Samsung Galaxy Mega 5.8 แฝดผู้น้องแห่งตระกูล Mega

Galaxy-Mega58-Review-pic-2

ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Mobiledista เราได้นำเสนอรีวิวสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตของซัมซุง ระดับบิ๊กล็อตนับเป็นสิบๆ รุ่น ซึ่งนี่ก็ถือเป็นหนึ่งในรุ่นท้ายๆ ในหนังรีวิวภาคต่อ โดยรุ่นที่ผมกำลังจะพูดถึงอยู่นี้ เป็นสมาร์ทโฟนหน้าตาใหญ่ยักษ์ พร้อมด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนแบบ 2 ซิม ที่คนไทยหลายคนนิยมชมชอบใช้กันในรุ่น Samsung Galaxy Mega 5.8

ดีไซน์

Galaxy-Mega58-Review-pic

ด้วยขนาดหน้าจอสอดคล้องกับชื่อ นั่นคือขนาด 5.8 นิ้ว บอกตามตรงเลย มันเป็นสมาร์ทโฟนที่ใหญ่เกินไป อาจเป็นเพราะตัวผมเองไม่นิยมใช้งานสมาร์ทโฟนที่เกิน 5 นิ้วสักเท่าไหร่ จึงทำให้การใช้งาน Galaxy Mega 5.8 นั้น เลยขาดความคล่องตัวอยู่สักหน่อย ความรู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับ Mega 5.8 สำหรับผมนั้นมีนิดหน่อย ตรงที่มันใส่กระเป๋ากางเกงค่อนข้างลำบาก โอเคว่า มันใส่กระเป๋ากางเกงได้นะ แต่พอนั่งลงบนเก้าอี้เท่านั้นแหละ รู้สึกว่ามันคับๆ ตุงๆ ตรงกระเป๋ากางเกงพอสมควร

ส่วนการใช้งานมือเดียว ประสบการณ์ส่วนตัวบอกว่า มันใช้งานลำบากไม่น้อย

แต่ที่ผมชอบในการดีไซน์ของ Mega 5.8 ตรงที่ขอบจอค่อนข้างบาง ทำให้มีพื้นที่การใช้งานค่อนข้างเยอะ ขนาดความบางก็ถือว่า ไม่หนามาก ประมาณ 9 มม. เท่านั้นเอง

วัสดุตัวเครื่องยังคงเป็นพลาสติกเหมือนเดิม รูปร่างหน้าตา ทรวดทรง องค์เอว คล้ายคลึงกับ Galaxy S4 ทุกประการ

แต่ที่ผมตกใจที่สุด คงเป็นด้านหลังของเครื่อง หากแกะฝาหลังออกจะเจอแบตเตอรีที่ใหญ่อลังการงานสร้าง แม้ว่าจะเล็กกว่ารุ่นพี่อย่าง Mega 6.3 ก็ตาม สำหรับรุ่นนี้จะไม่มีฟีตเจอร์อย่าง NFC เสริมมาให้

สเปกเครื่อง

สำหรับสเปกเครื่อง Galaxy Mega 5.8 จะมีดังนี้

  • ชิปประมวลผลดูอัลคอร์ 1.4GHz
  • RAM 1.5GB (ใช้จริงเหลือ 1.06GB)
  • หน่วยความจำเครื่อง 8GB (มีพื้นที่จริง 5.34GB)
  • แอนดรอยด์ 4.2
  • กล้อง 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี 2,600 mAh

ดูรายละเอียดสเปกโดยละเอียดได้ที่นี่ครับ http://spec.mobiledista.com/samsung/samsung-galaxy-mega-5-8/

SS8

สำหรับอินเตอร์เฟส ของ Mega 5.8 จะยังคงเป็น TouchWiz UI เหมือนเช่นเคย โดยมีการผสมผสานร่วมกับแอนดรอยด์ 4.2.2

ฟีตเจอร์สำคัญ

การใช้งาน 2 ซิม

SS7

ในรุ่น Mega 5.8 จะมาพร้อมกับระบบ 2 ซิม ซึ่งรองรับไมโครซิมเท่านั้น โดยการใช้งานหลักๆ สามารถใช้งาน 3G ได้ แต่ทำได้ทีละซิม ส่วนการโทรออก รับสาย อันนี้ไม่มีปัญหา ตัวเครื่องสามารถบอกได้ว่า ซิมใดที่กำลังมีสายเข้า

อินเทอร์เน็ต

ตัวเครื่องจะมีเบราว์เซอร์ให้มา 2 ตัว ก็คือ Chrome กับ Internet ซึ่งถ้าใครที่เสพย์ติด Ecosystem ของกูเกิลแบบผม ตัดสินใจแทบไม่ยากครับ ยังไงก็ต้องเป็น Chrome อยู่แล้ว แต่อันนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานของแต่ละบุคคล

SS4

SS5

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังอัดแน่นไปด้วยฟีตเจอร์อย่าง Smart Stay, Multi Screen, Gesture, One Hand, Power Saving

SS6

ส่วนแอปพลิเคชันที่มีในรุ่นท็อปอย่าง S Translator, ChatON, Group Play, S Planner, S Voice ก็มีให้ใช้งานเช่นกัน

การถ่ายภาพ

กล้องที่ติดมากับ Mega 5.8 มีทั้งกล้องหน้าขนาด และกล้องหลัง เมื่อดูจากจอด้วยความที่จอไม่ได้มีความละเอียดมากนัก หลายคนที่เคยใช้งานจอละเอียดๆ มาเจอ Galaxy Mega 5.8 อาจมีรู้สึกแปลกๆ กับความละเอียดหน้าจอที่ไม่คมเอาเสียเลย ส่วนโหมดการถ่ายภาพก็จะมีค่อนข้างเยอะ เลือกสรรได้ตามความเหมาะสม

เอาจริงๆ เลยตอนที่ทดสอบการถ่ายภาพผ่าน Galaxy Mega 5.8 ชัตเตอร์ค่อนข้างช้า ถ่ายยาก เบลอง่าย อีกทั้งด้วยตัวเครื่องที่ใหญ่การถ่ายภาพเหมือนจะเป็นอุปสรรคอีกเสียด้วยซ้ำ

สำหรับภาพจากกล้อง Galaxy Mega 5.8 เชิญทัศนาตามอัธยาศัยครับ

เพิ่มเติม: อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวครับ เมื่อตอนที่ผมเปิดแอป Gallery ผมรู้สึกว่ามันหน่วงหน่อยๆ

SS3

ขอพูดถึงไฟล์วิดีโอนิดหนึ่ง ถ้าหากใครที่ชื่นชอบการเสพย์สื่อบันเทิงโดยเฉพาะวิดีโอ รุ่นนี้ก็จะมาพร้อมกับ Pop Up Play ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ถ้าใครที่ชอบดูวิดีโอผ่าน YouTube ตรงๆ ก็อย่าลืมอัปเดทแอป YouTube เพราะจะมีฟีตเจอร์คล้ายๆ แบบ Pop Up Play เช่นกัน ซึ่งเหมาะกับการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง

แบตเตอรี

2600 mAh ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่ด้วยความที่ตอนผมทดสอบเครื่องนี้ ไม่ได้นำ Galaxy Mega 5.8 มาเป็นเครื่องหลักบ่อยสักเท่าไหร่ เมื่อคำนวณจากการทดสอบในช่วงเวลานั้น ทั้งการใช้งาน 3G และ Wi-Fi ผ่านแอปพลิเคชันเครือข่ายสังคมต่างๆ ไปจนถึงเกม ก็ถือว่า ใช้ได้นานระดับหนึ่งเลยทีเดียว ประมาณ 9 ชม.

ปิดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดด้วยคะแนนทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Benchmark ต่างๆ โดยที่นำมาทดสอบนี้ ประกอบด้วย AnTuTu Benchmark, Quadrant Benchmark, BenchmarkPI, nenaMark 1 และ nenaMark 2 ครับ

SS2

SS1

บทสรุป

Galaxy-Mega58-Review-pic

สำหรับ Galaxy Mega 5.8 มันตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้โอเคนะ ด้วยความที่หน้าจอใหญ่ เพียงแต่ว่าความใหญ่ของจอก็ทำให้ลำบากในการพกพาเช่นกัน ซ้ำร้ายความละเอียดหน้าจอมันก็ไม่ค่อยน่ารื่นรมย์เท่าไหร่ จึงทำให้การเสพย์สื่อผ่านรุ่นนี้ดรอปลง

อย่างไรก็ดี จุดขายของรุ่นนี้ที่น่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ ก็คงเป็นเรื่อง 2 ซิม….อย่าหัวเราะไป มีคนไทยนิยมชมชอบ 2 ซิมอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยเลย แถมด้วยราคาที่ไม่แพงนัก 12,500 บาท จึงทำให้รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่พอใส่เป็นตัวเลือกในการซื้อสมาร์ทโฟนของคุณ