[บทความพิเศษ] Huawei ยักษ์ตัวที่ 3 ต่อจาก Apple และ Samsung !?

huawei-booth
Huawei ยักษ์ตัวที่ 3!?

ปี 2016 ถือเป็นปีที่น่าจดจำของ Huawei ไม่น้อย โดยเฉพาะการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นที่สามารถคงกระแสความแรงไว้ตั้งแต่รุ่น P9 จนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด Mate 9

ว่าไปแล้ว Huawei ค่อยๆ ไต่กระแสอันเชี่ยวกรากของตลาดสมาร์ทโฟนดีขึ้นเป็นลำดับ ถ้าจะให้เริ่มง่ายที่สุด คงต้องเป็นการเปิดตัว P8, Nexus 6P, Mate 8 ก่อนที่จะมาเป็นกระแสที่สุดก็คือ P9 นี่เอง
Huawei P9 - MobileDista

การเปิดตัว P9 คือการสร้างความรับรู้ด้านแบรนด์ การมีตัวตนของแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ จากการร่วมมือกับ Leica ผู้ผลิตกล้องชื่อดังของเยอรมนี ต่อด้วยความร่วมมือกับ Porsche ในการเปิดตัว Porsche Design ในรุ่น Mate 9 การร่วมมือจากสองแบรนด์เยอรมนี อาจจะไม่ถึงขั้นความแปลกใหม่ของตลาด แต่ที่แน่ๆ คือ ทำให้เกิดการติดตาม ความน่าสนใจของตัวแบรนด์ได้อย่างดี เพราะต้องไม่ลืมว่า ทั้งสองแบรนด์จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าหรู (Luxury) ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างดี

ตรงนี้ผมมองว่า มันคือการทำให้คนทั่วไปได้มีโอกาสสัมผัส ความหรูหราที่ถูกย่อขนาดลงให้มาอยู่ในรูปแบบของสมาร์ทโฟน

สมาร์ทโฟน/มือถือ มันคือไลฟ์สไตล์

leica

ในเมื่อการร่วมมือกับแบรนด์อย่าง Leica และ Porsche อย่างหนึ่งที่ทำให้ฉุกคิดขึ้นนั้น มันคือภาพของการตอกย้ำในความเชื่ออย่างหนึ่งของผม ก็คือ สมาร์ทโฟน มันไม่ใช่อุปกรณ์สื่อสารอีกต่อไป แต่มันคือไลฟ์สไตล์ หรือตัวตนการใช้ชีวิตของคนๆ ไปแล้ว ซึ่งแสดงให้ถึงขอบเขตการสนใจของเราว่า เรามีความสนใจในด้านใด เรามีความเชื่ออย่างไร ทุกสิ่งมันจะแสดงออกมาที่สมาร์ทโฟน

ลองนึกถึงภาพที่คนทั่วไป มองผลิตภัณฑ์ของ Apple ว่าเป็นสินค้าระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการเห็นคนในร้านกาแฟใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กตระกูล MacBook หรือการมอง iPhone 7 Jetblack คือ มือถือระดับไฮเอนด์ที่น่าลิ้มลอง น่าซื้อหาเป็นเจ้าของ

ในความเป็นจริง Apple มิใช่แบรนด์ที่มีความหรูหราที่สุด หากแต่ยังมีแบรนด์อื่นที่หรูกว่า Apple แต่ทำไม Apple เป็นคำตอบของตัวแทนคำว่าหรูหรา? ผมคิดว่า เป็นเพราะ Apple สร้างแบรนด์ สร้างตัวตน ได้สำเร็จแล้วว่า ตัวเองยืนอยู่ในจุดใด

เช่นเดียวกันกับการเปิดตัว P9 และ Mate 9 มันก็คือ ลักษณะเดียวกันที่ Huawei กำลังพยายามพาตัวเองไปถึงจุดนั้น จุดที่ Apple กำลังยืนอยู่ การใช้ Leica และ Porsche คือสัญลักษณ์ที่จะนำพาไปสู่จุดที่สมาร์ทโฟนเป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสาร แต่เป็นไลฟ์สไตล์ที่ถอดแบบตัวตนของผู้ใช้ออกมา

Huawei Mate 9 Porsche Edition

Leica อาจแทนสัญลักษณ์ของคนที่ต้องการสัมผัสความคลาสสิค ที่ยังทรงประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การถ่ายภาพ และ Porsche คือภาพแทนของความเร็ว หรูหรา และมีระดับ นอกเหนือจากนี้แล้วไลฟ์สไตล์ของสมาร์ทโฟน ก็จะแสดงออกมายังรูปแบบของแอปพลิเคชันที่ใช้งานเป็นประจำได้เช่นกัน

ราคาที่ไม่แพง และไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจมาเจอกัน

huawei-p9

เมื่อก้าวมาถึงจุดที่สามารถทำสมาร์ทโฟนที่เป็นไลฟ์สไตล์ได้เป็นที่รู้จักชัดเจนขึ้น มีตัวตนที่ชัดขึ้น พร้อมการรับรู้ที่มากขึ้นของผู้บริโภค นั่นก็คือ เรื่องของราคา

สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ การทำราคาของ Huawei ถือเป็นการทำราคาที่ดี โดยเฉพาะ P9 และอาจรวมถึง Mate 9 รุ่นปกติ (ที่ราคาเข้าไทยอาจจะไม่เท่าราคาเปิดตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร) เป็นการทำราคาที่จัดอยู่ในระดับที่พอรับได้ คือไม่แพงจนเกินไป อย่างเช่น P9 ที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 16,990 บาท ถือเป็นราคาที่ไม่แพงมากนัก

โดยเฉพาะปัจจุบันที่ราคาสมาร์ทโฟนอยู่ในระดับ ‘สองหมื่นอัป’ เมื่อเทียบประสิทธิภาพ พร้อมทั้งคำนึงถึงภาพลักษณ์ กอปรับการที่แบรนด์ Leica เองก็มีชื่อชั้นที่เป็นที่รู้จักอย่างดีของกลุ่ม mass หรือกระแสหลักก็มีความรู้จัก จึงถือว่าเป็นการสร้าง Story ในระยะยาวต่อแบรนด์

ประสบความสำเร็จข้ามคืน?

Huawei Mate 9

ถ้าดูเผินๆ เหมือนว่า Huawei จะโชคดีจับจุดสินค้าของตัวเอง เลยทำให้ปี 2016 กลายเป็นปีที่แบรนด์ใหญ่ประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่ใช่เลย แบรนด์ใหญ่จากจีนรายนี้มีความพยายามสร้างแบรนด์มาตั้งแต่ปี 2012 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พร้อมตั้งเป้าจะขึ้นมาเทียบชั้นกับ Apple และ Samsung นับตั้งแต่การเปิดตัวรุ่นแรก Huawei P1 พร้อมกับสโลแกน Make it possible เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่า สิ่งที่ Huawei กำลังมองนั้น มองไปที่ใด แล้วตัวเองยืนอยู่บนจุดใด นั่นจึงทำให้สามารถกำหนดจุดยุทธศาสตร์ของตัวเองได้ง่ายและชัดเจน

ในปี 2013 มีการเปิดตัว Huawei P2 ความน่าสนใจของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ คือ มีความสามารถในการเชื่อมต่อ 4G ได้เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่ง นั่นแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่าการเป็นแบรนด์มีความทันสมัย รวมถึงยังสามารถจับกระแสของกลุ่มผู้บริโภคว่า กำลังให้ความสนใจอะไร เป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับการมีจุดยุทธศาสตร์ชัดเจนแล้วว่า ตัวเองจะต้องนำเสนออะไร โดยเฉพาะการเชื่อมต่อ 4G ซึ่งในปี 2013 เป็นปีที่ 4G เป็นกระแสที่ทุกคนให้ความสนใจ เพราะเป็นอีกขั้นของการสื่อสารที่เข้ามาแทน 3G

อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ Huawei ได้ทุ่มงบประมาณในด้าน research and development ที่สูงมากๆ จากตัวเลขในปี 2016 ใช้งบประมาณถึง 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่การทำวิจัยและพัฒนา ซึ่งมากกว่า Apple (8.1 พันล้านเหรียญ) แต่ยังน้อยกว่า Samsung (ที่ 12.5 พันล้านเหรียญ)

ทั้งหมดนั้นจึงทำให้เรายังมีโอกาสที่จะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะออกมาในอนาคตอันใกล้

Huawei ยักษ์ตัวที่ 3?

Galaxy Note 7

iPhone 7 and Tim Cook

การเพลี้ยงพล้ำของ Galaxy Note 7 จาก Samsung ความเปลี่ยนแปลงที่น้อยนิดของ iPhone 7 อาจกลายเป็นพื้นที่สำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟนที่ตัวเองมีอยู่ในมือ อาทิ P9 และรุ่นใหม่อย่าง Mate 9 เข้ามาช่วงชิงและจับจองที่นั่งในใจของผู้บริโภคได้อีกมาก โดยเฉพาะการทำตลาดโดยรวมร่วมมือกับแบรนด์สินค้าใหญ่อย่าง Leica และ Porsche (รวมถึงแบรนด์เครื่องเสียงอย่าง Harman Kardon จากแท็บเล็ต Media Pad M3) และนวัตกรรมต่างๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามา อาทิ ระบบ AI ที่ใส่เข้ามาใน Mate 9 โดยจะมีการเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานว่ามีนิสัยการใช้งานอะไร ใช้แอปพลิเคชันใดเป็นประจำบ้าง

นั่นจึงแปลว่า ยังมีโอกาสอีกมากที่จะแปลงร่างจากมังกรจีนเป็นยักษ์ใหญ่ที่มาจากจีนตัวถัดไปได้เลย การลงทุนหว่านที่มีชื่อว่า นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง บนช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด จากการที่ Apple ไม่มีอะไรใหม่ๆ ออกมาให้เห็นในระยะหลัง การเผชิญหน้ากับวิกฤตศรัทธาที่ Samsung กำลังต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ การจะกลายร่างเป็นยักษ์ตัวที่ 3 ของ Huawei เวลานี้คือโอกาสที่ดี และมีความเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว

เวทีการต่อสู้ใหม่ ไม่ได้อยู่แค่สมาร์ทโฟน

pokemon-go

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าการต่อสู้ด้วยสมาร์ทโฟนกำลังเข้าสู่จุดหยุดนิ่งในไม่ช้า การต่อสู้ครั้งใหม่ของแบรนด์เทคโนโลยี จะเปลี่ยนไป เวทีใหม่ของการต่อสู้ อาจเริ่มต้นด้วยนวัตกรรม เช่น Artificial Intelligence หรือ AI ที่เวลานี้เราเริ่มเห็นการนำ AI มาใช้กันมากขึ้น เทคโนโลยี VR หรือ Virtual Reality ที่กำลังเข้ามาสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ให้แก่มนุษยชาติ เช่น การเล่นเกม และการรับชมภาพยนตร์ ไปจนถึง Augmented Reality หรือ AR ที่มีการนำร่องจนเกิดกระแสไปทั่วโลกอย่าง Pokemon Go

เหล่านี้คือ สนามเวทีประลองแห่งใหม่ที่อาจเรียกได้ว่า แต่ละแบรนด์ยังไม่ได้มีจุดได้เปรียบเสียเปรียบมากนัก เพราะเวลานี้ต่างฝ่ายกำลังอยู่ในช่วงของการทดลอง ทั้งการลองผิดและลองถูก

เป็นไปได้อย่างยิ่งว่า แม้ Huawei จะก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ตัวที่ 3 แต่ก็ไม่ได้มีเครื่องหมายการันตีว่า จะไม่เกิดยักษ์ตัวที่ 4 หรือตัวที่ 5 ขึ้นมาจากการประลองบนเวทีใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเทียบเคียงกับบนการต่อสู้ด้วยเวทีเก่าอย่างสมาร์ทโฟน

อ้างอิง