[Review] Acer Liquid E2: จอ 4.5 นิ้ว 2 ซิม ระบบเสียง DTS ลำโพง Stereo คู่

ช่วงหลังๆ เราจะเห็นหลายๆ ค่ายลงมาเล่นตลาดแอนดรอยด์ 2 ซิมกันเยอะขึ้น ไม่เว้นแม้แต่อินเตอร์แบรนด์ Acer เองก็เป็นอีกแบรนด์ที่ลงมาเล่นตลาด 2 ซิม เจาะกลุ่มตลาดกลางและล่าง กลุ่มนี้ยังคงเป็นกลุ่มที่ใหญ่ยังสามารถเพิ่มรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแทรกตลาดได้อีกเยอะ Acer จึงส่งมือถือแอนดรอยด์ 2 ซิมตัวใหม่ล่าสุดของค่ายมาลุย รุ่นที่ว่าก็คือ Liquid E2 เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก Liquid E1

Liquid E2 หรือ Liquid E2 Duo คือรุ่นเดียวกัน แต่ในไทยทาง Acer เลือกใช้ Liquid E2 สั้นๆ อย่างที่บอกในตอนแรกว่ารุ่นนี้เป็นการต่อยอดจาก Liquid E1 ราคาเปิดตัวใกล้เคียงกัน แต่ในแง่สเปกและความแรง Liquid E2 แรงกว่าพอสมควร และมาพร้อมกับคุณสมบัติและฟังก์ชั่นการทำงานที่ดีกว่า

Liquid E2 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 4.5 นิ้ว 245 ppi ความละเอียด 540 x 960 พิกเซล สู้แสงได้ดีระดับนึง สีสันไม่ค่อยสดเท่าไหร่ ถ้าใครชอบสีแรงๆ จัดๆ แบบ AMOLED อาจจะผิดหวังถ้าซื้อรุ่นนี้ แต่ถ้าชอบสีแบบธรรมชาติอาจจะชอบครับ ให้สีสันที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ไม่สดจัด เวลาใช้งานนานๆ ไม่ปวดตา

ดีไซน์ด้านหน้าดูในรูปไม่ค่อยสวย แต่จับเครื่องจริงสวยเลยทีเดียว โดยเฉพาะบริเวณลำโพงหน้า มีการออกแบบให้มีเส้นโค้งของขอบหน้าจอกับลำโพง กล้องหน้ารุ่นนี้ใส่มาให้ 2 ล้านพิกเซล ปุ่มกดเป็นแบบสัมผัส 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่มเมนู

ด้านล่างมีช่องต่อ micro USB 2.0 และช่องสำหรับแกะฝาหลัง ด้านบนมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. และปุ่มสำหรับเปิด/ปิดเครื่อง และเปิด/ปิดหน้าจอ

ขอบด้านข้างดูคล้ายอะลูมิเนียม ใช่ครับวัสดุด้านข้างเป็นอะลูมิเนียม โดยมีความหนาอยู่ที่ 9.9 มม. น้ำหนัก 140 กรัม

ด้านหลังทำด้วยพลาสติกแข็ง พื้นผิวด้านนิดๆ จับถนัดมือ และไม่เกิดรอยนิ้วมือ กล้องหลังใส่มาให้ 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียด 1080p มีไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงตอนถ่ายวีดีโอ

ด้านหลังและด้านหลังของฝาหลัง มีลำโพง 2 ตัว เป็น Stereo ขับเคลื่อนด้วยระบบเสียงแบบ DTS (Digital Theater System) ใครที่ชอบฟังเพลง หรืออยากได้มือถือที่เสียงลำโพงเจ๋งๆ ตัวนี้น่าจะตอบสนองได้ดี ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงหรือดูหนังให้มีมิติ

Liquid E2 รองรับ 2 ซิม โดยเป็นซิมขนาดธรรมดาทั้ง 2 ซิม และรองรับ 3G ทั้ง 2 ซิม โดยเลือกตั้งค่าจากเมนูตั้งค่าการใช้งาน 2 ซิมในตัวเครื่อง สำหรับการใช้งาน 3G จะแยกเป็น 850/2100 และ 900/2100 (แต่ในไทยมีขายแค่ 900/2100) จะถอดซิมต้องแกะแบตออกก่อน รุ่นนี้สามารถเพิ่ม microSD ได้ แบตเตอรี่ให้มา 2000 mAh

ซอฟท์แวร์

Liquid E2 มาพร้อมกับ Android 4.2.2 Jelly Bean อินเตอร์เฟสเป็นแอนดรอยด์เพียวๆ ไม่ถูกปรับแต่งใดๆ ถ้าใครอยากได้สวยๆ ก็สามารถโหลด Launcher มาติดตั้งเองได้ รองรับภาษาไทยสมบูรณ์แบบสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store

มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering) และระบบเสียง DTS ทำงานร่วมกับลำโพงคู่ด้านหลัง

สามารถใช้งานฟีเจอร์ของ Android 4.2 อย่าง Lockscreen Widget หรือ Daydream ได้ ส่วนเรื่องจะอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นใหม่ได้ไหมต้องดูกันอีกทีครับ ว่า Acer จะใจดีทำออกมาให้อัพเดทไหม

Liquid E2 รองรับการทำงาน 2 ซิม สามารถตั้งค่าการใช้งานแต่ละซิมได้อย่างอิสระ ทั้ง 2 ซิมเป็นซิมธรรมดา สามารถใช้งาน 3G ทั้ง 2 ซิม สลับด้วยเมนูตั้งค่าในเครื่อง ไม่ต้องแกะฝาหลังเพื่อสลับซิม สามารถตั้งชื่อซิม เปลี่ยนสีพื้นหลังของซิม ตั้งค่าการใช้งาน Voice, Data, SMS ได้

ไม่สามารถใช้งาน Voice พร้อมกันได้ ถ้าซิม 1 ใช้โทรศัพท์อยู่ ซิม 2 จะเป็นฝากข้อความ ในขณะที่ใช้งาน Voice (โทรศัพท์เข้า-ออก) จะไม่สามารถใช้งาน 3G ได้(ผมทดสอบเปิด3G ซิม 1 และใช้ซิม 2 โทรออก)

Float Caller ฟีเจอร์สำหรับคนที่ไม่ชอบให้สายเรียกเข้ามาขัดใจเวลาใช้งานแอพพลิเคชั่นอยู่ เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ในขณะที่เรากำลังใช้งานแอพพลิเคชั่นอยู่ เช่นอ่านเมล อ่านข่าวผ่านเว็บเบราว์เซอร์ หรือเล่น Facebook, Line เมื่อมีสายเข้ามาจะขึ้นเป้นหน้าจอ pop up แทน สามารถกดรับสายได้เลย

ประสิทธิภาพ

Liquid E2 มาพร้อมกับชิป MTK 6589 เป็น Quad-core ความเร็ว 1.2 GHz แรม 1GB ชิปกราฟฟิกเป็น PowerVR SGX 544MP แม้ชิปไม่ใช่ตัวแรงเทียบเทียบตัวท็อป แต่ Acer ทำรอมมาค่อนข้างดี ทำให้การทำงานได้อย่างลื่นไหน ไม่ค่อยมีอาการหน่วง หน้าจอก็ทัชติดมือ ตอบสนองได้เร็ว

สรุป

Liquid E2 เป็นมือถือแอนดรอยด์ 2 ซิมอีกรุ่นที่ราคาจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับคุณสมบัติ ฟังก์ชั่นการทำงาน และสเปกถือว่าคุ้มค่า อีกทั้งวัสดุและงานประกอบยังดูดีกว่า Liquid E1 อีก

ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว ชิป Quad-core ความเร็ว 1.2 GHz แรม 1GB กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้อง 2 ล้านพิกเซล ทั้งหมดนี้ในราคาเพียงแค่ 7,990 บาทเท่านั้น พวกทายด้วยฟังก์ชั่น Float Caller แม้มีสายเรียกเข้าในขณะที่เราใช้แอพอยู่ก็ไม่ทำให้การใช้งานแอพดังกล่าวหยัดลง อีกทั้งพลังเสียงลำโพงคู่ ระบบเสียง DTS ทำให้ตัวนี้กลายเป็นแอนดรอยด์ 2 ซิมที่น่าสนใจอีกตัวในตลาดตอนนี้