mobiledista.com

[Sneak Preview] Galaxy Note 10.1 (2014 Edition)

Galaxy-Note-101-2014-Edition-pic-3

ตามคำสัญญาครับ เมื่อวานนี้ในบทความแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ Galaxy Note 10.1 2014 Edition ว่า วันนี้เราจะมีพรีวิวถึงรุ่นนี้กัน 

อย่างที่บอกไว้ครับว่า ทีมงาน Mobiledista ได้รับเชิญจากทางซัมซุงประเทศไทยเข้าร่วมงานบล็อกเกอร์และมีเดียออนไลน์ ซึ่งในงานนั้นมีผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียวนั่นก็คือ Galaxy Note 10.1 2014 Edition (ขอเรียกว่า Galaxy Note 10.1 ละกันนะครับ มันยาวเกิ๊น)

โดย Galaxy Note 10.1 ซัมซุงเคาะราคาจำหน่ายที่ 20,900 บาท ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้ว เป็นราคาที่ถูกกว่าที่ผมหรือบล็อกเกอร์ท่านอื่นๆ คาดเดาพอสมควร ส่วนรุ่นที่จะจำหน่ายนั้น เป็นโมเดล Exynos 5420 การเชื่อมต่อจะเป็น 3G เท่านั้น ขนาดความจุ 32GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีดำ และสีขาว ส่วนการวางจำหน่ายนั้นจะเริ่มในวันศุกร์หน้านี้เลย (25 ตุลาคม) ใครที่สนใจก็เชิญซื้อหากันตามสะดวกครับ

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา มะ! เราเริ่มพรีวิวกันเลยดีกว่า

ข้อมูลสเปก Galaxy Note 10.1 (2014 Edition)

How do you feel ?

ความรู้สึกแรกพลันได้จับ Galaxy Note 10.1 ประการแรกเลย มันเบาครับ เรียกว่า เบากว่า Galaxy Note 10.1 รุ่นแรกเยอะเลยครับ น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 532 กรัมเท่านั้น ขณะเดียวกันการกระจายน้ำหนักของตัวเครื่องก็ทำได้ดี ไม่ได้รู้สึกว่า มันหนักข้างใดข้างหนึ่ง

อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ด้านหลังของตัวเครื่อง ตามที่เคยเรียนเอาไว้ในบทความที่แล้ว Galaxy Note 10.1 รุ่นใหม่ใช้ฝาหลังที่เป็นหนังเทียมแบบใน Galaxy Note 3 จุดนี้การสัมผัสด้านหลังเครื่องมันรู้สึกที่ดีกว่า การจับพลาสติกแบบด้านๆ อย่างที่เคยเป็นมา แต่ถามว่า ถึงขั้น It’s a great feeling ไหม ? ก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ

What’s Design ?

ด้านการดีไซน์ คือ ยังเป็นทรงเอกลักษณ์ในแท็บเล็ตตระกูลซัมซุงเหมือนเดิมทุกประการ สิ่งที่เพิ่มมา คือ ปุ่ม Home และ Virtual Button ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา

แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง คือ ไหนๆ แล้ว Galaxy Note 10.1 ก็มาในไลน์เปิดตัวเดียวกับ Galaxy Note 3 ก็น่าจะใช้พอร์ท microUSB 3.0 ไปเลย แต่รุ่นนี้กลับพัฒนาเพียงแค่จากเดิมที่ใช้พอร์ทแบบ 30 pin มาเป็น microUSB 2.0 เท่านั้นเอง ซึ่งในเมื่อมันไม่มีก็ไม่เป็นไร เราก็นั่งรอการ transfer ข้อมูลต่อไปเหมือนเดิม

Inside the box 

สิ่งที่ผมชอบใน Galaxy Note 10.1 รุ่นนี้ คงเป็นเรื่องของหน้าจอเป็นประการสำคัญ ด้วยความละเอียดหน้าจอของเครื่องที่มีมาถึง 2560×1600 พิกเซล ดังนั้นการใช้งานในเชิงมัลติมีเดียสบายใจได้ คมชัดแน่นอน สิ่งที่ผมรู้สึกเสียดายมีอย่างเดียว คือ ในงานเมื่อวานนั้น เครื่องที่เรายืมมาทดสอบไม่มีไฟล์มัลติมีเดียเลนสักไฟล์ เราเลยไม่ได้ทดสอบการดูหนังได้แบบเต็มๆ แต่ถ้าดูจากหน้าจอขณะที่ใช้งานปกติแล้ว ถือว่าคมชัดดีครับ

ฟีตเจอร์ประจำรุ่น ถ้านึกไม่ออกให้หลับตานึกถึง Galaxy Note 3 ครับ อะไรที่มีมาใน Note 3 สิ่งเหล่านั้นจะไหลตามมาอยู่ใน Galaxy Note 10.1 นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Air Command, Magazine หรือจะ Flipboard etc. ทั้งหมดนี้ผมไว้พูดรวบยอดทีเดียวในรีวิว Galaxy Note 3 ละกันครับ

สุดท้ายคือ ฟังก์ชันกล้อง … กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลยครับว่า พวกเราลืมเทสต์การถ่ายภาพไปเลย เอาเป็นว่า ตอนนี้เราขอติดประเด็นนี้ไว้ก่อน หากวันหน้าได้เครื่องมาทดสอบเมื่อใด ผมและทีมงานจะมาพูดถึงเรื่องกล้องอย่างแน่นอนครับ

Accessories ?

เมื่อวานถ้าแฟนๆ เว็บไซต์เราตามอ่านข่าว Galaxy Note 10.1 ผ่านแฟนเพจเว็บ จะเห็นได้ว่า มีภาพหนึ่งที่ตัวเครื่องถูกต่อเข้าด้วยกับอุปกรณ์เสริมอย่างเมาส์ คีย์บอร์ด ด็อค เลยเกิดข้อสงสัยว่า เป้าหมายของทำอุปกรณ์เสริมเหล่านี้คืออะไร ซึ่งคำตอบที่ได้จาก Product Manager ว่า ซัมซุงต้องการให้ Galaxy Note 10.1 ทำงานได้มากกว่าการเป็นแท็บเล็ต และให้มีความสามารถเทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั่นเอง

Wrap-Up 

สรุปจากพรีวิวฉบับนี้เลยละกันครับ มุมมองของผมต่อ Galaxy Note 10.1 นี้ ง่ายๆ เลยครับ มันคงเหมาะกับยูสเซอร์ทุกประเภทนั่นแหละครับ แต่ถ้าระบุให้ชัดแน่นอนว่า กลุ่มแรกคือ กลุ่มผู้ที่ต้องการเสพย์สื่อความบันเทิงแบบ mobility กล่าวคือ พกพาได้ ใช้งานสะดวก ด้วยสเปกเครื่อง และความละเอียดหน้าจอที่ให้มาอย่างน่าสนใจ

อีกกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มของศิลปิน ที่ต้องการรังสรรค์ผลงานจากแอนะล็อก มาสู่ดิจิทัลด้วย ก็ถือว่า เป็นประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานที่น่าลองดูสักตั้ง

อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลนี้ ผมและทีมงานยังไม่ได้ฟันธงว่า Galaxy Note 10.1 ดี/ไม่ดีอย่างไร ที่พูดไปทั้งหมดนั้น มาจากการทดลองใช้งานในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น บทสรุปของ Galaxy Note 10.1 จะเริ่มต้นเมื่อตัวเครื่องถูกส่งมายังทีมงาน Mobiledista 

ขอบคุณสำหรับการรับชม สวัสดีครับ

Exit mobile version