Lazada

Talkband B2 Review: ครบครันทั้งบลูทูธ ออกกำลังกาย จับการนอน

Talkband B2

TL;DR -ดีไซน์โอเค แบตเตอรีใช้งานได้นาน 4 วัน รองรับทั้ง iOS และ Android แต่การใช้งานถ้าอยู่กลางแดดจะมองอะไรไม่เห็นเลย

เพื่ออ่านบทนำพรีวิวช่วงแรกขอแนะนำให้อ่าน Talkband B2 Preview ก่อนครับ

หลังจากที่ ‘สวมใส่’ Talkband B2 ขวบระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านไป สิ่งที่รู้สึกได้เลยว่า การสวมใส่ Talkband B2 ตลอดทั้งวัน นับตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหัวถึงหมอนอีกครั้ง การสวมใส่ไม่มีอาการคันแต่อย่างใด การวสวมใส่เป็นไปอย่างนุ่มและสบายค่อนข้างมาก โดยตัวเรือนใช้สายหนังเทียม ย้อมด้วยสีน้ำตาลทำให้ดูกลายเป็นเครื่องประดับที่ดู Luxuary ไม่น้อย ซึ่งตัดกับสีเงินที่อยู่บนตัวเรือนอีกทีหนึ่งได้อย่างลงตัว ซึ่งผมได้ลองใส่เข้ากับสูทก็ถือว่า เหมาะใช้ได้

ด้านการสวมใส่ไม่ยากมาก ซึ่งมีวิธีการใส่สองขั้นตอนด้วยกัน โดยเริ่มจากสวม Talkband B2 เข้ากับข้อมือ จากนั้นเลื่อนปรับระดับที่เหมาะกับข้อมือ แล้วปิดเข้ากับตัวล็อคเท่านั้น

Talkband B2-4

ความสามารถของ Talkband B2 ผมคิดว่า ก็น่าสนใจไม่แพ้ไปจากความสวยงาม เพราะตัวเรือนพกพาความสามารถที่น่าสนใจ เช่น การเป็นหูฟังบลูทูธ-จับนับก้าวการวิ่งและการออกกำลังกายอื่นๆ-จับชั่วโมงการนอน และเป็นนาฬิกาบอกเวลา

อย่างไรก็ตามในความสามารถที่น่าสนใจทั้งหมดของเรือนนี้ ก็มีข้อติเหมือนกันว่า เมื่อเราใช้ Talkband B2 ในรูปแบบสมอลทอล์ก เสียงที่ใช้สนทนาจะ ‘เบา’ มาก จนต้องเคลียร์หูเงี่ยฟังให้ดีว่าคู่สนทนากำลังพูดกับเราในเรื่องใด อีกทั้งเวลาถอดเป็นสมอลทอล์กจะใส่เข้าหูยากมากๆ

แต่ในความสามารถด้านการจับชั่วโมงการนอน ผมถือว่า เป็นหนึ่งในจุดแข็งของรุ่นนี้เลยล่ะครับ ซึ่งตอนแรกผม ‘แปลกใจ’ เหมือนกันว่า ถ้าหากจะเปิดโหมดการนอนจะต้องใช้งานอย่างไร ซึ่งมันง่ายๆ มาก เพียงแค่เราใส่นอนเท่านั้นเองครับ ระบบภายในเรือนก็จะนับชั่วโมงการนอนโดยอัตโนมัติ จะว่าไปชั่วโมงการนอนค่อนข้างแม่นนะครับจากที่ลองใช้งานมา อีกทั้งเมื่อผนวกใช้กับแอปพลิเคชัน Huawei Wear จะมีบอกว่า ในคืนดังกล่าว เรานอน Deep Sleep กี่ชม. Light Sleep กี่ชม. ซึ่งเหมือนจะเป็นฟังก์ชันที่ไม่ค่อยจำเป็น แต่เอาเข้าจริงก็เป็นฟังก์ชันที่ผมต้องดูแทบทุกวัน

นอกจากนี้แล้ว ด้วยความที่ตัวเรือนมีความสามารถแนวสปอร์ต จึงทำให้ตัวนี้กันละอองน้ำได้ ตามมาตรฐาน IP57

ตามที่บอกไปครับว่า จะทำงานควบคู่ผ่านการ ‘ซิงค์’ กับแอปพลิเคชัน Huawei Wear ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดใน iOS และ Android ว่าไปแล้วถือเป็นเรื่องดีมากๆ เพราะแม้ Huawei จะเป็นแบรนด์พัฒนาสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แต่ก็ยังเผื่อสำหรับผู้ใช้ iOS อีกด้วย

หน้าตาตัวแอปเมื่อเปิดเข้ามาจะรายงานถึงการเคลื่อนไหวนับก้าวในแต่ละวัน พร้อมบอกจำนวนที่เผาผลาญแคลอรี โดยเปรียบเทียบว่า แคลอรีที่เบิร์นไปเท่ากับอาหารชนิดใด ถ้าเลื่อนปาดไปทางขวาจะรายงานการนอน นอกจากนี้ถ้าแตะไปที่สัญลักษณ์ Talkband B2 ด้านซ้ายบนจะแสดงปริมาณแบตเตอรี อีกทั้งยังตั้งปลุกได้ด้วยครับ

ลองคิดดูว่าถ้ามันสั่นที่ข้อมือ ไม่ตื่นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะครับ

สรุป

Talkband B2 ถือว่าเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่มีความสามารถที่ดีเยี่ยม ทั้งการออกกำลังกาย การจับพฤติกรรมการนอน อีกทั้งยังมีความหรูหราในตัวเรือน จึงครบครันทั้งความสามารถ และใส่เข้าสังคมได้

โดยตอนนี้วางจำหน่ายแล้วในราคา 5,990 บาท ซึ่งอาจเป็นราคาที่แรงไม่น้อย แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของมันแล้ว ผมถือว่าพอรับได้ อีกทั้งไม่มีข้อจำกัดว่า ต้องเชื่อมต่อกับ Android เท่านั้น เพราะตัวมันรองรับ iOS ได้ด้วย

ข้อดี

  • *ดีไซน์สวย หรูหรา
  • ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android ได้
  • ความสามารถหลากหลายใช้งานได้จริง
  • แบตเตอรีใช้ได้นาน 4 วัน

ข้อเสีย

  • หน้าจอจะมองไม่เห็นเมื่อใช้งานกลางแดด
  • เวลาใช้สมอลทอล์กเสียงสนทนาเบามาก และใส่ไม่พอดีหู
  • ราคาแพงพอสมควร