ย้อนหลังกลับไปเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ถือเป็นฤกษ์งามยามดีของไมโครซอฟท์ ในการเปิดตัวฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกของตัวเองอย่าง Surafce ในประเทศไทย
แต่ถ้าจะให้พูดไป การเปิดตัวใน Surafce ในครั้งนี้ก็ถือว่า ทิ้งห่างจากต่างประเทศนานพอสมควร โดยช่วงนั้นที่ Surface เปิดตัวในสหรัฐอเมริกา ตัวผมเคยได้สอบถามจากไมโครซอฟท์ ประเทศไทยว่า จะนำ Surface เข้ามาจำหน่ายหรือไม่ ? คำตอบที่ได้คือ อาจไม่มีการนำเข้ามาวางจำหน่าย แต่ตอนนี้เป็นอันทราบตรงกันแล้วนะครับว่า Surface มาเมืองไทยแล้ว
สำหรับการเปิดตัว Surface ไมโครซอฟท์เลือกสถานที่นั่นคือ บริเวณชั้น M ของศูนย์การค้า Terminal 21 บรรยากาศโดยรอบ มีผู้ให้ความสนใจค่อนข้างมาก หลายๆ คนถึงกับหยุดดู จะด้วยเซเลบริตี้ในงาน หรือตัว Surface เอง หรือจะเป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้นเป็นสาวกของไมโครซอฟท์
ทีนี้ คำถามที่บางคนอาจยังสงสัยอยู่ นั่นคือ Surface จะขายกี่รุ่น ? เฉพาะรุ่น RT หรือเฉพาะรุ่น Pro คำตอบคือ ขายทั้ง RT และ Pro ครับ…. คำถามต่อมาถ้าให้ผมเดา แล้วเจ้า Surface RT กับ Surface Pro มันต่างกันยังไงล่ะ ?
ผมจะขอแถลงไขตามความเข้าใจและความรู่้สึกของผมนะครับ
การใช้งาน Surface ทั้งเวอร์ชัน RT และ Pro มีการวางโพซิชันนิงของตัวสินค้าที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด Surface RT มันเหมือนกับแท็บเล็ตรุ่นหนึ่ง มีความสามารถที่ ‘เกือบ’ จะเทียบเคียงได้ แต่มีข้อที่เหลื่อมล้ำกันอย่างมากคือ ระบบนิเวศที่คอบเกื้อนหนุนการใช้งานของผู้ใช้ยังมีอย่างจำกัด ยิ่งถ้าในสถานที่ดังกล่าวไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ Surface RT จะเปรียบเสมือนถูกตัดแขน-ตัดขาในเวลาเดียวกันก็คงไม่ผิดนัก
ขณะเดียวกัน ถ้าหากนำ Surface RT มาใช้งานในรูปแบบของการพิมพ์ สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม เพราะ Surface RT มีชุด Microsoft Office ให้ได้ใช้งาน อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชันจำพวกโน้ตไว้สำหรับเขียนบันทึกต่างๆ ถ้าสำหรับพวกเราทีมงาน Mobiledista ก็มีเอาไว้ใช้เขียนข่าว เขียนบล็อกลงเว็บไซต์
ส่วน Surface Pro เรื่องสเปกหายห่วง มันไม่ใช่สเปกที่ตกรุ่นอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ มันยังสามารถไปต่อได้ หรือจะเรียกภาษาชาวบ้านว่า ไม่โดนลอยแพง่ายๆ
ในแง่ของระบบปฏิบัติการ Surface Pro ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 แต่เมื่อลองใช้งานถามว่า มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างจากแท็บเล็ต Windows 8 ที่ OEM จากแบรนด์อื่นๆ ยังไงบ้าง คงต้องบอกว่า ไม่มี…..เหมือนกันหมด ไม่มีอะไรพิเศษ ทั้งนี้เป็นเพราะระบบปฏิบัติการถูกกำหนดรูปแบบการใช้งานทั้งหมดแล้วนั่นเอง
เพียงแต่ว่าถ้ามี Surface Pro ไว้หนึ่งเครื่อง มันก็เหมือนกับว่า คุณกำลังมีแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานเสมือนหรือเทียบเท่ากับโน้ตบุ๊ก/อัลตร้าบุ๊ก เลยล่ะ จะดูหนัง ก็สามารถดูได้ผ่านขนาดหน้าจอแบบ 16:9 ซึ่งมันก็ใกล้เคียงกับการดูหนังในโรงภาพยนตร์ การถ่ายภาพก็สามารถทำได้ แม้ว่าอาจไม่ได้ถึงขั้นเพอร์เฟ็ค แต่อย่างน้อยๆ มันก็สะดวกกว่าโน้ตบุ๊ก/อัลตร้าบุ๊ก ตรงที่มันพลิกแพลงการทำงานได้ เพราะตัวเครื่องถูกออกแบบให้สามารถใช้งานร่วมกับ Cover คีย์บอร์ดหรือจะแบบจอสัมผัส
แต่ขอย้ำอีกครั้งถ้าอยากได้แท็บเล็ตที่ความสามารถพอฟัดพอเหวี่ยงกับโน้ตบุ๊ก/อัลตร้าบุ๊ก ต้องเลือก Surface Pro แต่ถ้าเป็นแบบแท็บเล็ตธรรมดา คงต้องมองไปที่ Surface RT
ประเด็นต่อมาในเรื่องของ Surface ที่น่าสนใจ นั่นคือ ไมโครซอฟท์ขายช้าไปหรือไม่ ?
จากปากคำของผู้บริหารไมโครซอฟท์ แม้จะบอกว่า Surface ขายไม่ช้า ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ก็วางจำหน่ายพร้อมๆ กันกับไทย หรือบางประเทศก็ยังไม่มีแผนกำหนดการวางจำหน่าย แต่ถ้ามองตามฟีลลิ่งของผู้บริโภคมันบอกได้เลยว่าช้าและสิ่งที่ไมโครซอฟท์โชคดีที่สุดคือ ในช่วงเวลานี้ไม่มีแท็บเล็ตจากฟากฝั่งแอปเปิล หรือจากฝั่งแอนดรอยด์รุ่นใหม่ออกมาวางจำหน่ายเลย ทำให้การถูกนำมาเปรียบเทียบเลยไม่เกิดขึ้นมากมายนัก
นอกเหนือจากนี้ ผมยังมองอีกประเด็นว่า ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องมี Surface ในตลาดประเทศไทย เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ในเมืองไทยจะไม่มีใครรู้จัก ตรงจุดนี้ต้องอย่าลืมว่า สัดส่วนผู้รู้และเข้าใจในวงการไอทีในประเทศไทยมันมีไม่เยอะอย่างที่เราคิด การนำ Surface เข้ามาจำหน่ายอย่างน้อยๆ เพื่อลองตลาด หยั่งเชิงกระแสไว้เป็นประโยชน์ในภายภาคหน้า เช่น กรณี Surface มีการผลิตรุ่นที่ 2 ออกมา
ต่อไปเป็นราคาจำหน่ายของ Surface ก็ตามภาพด้านล่าง
จะถูกจะแพง แล้วแต่ท่านผู้อ่าน Mobiledista จะอภิปรายเลยครับ
อะไรคือสิ่งที่ผม ‘ชอบ’ ใน Surface
อันดับแรกคงเป็นเรื่องของขนาดหน้าจอที่เป็นแบบ 16:9 นั่นทำให้ประสบการณ์ในการเสพย์ความบันเทิงแลดูเหนือชั้นกว่าโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตหลายๆ รุ่นที่เห็นในท้องตลาด
ต่อมาการออกแบบตัวเครื่อง ด้วยความที่เป็นไมโครซอฟท์ ในฐานะที่อยู่ในวงการเทคโนโลยีมานานพอสมควร ถ้าเห็นอะไรก็ตามที่เป็นไมโครซอฟท์ สิ่งแรกที่จะได้พบเห็นคือ ความถึก ไร้ซึ่งอารมณ์ ขาดความสวยงาม ทุกอย่างแลดูทื่อๆ แต่ไม่ใช่กับ Surface นะครับ ตัวนี้มันมีความสวยงามทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งวัสดุประกอบงานก็เข้าขั้นคุณภาพเยี่ยม ด้านตัวช่วยในการทำงานอย่างตัว Kickstand หรือขาตั้งก็ถูกออกแบบด้วยองศาที่ดี เหมาะกับการทำงานบนพื้นระนาบ
ท้ายที่สุดยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ลืมไม่ได้ Touch Cover ครับ ตัวนี้เป็นคีย์บอร์ดที่ดีกว่าคีย์บอร์ดบนโน้ตบุ๊กหรือคีย์บอร์ดอุปกรณ์เสริมของแท็บเล็ต ที่ชอบเพราะมันพิมพ์แล้วสนุกมือมาก (เท่าที่สัมผัสน่าจะเป็นวัสดุเดียวกับ Cover ของ iPad) มันไม่เหมือนกับเราพิมพ์คีย์บอร์ดยางเสียบสาย USB บนเครื่องพีซี Touch Cover ของ Surface ดีกว่านั้นเยอะมากครับ การพิมพ์ค่อนข้างแม่นยำ ตอบสนองดี
ส่วนที่ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับ Surface มีอยู่เพียงข้อเดียว คือ Surface ขาดความชัดเจนในเชิงผลิตภัณฑ์……เท่านั้นแหละ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การทดสอบการใช้งานโดยคร่าวเท่านั้น เอาไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสเราจะมาพูดถึง Surface กันแบบเต็มๆ อีกครั้งหนึ่งละกันนะครับ
