ย้อนหลังกลับไป 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Mobiledista มีโอกาสได้ไปงานเปิดตัวชุดเครื่องเสียงของมหาจักร ดีเวลอปเมนท์ ซึ่งในงานนั้น คราคร่ำไปด้วยเครื่องเสียงที่เป็นทั้งลำโพง หูฟัง ไร้สาย โดยในงานวันนั้นจัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Surrender your life to Sound
อ่านเพิ่มเติม: มหาจักรเปิดคลังสุนทรียภาพทางดนตรีรุ่นใหม่จาก JBL และ Harman
การเปิดตัวคลังเครื่องเสียงของมหาจักร ถือว่าน่าสนใจ เพราะเป็นการเปิดตัวชุดเครื่องเสียงไร้สายพร้อมกันถึง 24 รุ่น ซึ่งทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับความสามารถที่น่าสนใจ เริ่มตั้งแต่งานดีไซน์ที่ล้ำสมัย หรูหรา ชวนจับใจ จับตา และคุณภาพของเสียงที่ยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันการใช้งานหูฟังของคนสมัยใหม่มีการเปลี่ยนไป จากเดิมที่ใช้สายเสียบเข้ากับสมาร์ทโฟน เวลานี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นไร้สายผ่านเทคโนโลยี Bluetooth ถ้าลองสำรวจลงไป ก็จะพบว่า คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งการได้มาซึ่งสุขภาพที่ดี จะมาจากการออกกำลังกาย แน่นอนว่า การออกกำลังกายนั้น ทั้งการวิ่งในยิม หรือการวิ่งบนลู่วิ่งหรือท้องถนน การใช้หูฟังอาจทำให้ผู้ออกกำลัง รู้สึกว่ามันเกะกะ และตัวสายก็ทำให้รู้สึกรุงรังเกินไป
นอกจากนี้ การใช้หูฟังที่มีสายจะมาพร้อมกับปัญหาโลกแตก นั่นคือ สายที่พันกันเป็นมัมมี่ และการจัดเก็บที่ยาก ฉะนั้นเทรนด์ของการใช้หูฟังไร้สาย จึงทวีความน่าสนใจขึ้นตามลำดับ
สำหรับผมแล้ว ก็ถือว่า ความบันเทิงจากเครื่องเสียงเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ควบคู่กับวงการเทคโนโลยีไม่น้อย จึงได้ถือโอกาสหยิบยืมเฮดโฟนจากทางมหาจักรของค่าย JBL รุ่น Everest 700
Design
JBL Everest 700 รุ่นที่ได้มารีวิว เป็นสีดำ มีการดีไซน์ในลักษณะเป็นสีดำเรียบๆ ด้านบนของหูฟังเป็นสีดำด้าน ตรงระหว่างด้านบนและที่ครอบหูทางด้านซ้ายจะมีชื่อรุ่น Everest เป็นสัญลักษณ์ ส่วนทางด้านขวาจะมีตัวเลขสามตัวหนึ่งชุด คือ 700 ซึ่งมาจากหมายเลขรุ่นนั่นเอง ตรงนี้เราสามารถที่จะปรับความยาวของหูฟังให้เหมาะกับโครงหน้าของเราได้ พร้อมๆ กับการพับเก็บลงกระเป๋า
ส่วนบริเวณหลังหูทั้งซ้ายและขวาจะมีปุ่มให้ใช้งาน โดยในทางซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มมัลติฟังก์ชัน ที่เอาไว้ใช้งานหลากหลาย เช่น Call, Playback เป็นต้น ทางด้านขวาจะเป็นปุ่มเปิด/ปิดหูฟัง และด้านล่างจะเป็นปุ่ม ShareMe 2.0 ที่จะเป็นการแชร์เพลงที่เราฟังอยู่ให้กับคนข้างๆ ได้ฟังเพลงเดียวกับเรา
นอกจากนี้ยังมีให้สังเกตอีกนิดนึงจะมีปุ่มเล็กๆ อยู่เหนือ Power ตรงนั้นจะส่วนที่บอกสถานะแบตเตอรี ถ้าหากเข้าสู่สีแดงเมื่อไร ก็เป็นการบอกว่า JBL Everest 700 กำลังต้องการพักผ่อนครับ
ในขั้นตอนของการเชื่อมต่อระหว่างหูฟังและดีไวส์ (สมาร์ทโฟน/คอมพิวเตอร์/แท็บเล็ต) ถือว่าเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลารอนาน ซึ่งในขณะเดียวกัน ถ้าไม่ต้องการที่จะเชื่อมต่อ Bluetooth ด้วยต้องการประหยัดแบตเตอรีสมาร์ทโฟน หรือด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ตัวกล่องที่มากับชุดหูฟัง จะมีสายเสียบด้านท้ายของตัวเครื่องเข้ากับพอร์ท 3.5 มม.ที่สมาร์ทโฟนได้เช่นกันครับ
Performance
ความสามารถที่น่าสนใจของ JBL Everest 700 ในความคิดผมก็คือ ในแง่ของการฟังเพลงล้วนๆ เลยครับ เพราะคุณภาพของเสียง ถือว่ายอดเยี่ยม และน่าสนใจมาก เพราะคุณภาพเสียงที่เราจะได้จากหูฟังตัวนี้ คือ เราจะได้รับเสียงที่ชัดเจนจากเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง เสียงคอรัส เสียงกลอง เสียงเบส ทุกอย่างคมกริบ มีระดับของเสียง โดยไม่ต้องผ่านการปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ใช้แค่ตัว Default ของหูฟัง ก็สามารถฟังเพลงคุณภาพได้แล้ว
แต่เมื่อนำหูฟังไปใช้ร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ผมทดลองก็คือ YouTube และ iflix จะพบว่า เสียงจะดีเลย์ช้ากว่าภาพกว่าเล็กน้อย ถ้าหากแก้ไขตรงจุดนี้ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
Battery Life
จากที่ได้ทดลองฟังเพลงมา ตัวแบตเตอรีที่อยู่ภายใน JBL Everest 700 พกพาความอึดของแบตเตอรีอย่างมาก เพราะสามารถฟังได้ต่อเนื่องผ่านบลูทูธได้นานถึง 15 ชั่วโมง สูงสุด 25 ชั่วโมง โดยปกติแล้ว ในไลฟ์สไตล์ผม มักเลือกใช้หูฟังเวลาที่ออกกำลังกาย หรือระหว่างการเดินทาง และจาก JBL Everest 700 ถือว่าเป็นการสร้างสุนทรีย์ทางอารมณ์ได้อย่างดีเลยทีเดียว
อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ ระบบจะมีการตัดระบบการเชื่อมต่อกับดีไวส์ทันที หากไม่มการเชื่อมต่อระหว่างกันเป็นเวลา 10 นาที ตรงนี้นี่เอง ที่ทำให้ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้นาน การชาร์จ เท่าที่ได้ลองมาพบว่า ใช้เวลาในการชาร์จเต็มประจุตัวเครื่องไม่นานนักครับ ราว 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
How do you feeling?
การมาของแอปพลิเคชัน Music Streaming ส่งผลให้การฟังเพลงแบบไร้สายก้าวขึ้นมาโดดเด่นมากขึ้น แถมด้วยเทคโนโลยีอย่าง WiFi และ Bluetooth ก็มีการพัฒนาทำให้เสียงที่ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เกิดความสะดวกสบาย ไร้ขีดจำกัด ส่วนในแง่รูปลักษณ์ของ JBL Everest 700 ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า ตัวเฮดโฟนอาจมีขนาดที่ใหญ่อยู่บ้าง ซึ่งอาจทำให้หลายคนมองข้าม ไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องเนี้ยบ ทรงผมต้องเป๊ะ ก็อาจไม่เหมาะกับการใช้งานเฮดโฟนครบเซ็ตแบบนี้ แต่โดยรวมแล้วเป็นเฮดโฟนที่ผมชอบเพราะคุณภาพของเสียง ความคมชัด ของเครื่องดนตรีที่มาจากเพลงเป็นสิ่งที่ให้มาอย่างครบครัน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.mahajaklife.com ครับ
