Lazada

[Review] Obi Worldphone SF1: มีดีที่หน้าตาและวัสดุ

SF1

ช่วงส่งท้ายปีมีสมาร์ทโฟนน้องใหม่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา นั่นคือ Obi Wordphone ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ร่วมก่อตั้งโดย John Sculley อดีตซีอีโอ Apple แล้วได้ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นามว่า Obi Worldphone SF1 วางจำหน่ายในราคา 7,290 บาท

การออกแบบ

SF1

ถ้าหากมองข้ามเรื่องของการดีไซน์คุ้นตาแล้ว ก็ต้องบอกว่า Obi SF1 ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีการออกแบบงดงามไม่น้อย ลองไล่เรียงกันไป โดยเริ่มจากด้านหน้าของตัวเครื่องที่มีส่วนผสมเล็กน้อยของฝั่ง Lumia แต่เพิ่มความต่างตรงขอบจอที่มียกพื้นจอให้สูงขึ้นจากฐานเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกเสียดายตรงที่มีหน้าจอเหลือไว้โล่งๆ ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งตรงนั้นถ้าเปลี่ยนเป็นปุ่ม capacitive ก็น่าจะทำให้มีพื้นที่หน้าจอให้ใช้งานเยอะกว่าที่เป็นอยู่

ส่วนตัววัสดุทาง Obi SF1 ได้เลือกใช้ไฟเบอร์กลาส (Fiber Glass) ซึ่งจับสัมผัสแล้วรู้สึกดีทีเดียว เพียงแต่ว่าอาจมีรอยนิ้วมือลงเหลือเล็กน้อย นอกเหนือจากนี้การใช้สีของ Obi ก็ถือว่าน่าสนใจ คือ การใช้สีดำเป็นฐานแล้วตัดด้วยสีเทาด้านๆ ในบริเวณบนและล่าง จึงทำให้ Obi SF1 ดูลึกลับน่าสนใจ

ด้านหลังตัวเครื่องทาง Obi SF1 ได้ใส่แบรนด์ตัวเองบริเวณล่างขวา ส่วนกล้องและแฟลชจะอยู่บนซ้าย ด้านหลังเครื่องดูเรียบง่ายแต่ดูดี แต่อาจสร้างความเข้าใจผิดได้อยู่เหมือนกันว่า สามารถแกะฝาหลังออกได้ แต่ในความเป็นจริงมันแกะออกไม่ได้ครับ

การเชื่อมต่อ

Obi-SF1_4G

การที่โลกสมาร์ทโฟนเริ่ม shift มายังกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลาง-ระดับกลางค่อนล่างทำให้เราได้เห็นความสามารถที่เคยจำเพาะเจาะจงเฉพาะสมาร์ทโฟนระดับสูงมาอยู่ในกลุ่มระดับกลางมากขึ้น เพราะเวลานี้สมาร์ทโฟนระดับไม่ถึงหมื่นก็เริ่มมีความสามารถที่น่าสนใจ ดังเช่น การเชื่อมต่อ LTE ที่ Obi SF1 ก็รองรับการเชื่อมต่อดังกล่าว ซึ่งถือเป็น “ไทม์ไลน์” ที่ดี เพราะในประเทศไทยก็มีการประมูลคลื่นที่จะนำไปใช้เป็น 4G LTE เสร็จเรียบร้อย โดย Obi SF1 รองรับ LTE ในคลื่นความถี่ 1800 MHz (และคลื่น 2300 MHz ซึ่งดำเนินกิจการโดย TOT)

ขณะเดียวกันการเชื่อมต่อไร้สายอื่นๆ อย่าง Bluetooth ก็มาอยู่ในเวอร์ชัน 4.0 ซึ่งรองรับกับอุปกรณ์ไร้สายรุ่นใหม่ๆ สบาย ตั้งแต่หูฟัง ลำโพง ซึ่งจุดนี้ก็จะช่วยเพลิดเพลินให้การใช้สมาร์ทโฟนสนุกขึ้น

Hybrid SIM

Obi_SIM

การเลือกใช้ได้ 2 ซิมถือเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้ใช้งานมือถือยุคแรกๆ คุ้นชินกันดีอยู่แล้ว และเมื่อเข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟนการใช้งาน 2 ซิมก็ยังถือเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดี โดยเฉพาะในตลาดประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) อย่างไทย จีน หรืออินเดีย ก็ขานรับสิ่งเหล่านี้

สำหรับ Obi SF1 ก็เป็นไปตามนั้น เพราะเป้าหมายของแบรนด์นี้ตั้งใจเจาะกลุ่มประเทศเกิดใหม่ จึงทำให้พกพาการใช้งาน 2 ซิมด้วย โดยการใช้งาน 2 ซิมที่ว่านี้ ถือว่าดีมากเพราะมีการใช้เป็น Hybrid SIM คือจะมีซิมหนึ่งที่ใช้งานเป็นหลักแน่ๆ ส่วนซิมที่สองเราเลือกเอาได้ว่า จะใช้งานเป็นซิมที่สอง หรือเลือกที่จะใช้เป็น microSD เพื่อเพิ่มความจุเครื่อง โดยตัวเครื่องรับส่วนที่เป็น nano SIM และ micro SIM

ประสบการณ์การใช้งาน

Obi SF1_UI

ที่ต้องชื่นชมอย่างแรกคือ การออกแบบ User Experience ของ Obi SF1 ทำได้สวยงาม ตั้งแต่หน้าจอปลดล็อกเครื่องที่มีลูกเล่น มีสีสัน ส่วนเรื่องปุ่มหรือไอคอนการใช้งานของแอปพื้นฐานออกแบบได้สวย คงไว้ซึ่งปรัชญาการออกแบบ Material Design เห็นแล้วน่าใช้งาน ซึ่ง Obi ได้เรียกว่าอินเตอร์เฟสของตัวเองว่า Lifespeed UI โดยครอบ Android 5.0.2 เอาไว้อีกทีหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ปัญหาที่ใช้งานแล้วไม่โอเคเลยก็คือ การตอบสนองการใช้งานที่ค่อนข้างช้า มีอาการหน่วง ไม่ว่าจะเป็นจากแอปพลิเคชันพื้นฐาน เช่น กล้อง หรือแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดมา โดยเฉพาะแอปเกม (Syndicate War) ที่เล่นแล้วมีอาการกระตุกอย่างเห็นได้ชัด

นอกเหนือจากนั้นแล้ว Obi SF1 ก็จะมีส่วนที่เป็น Toggle เอาไว้ปรับแต่งการใช้งานสำคัญได้อย่างรวดเร็ว เช่น เปิด/ปิดไวไฟ บลูทูธ เข้าโหมดเครื่องบิน เป็นต้น แต่น่าเสียดายที่ตรงนี้เราไม่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ เช่น ปกติผมไม่ค่อยปรับให้หน้าจอเป็นแบบ rotate หรือไม่ค่อย cast screen จากมือถือไปยังจอทีวีเป็นต้น ถ้าปรับแต่งได้อิสระกว่านี้ก็จะโอเคกว่า

Obi-SF1_UI2

ด้านการปรับแต่งอื่นๆ เราก็สามารถปรับแต่งได้โดยการกดที่หน้าจอค้างเอาไว้ ก็จะมีให้เราเลือกปรับ wallpaper, widgets, setting และ apps ซึ่งส่วนที่เป็นพื้นหลัง (Wallpaper) ก็จะมีพื้นหลังของ Obi ที่ทำออกมาสวยใช้ได้ให้เลือกปรับเปลี่ยน

ด้านความบันเทิง Obi SF1 จะมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน Dolby Audio ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ความบันเทิง ไปจนถึงฟีเจอร์ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาอย่างวิทยุให้ได้ใช้งานแบบง่ายๆ

ประสิทธิภาพเครื่อง

  • หน้าจอ 5 นิ้ว Full HD (1920*1080 พิกเซล)
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615
  • RAM 2GB/ROM 16GB
  • ความละเอียดกล้อง 13/5MP เซ็นเซอร์ Sony IMX214 Exmor RS
  • Battery 3000 mAh
  • รองรับ 4G  ในคลื่น 1800 MHz และ 2300 MHz ใช้งานได้สองซิมแบบ Hybrid

ด้วยสเปกเครื่องที่ให้มาค่อนข้างเยอะ แต่กลับยังให้ประสบการณ์ใช้งานจริงที่น่าผิดหวังอยู่สักหน่อย เพราะการตอบสนองการทำงานไม่ค่อยดีหนัก เนื่องด้วยการปรับแต่งของ ROM ที่ยังทำได้ไม่ดี ทำให้ตัวเครื่องมีอาการกระตุกอย่างเห็นได้ชัด

ผลการทดสอบ

Obi-SF1_Performance

การถ่ายภาพ

ความละเอียดที่มาพร้อมพิกเซลจำนวน 13 ล้าน มีออโต้โฟกัส และแฟลช จุดเด่นจริงๆ ของกล้องที่มาจาก Obi SF1 อยู่ตรงที่ฟีเจอร์ IQ Camera ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับที่ i-mobile ใช้ ลูกเล่นที่มากับ IQ Camera ตรงนี้จะมีเรื่องของ ReFocus ที่จะให้เราถ่ายภาพแล้วมาเลือกจุดโฟกัสในภายหลัง Chroma Flash ที่จะเปิดแฟลชในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วเก็บรายละเอียดของภาพ และโหมด Opti Zoom ที่จะขยายการซูมให้ละเอียดขึ้น แน่นอนว่า การถ่ายในเวลากลางคืนก็จะยังจับโฟกัสได้ยากสักหน่อย ส่วนกล้องหน้าให้มา 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับแฟลชให้เซลฟี่

แบตเตอรี

SF1_Battery

Obi SF 1 มีแบตเตอรีให้มาที่ 3,000 mAh เป็นตัวเลขที่เยอะทีเดียว บนพื้นที่ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว และความละเอียด Full HD รองรับการใช้งานระดับมัลติมีเดียได้เป็นระยะเวลาที่นานมากได้ ขณะเดียวกันตัวเครื่องก็รองรับการใช้งานแบบหนักๆ ได้เกือบหนึ่งวัน

บทสรุป

ในความเห็นแล้ว สิ่งที่ชอบที่สุดใน Obi SF1 ก็คงเป็นในแง่การดีไซน์ที่มีการดีไซน์ที่ถือว่าแปลกดี โดยมีการผสมผสานกับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นเข้าด้วยกัน ไปจนถึงวัสดุประกอบงานที่เป็นไฟเบอร์กลาสถือว่ามีความน่าประทับใจ แต่ว่าก็มาติดปัญหาตรงที่ประสิทธิภาพการใช้งานที่ยังไม่สุด และการตอบสนองที่ไม่ได้เร็วดังหวังนั่นแหละครับ