หนทางการพาประเทศไทยก้าวเข้าสู่ Thailand 4.0 อาจมีชะงักก็ได้ครับ หากกรมขนส่งชงเรื่องห้ามให้บริการ Uber รวมถึงแอปอื่นที่มีความใกล้เคียงด้วยมาตรา 44 ของคสช.
ช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เราจะเห็นหน่วยงานของรัฐมีการดักจับ Uber และ Grabcar ทั้งในเขตกรุงเทพและเชียงใหม่ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ถือว่ามีปัญหาตามมาเยอะทีเดียว
นายณัฐพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมขนส่ง เปิดเผยว่า แอปพลิเคชัน Uber ถือว่าเป็นการให้บริการที่ไม่ถูกกฎหมายตามประกาศของกรมการ
แต่ความน่าสนใจก็คือประโยคที่นายณัฐพงศ์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Nation
We may need a stronger medicine; we might propose the use of Article 44 to close this [Uber] app, as it is destroying the public transport system in the area”
ความหมายของประโยคนี้คือ ทางกรมการขนส่งอาจต้องใช้ยาแรง โดยอาจเสนอใช้มาตรา 44 เพื่อปิดการให้บริการแอปพลิเคชัน Uber เพราะมันทำลายระบบการขนส่งสาธารณะในพื้นที่
ในเรื่องนี้มุมมองของ MobileDista เราเข้าใจว่า คงเป็นการโยนหินถามทางเพื่อหยั่งกระแสการตอบรับในหลายๆ ด้านของคนในสังคม
อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาทางภาครัฐได้มีประกาศนโยบายเพื่อนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่ยุค Thailand 4.0 แต่ถ้าหากหน่วยงานรัฐไม่มีการปรับตัวให้สอดรับกับโลกดิจิตอล หวังใช้มาตรา 44 ในการปิดการให้บริการที่มาจากธุรกิจดิจิตอลแบบใหม่ แบบนี้มันจะไหวหรือ?
มิหนำซ้ำยิ่งหากมีการสั่งปิดการให้บริการ Uber จริงๆ แล้วแผนผลักดันให้ต่างชาติมาลงทุนเรื่อง Startup มันจะไปรอดได้อย่างไร
ขณะเดียวกันอย่างที่เราทราบกันดี ขนส่งสาธารณะในประเทศไทยมันเข้าขั้นวิกฤติ ผู้ให้บริการเคยย้อนกลับมาที่ตัวเองบ้างหรือไม่? นั่นคือสิ่งที่น่าเก็บไปคิดครับ
ที่มา: The Nation