ย้อนหลังกลับไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา Mobiledista เราได้นำเสนอข่าวถึงการวางจำหน่ายรุ่นใหม่ของ Moto อย่าง Moto G4 Plus ซึ่งในเวลานี้เราจะมาบอกเล่าประสบการณ์ใช้งานครับ
สเปกเครื่อง
- ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS Full HD (1080 x 1920 pixels)
- ชิปประมวลผล Qualcomm MSM8952 Snapdragon 617
- GPU Adreno 405
- ROM 32GB // RAM 3GB
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- Android 6.0.1
- แบตเตอรี 3,000 mAh
- รองรับสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับวิทยุ
Feeling Good
เอาจริงๆ นะครับ Moto G4 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่โอเคมากครับ แม้ว่างานดีไซน์ของรุ่นนี้ ไม่ได้หรูหรา เป็นพลาสติก แต่จับแล้วรู้สึกดีเป็นอย่างมาก ที่น่าสนใจคือ ขนาดหน้าจอ กลับมีขนาดที่เหมาะมือเอามากๆ จนดูไม่ออกว่า นี่เป็นมือถือขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว
ฝาหลังเป็นแบบพลาสติกที่สามารถเปลี่ยนฝาหลังได้ ถ้าหากลองสัมผัสดูจะรู้สึกได้ว่า ด้านหลังจะเป็นแบบกันลื่น แต่มีข้อตินิดหนึ่งก็คือ ฝาหลังที่ว่านี้ งานประกอบไม่ค่อยแน่นหนาสักเท่าไหร่ สังเกตดีจะเห็นว่าฝาหลังจะเผยอออกมานิดหน่อย
ส่วนด้านหน้าของตัวเครื่อง จะมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งตรงนี้มีสิ่งที่ผมชอบ และไม่ชอบในเวลาเดียวกัน กล่าวคือ สิ่งที่ผมชอบของรุ่นนี้ ก็คือ มันมีที่สแกนนิ้วมือ ซึ่งทำงานได้อย่างรวดเร็วมาก แตะปุ๊บติดปั้บ มิหนำซ้ำตัวเครื่องยังสามารถปลดล็อกได้ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดหน้าจอก็ตาม ตรงนี้เป็นสิ่งที่สามารถถกเถียงกันได้ว่า ดีหรือไม่ดี
ในแง่หนึ่งคือ เราไม่ต้องไปแตะที่ปุ่ม Home แค่เอานิ้วแตะที่เซนเซอร์ก็เปิดเครื่องได้เลย แต่ในอีกแง่หนึ่งก็อาจทำให้เกิดการปลดล็อกเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ในยามที่มันอยู่ในกระเป๋ากางเกง
แต่ในแง่ที่ดีไม่ดีเอาเสียเลย นั่นคือ เรื่องของหน้าตา!
ลองดูสิครับ หน้าตาของมันน่าเกลียดมาก เป็นเหลี่ยมๆ ที่ดูไม่เข้ากับดีไซน์ของตัวเครื่อง ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า สู้เอาสแกนลายนิ้วมือไปไว้ตรงโลโก้ Motorola ด้านหลังตัวเครื่องยังดีกว่าอีก
ที่น่าเสียดายคือ ปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่ว่านี้ กลับไม่มีฟีเจอร์อื่นเสริมมาเลย ทำได้แค่สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งถ้าหากปุ่มสแกนลายนิ้วมือ สามารถติดฟีเจอร์แทนปุ่ม Back ปุ่ม Home ปุ่ม recent ได้จะดีมาก แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น น่าเสียดายๆ
ประสบการณ์ความบันเทิง
บนขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ถือเป็นขนาดหน้าจอที่ใหญ่พอจะเล่นความบันเทิงที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการดู YouTube ดูซีรีส์ หรือคลิปวิดีโออื่นๆ เหมือนอย่างที่ผมบอกไปว่า ขนาด 5.5 นิ้วของรุ่นนี้ เมื่อเทียบกับ iPhone 6 Plus แล้วถือว่า เล็กกว่ากันมาก ทำให้การใช้งาน การประคอง ตะแคงนอนดู สบายมากเลยครับ
ฝาหลังมีให้เปลี่ยน
เนื่องมาจากว่า ฝาหลังของรุ่นนี้ สามารถถอดเปลี่ยนได้ เรื่องนี้ผมได้สอบถามจากผู้บริหารของ Motorola ว่า จะนำเข้าฝาหลังมาวางจำหน่ายในไทยหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า มีแน่นอน โดยราคาค่างวดอยู่ระหว่าง 200-300 บาท
กล้องถ่ายภาพ
อันนี้ด้วยเวลาที่จำกัดเลยยังไม่ได้ทดลองเรื่องการถ่ายภาพมากนัก เลยขอติดไว้ก่อนครับ แต่ที่น่าสนใจคือ รุ่นนี้มามาพร้อมกับกล้องในโหมดโปร ทำให้การปรับแต่ง ตั้งค่ากล้องเพื่อให้ได้ภาพที่ถูกใจเราที่สุดออกมาทำได้อย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันผมก็ชอบในเรื่องของ Action ซึ่งเป็นการใช้ gesture ในการสั่งการตัวเครื่อง เช่น การหมุนข้อมือเพื่อเปิดโหมดกล้องแบบอัตโนมัติ (หรือหมุนข้อมืออีกครั้งเพื่อใช้เป็นกล้องหน้า) ทำให้ห้วงอารมณ์ของการถ่ายภาพสามารถถ่ายได้อย่างต่อเนื่อง (โดยฟีเจอร์นี้มีมาตั้งแต่ Moto X รุ่นแรก)
แบตเตอรี
ตัวเลขจากสเปกชีตระบุว่า Moto G4 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรีขนาด 3,000 mAh จากการใช้งาน 2-3 วันที่ผ่านมา การันตีได้เลยว่า สามารถใช้งานได้เพียงพอในหนึ่งวันอย่างแน่นอน
จากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่าผม unplugged ตัวเครื่องราวๆ เที่ยงวัน จากนั้นแบตเตอรีก็ถูกใช้งานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงตีสอง แบตเตอรีก็ยังเหลือ 19% หากนับตามเวลาแล้ว ผมใช้สมาร์ทโฟนติดต่อกันนานถึง 14 ชั่วโมง ซึ่งถือว่า เป็นการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เกินกว่ามาตรฐานคนทั่วไป
ส่วนวันอื่นๆ ก็มีใช้งาน 6 ชั่วโมงบ้าง 8 ชั่วโมงบ้าง แบตเตอรีก็ยังเหลือๆ ในระดับ 43% และ 39% ตามลำดับ เพราะฉะนั้นแล้วการใช้งานยาวนานหายห่วงครับ
Moto G4 Plus vs. iPhone 6 Plus
เนื่องจากว่า ก่อนหน้าที่ผมจะได้ Moto G4 Plus มาใช้ในการรีวิวนั้น สมาร์ทโฟนคู่ใจที่ใช้งานเป็นประจำในแต่ละวันคือ iPhone 6 Plus และ Samsung Galaxy A9 Pro โดยรุ่นหลังเป็นรุ่นที่ผมหวังใช้งานเพื่อเล่น Pokemon Go โดยเฉพาะ
Read next: Samsung Galaxy A9 Pro Review: แบตอึดแค่ไหนเมื่อเล่น Pokemon Go แบบเต็มเหนี่ยว (ภาคแบตเตอรี)
เมื่อเทียบองค์ประกอบของสองรุ่นนี้แล้ว แม้ว่าจะแตกต่างกันในเรื่องระดับราคา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ฝั่ง Moto ไม่ได้ด้อยกว่าเลยในแง่ของการใช้งานครับ เพราะเอาเข้าจริงแล้วฝั่ง Moto นั้นพกพาได้ง่ายกว่ากันมาก
ทั้งนี้เป็นเพราะ iPhone มีขนาดตัวเครื่องที่ยาวกว่า อีกทั้งด้านข้างตัวเครื่องก็มีความหนามากกว่ากันนิดหน่อย จึงทำให้ตัวเครื่องที่มีขนาดเท่ากัน แต่เมื่อใช้งานจริงกลับรู้สึกได้ชัดเจนว่า Moto มีขนาดตัวเครื่องที่เล็ก ซึ่งง่ายในการพกพามากกว่า
ถึงตรงนี้ ยอมรับเลยว่า แม้สองรุ่นนี้ระดับราคาจะต่างกัน แต่ถ้าให้เลือกแล้ว ตอนนี้ชอบใจ Moto มากกว่า iPhone เสียอีก
สรุป
จากที่กล่าวมาทั้งหมด Moto G4 Plus ถือเป็นสมาร์ทโฟนของ Moto ที่พัฒนาได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ที่แม้จะไม่ใช่โลหะและกระจก แต่กลับสามารถทำตัวเครื่องให้ดูน่าใช้งาน มีความคล่องตัว มีทีเด็ดทีขาดในเรื่องของการสแกนลายนิ้วมือที่ทำได้อย่างฉับไว
แต่กระนั้นก็สอบตกในด้านการดีไซน์ที่ทำปุ่มสแกนลายนิ้วมือเป็นเหลี่ยมๆ ทำให้ความสวยงามจองตัวเครื่องดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ ความอึดของแบตเตอรี ฟีเจอร์ รวมถึง gesture ต่างๆ แล้ว ถือว่าค่าตัว 8,990 บาท เป็นราคาที่ไม่แพงเลย
สำหรับครั้งต่อไปจะเป็นการรีวิวตัวเครื่องในฉบับเต็มครับ รอติดตามรับชมกันได้เร็วๆ นี้