนนั่งดูหนังของค่าย GTH แต่มันเป็นเพียงแค่การนำสมาร์ทโฟนรุ่นกลางอย่าง Galaxy Grand 2 มาเสริมแต่งนิดหน่อยเท่านั้น ตรงส่วนด้านหลังที่มีการใช้พลาสติกผสมยางให้ดูหยุ่นๆ แบบที่เคยเห็นใน Nexus 7 รุ่นแรก ซึ่งบอกตามตรงแล้วยังไม่รู้สึกแฮปปี้ตรงด้านหลังเครื่องส่วนนี้มากนัก หากว่ากันตามตรงแล้ว หนังเทียมของ Galaxy Note 3 ทำให้รู้สึกดีกว่าด้วยซ้ำไป ขอบด้านข้างเครื่องก็ Copy and Paste มาจาก Galaxy Note 3

โอเค! บอกแบบไม่อคติ ผมยังชอบดีไซน์ Galaxy Note 3 มากกว่า

สเปกเครื่อง จริงๆ แทบไม่ต้องซีเรียสมาก เพราะสเปกค่อนข้างจัดเต็ม ใช้งานได้ไม่หน่วงนะ (เท่าที่ได้เทสต์มาจริงๆ มันเป็นเช่นนั้น) ตรงนี้ดีกว่าตอนที่รีวิว Galaxy Note 3 มาก เพราะรุ่นพี่โน้สอุดม บอกตรงๆ คุณภาพซอฟต์แวร์แย่มาก แต่ตอนเป็น Galaxy S5 โอเคขึ้น

สเปกเครื่องโดยคร่าว

  • หน้าจอ 5.1 นิ้ว Super AMOLED
  • ควอดคอร์ 2.5GHz (Snapdragon 801)
  • กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
  • รองรับกันน้ำกันฝุ่น มาตรฐาน IP67

รายละเอียดสเปกเครื่องแบบละเอียดๆ เรียนเชิญที่ http://spec.mobiledista.com/samsung/samsung-galaxy-s5/

3.-Key-Features

ความสามารถหลักๆ ที่ผมทดสอบนี้ จะมีฟังก์ชัน Magazine, ฟังก์ชันด้านสุขภาพ ของใหม่ที่ซัมซุงแต่เก่าจากที่อื่น เช่น การแสกนลายนิ้วมือ และการกันน้ำ

4

เริ่มที่ฟังก์ชัน Magazine ก่อน จะว่าไปแล้วฟังก์ชันนี้ไม่ได้เป็นของใหม่เสียทีเดียว เพราะเราเคยได้มีโอกาสทำความรู้จักกันบ้างแล้ว ผ่าน Galaxy Note 3 ซึ่งแอป Magazine ที่ว่านี้ ทางซัมซุงได้ให้ Flipboard เป็นผู้พัฒนาได้ หลักๆ แล้วก็มีไว้อ่านฟีด สำหรับผมแล้วก็ใช้บ้าง แต่รู้สึกว่า มันยังไม่สะดวกมือ สะดวกใจ เท่ากับการใช้ Flipboard จริงๆ ก็เลยไม่ได้ใช้ส่วนนี้มากนัก

5-1.-Exercise

ฟังก์ชันต่อมา เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างจาก Magazine ที่เป็นฟังก์ชันมาตั้งแต่ Galaxy Note 3 แน่นอนว่า ซัมซุงพยายามที่จะเกาะขบวนนี้อย่างเหนียวแน่น เพราะมิเช่นนั้นแล้ว เราคงไม่ได้เห็น Galaxy Gear (ที่เปิดตัวได้ไม่สวยสักเท่าไร) และของใหม่อย่าง Gear Fit ขึ้นมา รวมไปถึงการรีบิ้ว Galaxy Gear ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Tizen (จะว่าไปแล้ว S5 มีส่วนที่คล้ายๆ Tizen เหมือนกันครับ ตรงที่หน้า Setting ที่มีการใช้ UI แบบกลมๆ)

IMG_0481

ที่จะบอกนี้ คือ Galaxy S5 ก็ยังเน้นด้านสุขภาพ แถมยังเพิ่มดีกรีด้วยการเพิ่มเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งใช้วิธีง่ายๆ แค่แตะที่ด้านหลังเครื่องใต้กล้อง กอปรกับลูกเล่นเดิมอย่างการวัดอัตราก้าวเดิน การคำนวณแคลอรีในอาหาร ตรงนี้อาจลำบากสำหรับคนไทยนิดหน่อย เพราะว่า อาหารที่ Preset มาให้ ยังเน้นเป็นอาหารต่างชาติ เราจะต้องเพิ่มอาหารแบบไทยๆ เข้าไปเอง ซึ่งปัญหาคือ เราเองก็ไม่แน่ใจว่า อาหารไทย เช่น อาหารตามสั่งนี้จะมีแคลอรีสักเท่าไหร่ (ต้องลองเทียบใน Google ดู)

ss

นอกจากนี้แล้ว ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่เอาใจสิงห์นักปั่น คนชอบวิ่ง ไปจนถึงนักปีนเขาด้วย ก็ถือว่าตอบโจทย์คนชอบออกกำลังกายแบบคร่าวๆ ได้ดีในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ Make Sure ว่า ฟังก์ชันด้านสุขภาพของซัมซุงนี้ แม่นยำ 100% หรือไม่ ส่วนการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Gear Fit หรือ Gear 2 อันนี้ก็ยังไม่ทราบนะครับ เพราะต้นสังกัดซัมซุงส่งมาแค่ตัว Galaxy S5 อย่างเดียว

ss-2

จะว่าไปแล้วฟังก์ชันที่เคยเป็นจุดขายมาก่อนของซัมซุงอย่าง Gesture มาคราวนี้ ภายใน Galaxy S5 กลับแทบไม่ถูกพูดถึง โดยรวมความสามารถของการใช้เซ็นเซอร์ผ่านมือนั้น ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมเข้ามา การเปิดการใช้งานเพียงเข้าไปที่ Setting เป็นอันจบ

7-1-Private

Private Mode ก็ถือเป็นฟังก์ชันที่เหมาะแก่การใช้งานของคนทั่วไปอยู่ไม่น้อย หลายครั้งเราต้องคิดด้วยว่า สมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องของเรา ถือเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล และไม่ควรที่จะถูกละเมิดโดยใครไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ฟังก์ชันนี้ก็ถือว่า จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะ ‘ซ่อน’ ไฟล์ โดยเราจะเป็นผู้เห็นทั้งหมด ผ่านการตั้งรหัสผ่าน หลักๆ แล้วที่จะซ่อนไฟล์ก็จะเป็นไฟล์รูปภาพ วิดีโอ เพลง การบันทึกเสียง

ข้อสังเกตคือ เวลาที่จะย้ายไฟล์ให้สังเกตคำสั่งที่ว่า move to Private ตรงนั้นไฟล์ก็จะเข้าไปสู่ระบบความเป็นส่วนตัวแล้ว

8-toggles

ส่วนการใช้งานก็ไม่ยากสั่งการใช้งานได้จาก Toggle ด้านบนตัวเครื่อง

หากจำกันได้ หลายๆ ครั้งเวลาที่ผมได้มีโอกาสรีวิวสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ผมมักมีข้อคิดเห็นว่า ฟังก์ชันการกันน้ำ หรือกันฝุ่น ควรเป็นฟังก์ชันมาตรฐานที่มีมาในสมาร์ทโฟน ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะแบรนด์

8.-Water-Proof

คราวนี้ใน Galaxy S5  ถือเป็นหมุดหมายที่ดี ที่มีการนำ การกันน้ำกันฝุ่นมาใช้ ในมาตรฐาน ตรงนี้จากการใช้งานมา ก็ต้องย้ำเตือนว่า มันกันน้ำได้จริง แต่ว่าตัวเครื่องไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ลุยลงน้ำแบบเต็มที่ สิ่งที่ดีที่สุด คือ เอาไว้เวลาตัวเครื่องโดนน้ำแบบสุดวิสัยจะดีกว่า (ในภาพทดสอบเพื่อให้เห็นภาพเฉยๆ ครับ)

8s

เช่นกันหากจะกล่าวว่า Galaxy S5 มีความสามารถด้านการกันน้ำแล้ว ก็คงเปรียบเสมือนสิ่งที่เป็นของเก่าสำหรับแบรนด์อื่น แต่ใหม่สำหรับซัมซุง ระบบสแกนลายนิ้วมือเองก็เช่นกัน ที่ถือว่าเป็น ‘ของใหม่’

จากการทดสอบการใช้งาน ว่ากันแบบตรงไปตรงมา ผมไม่ค่อยชอบการสแกนลายนิ้วมือสักเท่าไหร่ เพราะมันจุกจิก จากการมีตัวแปรควบคุมที่มากเกินไป เช่น หากนิ้วมันๆ ไม่สะอาด การสแกนก็จะมีปัญหา ไหนเลยเวลาที่จะสแกนตรงลายนิ้วมือจะต้องวางในแนวตรงกับตัวสแกนนิ้ว ซึ่งหลายครั้งในการใช้งานจริงๆ คงไม่มีผู้ใช้รายใดจะค่อยๆ บรรจงเอานิ้วแตะลากลงเพื่อสแกนแบบใจเย็นกันหรอก

นอกเหนือจากไปจากนี้แล้ว การตั้งค่านิ้วแต่ละนิ้ว เพื่อใช้เป็นตัวสแกนก็ค่อนข้างต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะด้วยการที่จะตั้งค่านั้น จะต้องใช้นิ้วรูดแตะจากหน้าจอลงสู่ปุ่ม Home ถึง 8 ครั้ง อีกทั้งระบบยังอนุญาตให้ใช้นิ้วได้แค่ไม่เกิน 3 นิ้ว เท่านั้น อันนี้ผมว่า มันน้อยไปนิดนึง

อย่างไรก็ตามครับ จากการที่ทดลองมา นิ้วที่เหมาะสมต่อการสแกนมากที่สุด คือ นิ้วโป้งครับ ง่ายที่สุดแล้ว และก็เหมาะสมที่สุดแล้ว ส่วนอวัยวะอื่นๆ หากใครอยากลอง แนะนำข้อศอกครับ อันนี้สแกนง่าย-เร็ว กว่านิ้วชี้ซะอีก หากแต่เป็นอวัยวะอย่างอื่น ต้องไปลองกันเองนะครับ :P

killin

จากที่ผมร่ายยาวมาทั้งหมด ฟังก์ชันการใช้งานภายใน Galaxy S5 ที่ถือว่า น่าสนใจ บอกตรงๆ เลยว่า ที่ผ่านมานั้น ไม่มีฟังก์ชันใดไหนเลย ที่ถูกใจผม มันยังไม่มี Killing Feature ที่ต้องร้องว้าว! แต่ฟังก์ชันสุดท้ายที่จะถูกพูดถึงนี้ ผมว่า มันเป็นฟังก์ชันที่ดีที่สุดใน Galaxy S5 ฟังก์ชันที่ว่านี้ คือ ‘Ultra Power Saving’

ฟังก์ชันนี้พูดกันแบบง่ายๆ เลย มันคือ ฟังก์ชันที่ทำให้ Galaxy S5 เป็นรูปแบบขาว-ดำ เป้าประสงค์เพื่อให้ประหยัดแบตเตอรีนั่นเอง ยามใดก็ตามหากสมาร์ทโฟนคู่ใจอันนี้ ไฟจะมอดดับลง การใช้ฟังก์ชันี้จะช่วยให้แบตเตอรีอยู่ได้นานขึ้น อย่างน้อยๆ สามารถเซฟชีวิตสมาร์ทโฟนให้ถึงบ้านอยู่รอดปลอดภัยนั่นเอง

9-1.Ultra-Power-Saving-edit

ผมลองแล้ว อันนี้มันเวิร์กมาก โดยเฉพาะหากรู้ว่า วันไหนที่จะต้องกลับบ้านดึกๆ แล้วไม่อาจหา Power Bank ได้ หรือเสียบชาร์จตัวเครื่องเข้าไฟบ้าน การใช้ Ultra Power Saving จึงเป็นอะไรที่เวิร์กมาก

9-2.-Battery

และข้อดีที่ว่าดีที่สุด ของตัวนี้ มันอยู่ตรงผู้ใช้สามารถเพิ่มแอปพลิเคชันที่ ‘ผมรู้คุณก็ใช้’ อย่าง Twitter, Facebook หรือ LINE  ได้ด้วย ซึ่งการเรียกการใช้งานนี้ก็ไปได้ที่ Toggle เช่นเคย แต่หากจะว่าไปแล้วมันอาจเป็นภาพสะท้อนบางอย่างว่า Galaxy S5 อาจกินแบตมากเกินคาด จึงจำเป็นต้องมีฟังก์ชันนี้

หมดเรื่องฟังก์ชันไปแล้ว เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการรีวิว Galaxy S5 ขอพูดถึงเรื่องกล้องกันบ้างครับ

ss-4

จุดขายจริงๆ จากที่มีมาใน Galaxy S5 ผมคงยกให้เป็นเรื่อง Selective Focus เป็นประการแรก จริงๆ แล้ว Selective Focus ก็คือการทำให้ภาพเป็นแบบหน้าชัด-หลังเบลอ หรือหลังชัด-หน้าเบลอ หรือชัดทั้งภาพ ก็ถือว่า ทำได้โอเคนะครับ ดูดีเลยทีเดียว

โดยรวมแล้ว ผมว่ากล้องของ Galaxy S5 ถือว่า ทำได้ดีเลย ใช้แล้วรู้สึกชอบกว่าตอนที่ถ่ายผ่าน Note 3 เสียอีก แต่หากใครที่ชอบถ่ายภาพเวลากลางคืนก็อาจจะยังเป็นปัญหาอยู่สักหน่อย

ภาพคร่าวๆ ผ่านเลนส์กล้อง Galaxy S5 ก็ตามนี้เลยครับ

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการรีวิว Galaxy S5 จริงๆ แล้วครับ จากการทดลองการใช้งานเป็นเวลา 3 วันเศษๆ ระบบซอฟต์แวร์ของรุ่นนี้ทำได้ดี อาจเป็นเพราะโดนก่นบ่นด่าไว้เยอะจากตอน Galaxy Note 3 ค่อนข้างโชคดีว่า ยังไม่เจออาการหน่วง ซอฟต์แวร์ค้าง-พัง-รีสตาร์ทตัวเอง ก็ถือว่าตรงนี้สอบผ่าน

ในแง่แบตเตอรีส่วนตัวจากการใช้งานและไลฟ์สไตล์ผม ในช่วงทดสอบ Galaxy S5 ค่อนข้างใช้งาน Social Network บ่อย (แลดูเหมือนว่าง) หน้าจอที่มีความคมละเอียด (มากๆ อันนี้ยอมรับ) ก็เป็นอีกตัวแปรที่ทำให้แบตเตอรีสูบไปเยอะ เลยรู้สึกว่าแบตไม่ได้อึดแกร่งเรียกพี่สักเท่าไหร่

ด้านฟังก์ชันการใช้งาน ตามที่บอกไว้ ไม่โดดเด่น แต่ฟังก์ชันการใช้งานเริ่มกลับสู่สภาพความเป็นจริง นั่นคือ ‘ผู้ใช้สามารถใช้งานได้จริง’ มากขึ้น หลังจากที่ซัมซุงมัวไปเน้นฟังก์ชันที่ดู Cool แต่ใช้จริงกลับ Not cool มานาน

หากให้วิพากย์ Galaxy S5 จริงๆ ก็คงเป็นสมาร์ทโฟนที่เรียบ และเกือบจะดูดี แต่สเน่ห์ของมันว่ากันตรงๆ ไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่ ด้วยความที่ตลอดที่ใช้มา การจะหาคำตอบว่า แล้วตกลง Galaxy S5 อะไรล่ะที่เป็นจุดเด่น ?

นั่นสิครับ แล้วอะไรล่ะที่เป็นจุดเด่น ?

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า S5 จะไม่มีสเน่ห์ (ยังยืนยัน) แต่อย่างน้อยๆ จากที่ทดลองใช้มา ก็หาจุดอ่อนที่มีต่อรุ่นนี้ไม่ได้เช่นกัน (นี่คือนึกไม่ออกจริงๆ) ถ้าจะบอกว่าเป็นเรื่องการดีไซน์ อันนี้ผมว่า มันไม่ได้ถูกต้องเกินกว่าจะเรียกว่าจุดอ่อน

ถ้าให้เปรียบเทียบแล้ว Galaxy S5 คงเป็นสมาร์ทโฟนที่ ‘เรียบ ไร้เสน่ห์ ’