mobiledista.com

รีวิว Samsung Galaxy Core Duos: มือถือ 2 ซิม! ชิป Dual core! ซิม 1 โทรอยู่ ซิม 2 รับสายได้

Galaxy Core-13

Galaxy Core หรือ Galaxy Core Duos รุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Samsung Galaxy หลังจากที่ซัมซุงเริ่มออกมือถือ 2 ซิมออกมา ก็ได้มีการทำสัญญาลักษณ์ไว้ที่ตัวเครื่อง โดยเขียนคำว่า Duos กำกับไว้ เพื่อแสดงให้รู้ว่ารุ่นดังกล่าวรองรับ 2 ซิมนั่นเอง

กรณีของ Galaxy Core เองก็เช่นกัน รุ่นนี้จะมี 2 รุ่น คือ Galaxy Core GT-I8260 เป็นรุ่น 1 ซิม (ไม่มีขายในบ้านเรา) และ Galaxy Core GT-I8262 หรือเรียกอีกชื่อว่า Galaxy Core Duos และยังมีการแยก 3G เป็น 900/2100 และ 850/2100 อีกด้วย

ใครสนใจรุ่นนี้สามารถหาซื้อได้แล้ว ราคาอยู่ที่ 7,900 บาท ในรีวิวนี้ผมขอเรียกว่า Galaxy Core Duos ก็แล้วกัน จะได้เข้าใจตรงกันว่ามันคือรุ่นที่รองรับ 2 ซิม

ก่อนที่เข้าใจรีวิว ผมขอทำความเข้าใจกับท่านผู้อ่านนิดนึง เครื่องที่ท่านจะได้อ่านรีวิวในบทความนี้เป็นเครื่องทดสอบ ใส่ซิมยังไม่ได้ (ใส่แล้วมองไม่เห็นซิมการ์ด) ฉะนั้นในรีวิวนี้ผมจะไม่สามารถทดสอบเรื่องซิมการ์ด ข้อมูลที่ผมจะกล่าวถึงเรื่องที่เกี่ยวกับซิมการ์ดและการสัลบกรใช้งานต่างๆ จะเป็นข้อมูลจากสเปกของตัวเครื่อง

รูปร่างหน้าตาของ Galaxy Core Duos ก็ไม่แตกต่างกับพี่น้องตระกูล Galaxy ด้วยกัน ถ้าไม่สังเกตดีๆ รับรองว่าแยกไม่ออกแน่นอนว่าคือรุ่นไหน วัสดุก็ยังคงเป็นพลาสติกตามแบบฉบับของค่อยซัมซุงเค้า งานประกอบดูดีเลย จริงๆผมว่างานประกอบของซัมซุงรุ่นต่ำกว่าหมื่นหลายรุ่นทำได้ดีกว่ารุ่นเกินหมื่นของซัมซุงด้วยกันเองหลายรุ่นเลย

หน้าจอมาพร้อมกับปุ่ม Home แบบกด และปุ่มเมนูและย้อนกลับแบบสัมผัสตามมาตรฐานของซัมซุงอีกเช่นกัน

หน้าจอเป็น TFT LCD ขนาด 4.3 นิ้ว 217 ppi ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล แสดงผลได้ 16 ล้านสี ถ้าไม่ใช่คนที่เคยใช้หน้าจอที่ละเอียดมาก่อนก็จะไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเคยใช้พวกจอละเอียดมากๆ มาก่อนจะขัดตาแน่นอน เพราะความละเอียดต่างกัน แต่ความสดของหน้าจอก็ไม่ขี้เหร่ เสียตรงปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติไม่ได้ มีกล้องหน้ามาให้ความละเอียด 3 แสนพิกเซล

อ้อ… Galaxy Core Duos มีฟีเจอร์ Smart Stay ด้วยนะ ถ้าเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ จะช่วยให้มือถือไม่พักหน้าจอในขณะที่เรากำลังอ่านข้อความในมือถืออยู่ ตราบใดที่เรายังมองหน้าจออยู่ มันก็จะไม่พักหน้าจอ

แต่ความเป็นจริง เวลาใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ค่อนข้างเป็นข้อจำกัด ทำให้ฟีเจอร์นี้ทำงานไม่ค่อยเต็มประสิทธิภาพ เช่นในมืด หรือแสงไม่เพียงพอ กล้องหน้าจะจับใบหน้าของเราไม่ได้ ทำให้ใช้ๆอยู่ พักหน้าจอไปซะงั้น

ตัวฝาหลังเป็นพลาสติกผิวมันวาว มีลวดลายอยู่ในฝาหลังด้วย ข้อเสียของฝาหลังแบบนี้มันเกิดคราบเหงื่อได้ง่าย ไม่ค่อยเห็นชัด แต่คนใช้งานจะรู้สึกได้ และด้วยพื้นผวที่มันวาวทำให้เวลาจับก็ลื่นมือนิดหน่อย ยิ่งมีคราบเหงื่อก็ยิ่งทำให้จับยาก

กล้องหลังจัดความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชมาให้ คุณภาพก็วัดได้ที่ตัวอย่างภาพถ่ายครับ ส่วนวีดีโอถ่ายได้แค่ความละเอียด 480p@30fps เท่านั้น

รุ่นนี้สามารถแกะฝาหลังได้ ใสแบตความจุ 1800 mAh มาให้ ที่บอกตอนต้นว่า Galaxy Core Duos เป็นมือถือแอนดรอยด์ 2 ซิม แบบ Dual Sim always on คือ 2 ซิม ออนตลอด ซิม 1 โทรอยู่ซิม 2 รับสายได้ เข้าใจว่าน่าจะเป็นแบบ Galaxy Grand ใช้วิธีการโอนสายจากซิม 2 มา ซิม 1 ในลักษณะสายซ้อนแทน (ใส่ซิมไม่ได้ เลยไม่ได้ทดสอบให้ดู)

โดย Galaxy Core Duos รองรับซิมที่เป็น micro SIM ทั้ง 2 ช่อง ซิม 1 เวลาจะใส่จะถอดต้องแกะแบตออกก่อน ส่วนซิม 2 ถอดได้เลย ช่องใส่ microSD ตอนแรกก็หาไม่เจอ ปรากฏว่าอยู่บนช่องใส่ซิม 1 อีกที

ในเมนูตั้งค่าจะมีในส่วนของการตั้งค่าดารใช้งาน 2 ซิมมาให้ โดยรุ่นที่จำหน่ายในไทยก็เป็นรุ่นที่แยก 3G คคือรุ่นที่รองรับ 3G 900/2100 (AIS/TOT) กับ 850/2100 (Dtac/Truemove H/TOT) เวลาจะซื้อก็เช็คเครื่องดีๆ ถ้าซื้อมาผิดจะลำบาก แม้ตอนี้ในไทยจะมี 3G 2100 ให้ใช้ทุกค่ายแล้ว แต่ก็ยังไม่ครอบคลุม

Galaxy Core Duos มาพร้อมกับ Android 4.1.2 Jelly Bean พร้อมด้วย TouchWiz UI เรื่องอัพเกรดเป็น Android เวอร์ชั่นใหม่น่าจะเป็นไปได้ยาก หรือจะบอกว่าไม่ได้อัพเลยก็ไม่นผิดนัก ซื้อ Galaxy Core Duos แถมแพมาด้วยนั่นเอง

การใช้งานทั่วไปยังมีกระตุกอยู่ หน่วงอยู่ เปิดแอพช้าบ้างตามสเปก และด้วยอินเตอร์เฟส TouchWiz ที่มักจะมีปัญหา lag ให้เห็นบ่อยๆ พออยู่บนรุ่นที่สเปกไม่ค่อยแรงก็จะมีหน่วงมีกระตุกมากกว่ารุ่นที่สเปกแรงๆ แต่ไม่ถือว่าหน่วงจนน่าเกลียดครับ ยิ่งเวลาที่ออกจากแอพที่ใช้งานนานๆ หรือพวกเกมจะเห็นได้ชัด กดป่ม Home ไปแล้ว สัก 2-3 วินาทีถึงจะออกจากแอพให้

เรื่องภาษาไทยบนรุ่นนี้น่าจะหายห่วง มีเมนูไทยแสดงผลไทยได้สมบูรณ์ ที่สำคัญตัวนี้มีฟีเจอร์ที่มีบนรุ่นพี่มาให้หลายตัว อาทิ Smart Alert, Smart Stay และ  Best Shot

Galaxy Core Duos ยังรองรับ Motion UI 3 แบบ อันได้แก่ Smart Alert ด้วย เป็นระบบแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความหรือสายที่ไม่ได้รับ เพียงแค่เรายิ้มมือถือขึ้นมาดูก็จะสามารถดูสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความที่ยังไม่ได้อ่านได้เลย, อันที่สองคือเขย่าเพื่ออัพเดท, อันสุดท้ายคือ คว่ำมือถือลงเพื่อปิดเสียง

สเปกอื่นๆ เผื่อมีใครอยากรู้ ซีพียูเป็น Dual-core ความเร็ว 1.2 GHz ชิป Qualcomm Snapdragon MSM8625 แรม 1GB  ชิปกราฟฟิก Adreno 203 หน่วยควมาจำ 8GB เหลือใช้งานไม่ถึง 5GB

การเล่นเกมส์บน Galaxy Core Duos ก็ถือว่าอยู่ในระดับดีพอไหว ด้วยหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว มันเพียงพอสำหรับการเล่นเกมแน่นอน เรื่องสีสันก็สวยอยู่ อาจจะไม่คมเท่าไหร่ ยังมีกราฟฟิกแตกๆให้เห็นอยู่ ส่วนความรู้สึกตอนเล่นผมว่ามันยังมีหน่วงอยู่ อย่างตอนเล่นเกมส์ Modern Combat 4: Zero Hour จะเห็นว่ามันควบคุมยาก และมีอาการหน่วงให้เห็น จริงๆ จะว่าหน่วงก็ไม่ใช่ จะให้ถูกต้องบอกว่ามันไม่ลื่นไหล บางเกมที่ลองเล่นถึงกับมีอาการกระตุกเป็นพักๆ เลย

กล้อง

สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 5 ล้านพิกเซล ขนาดของภาพอยู่ที่ 2560×1920 พิกเซล ข้อเสียที่ผมเจอคือ โฟกัสช้า บางทีกดถ่ายแล้วโฟกัสไม่ติด จะให้ชัวร์ต้องกดโฟกัสก่อนแล้วค่อยกดถ่าย ซัตอเตอร์ก็ช้ากดถ่ายแล้วกว่าจะโฟกัสแล้วถ่ายก็นานหลายวินาทีเลย (2-3 วินาทีกว่าจะโฟกัสติด) เมนูตั้งค่ายังหน่วงๆ อยู่ ที่เหลือก็โอเคครับ ภาพที่ได้ไม่ถึงกับดี เพราะภาพมันไม่คม สีไม่สด

ส่วนวีดีโอถ่ายได้สูงสุดแค่ 480p (720×480 พิกเซล)

ตัวอย่างภาพถ่าย

ภาพถ่ายกลางแจง

ภาพถ่ายตอนเปิดแฟลช

เปรียบเทียบภาพถ่ายตอนไม่เปิดแฟลช และเปิดแฟลช

ตัวอย่างวีดีโอ

 

Exit mobile version