อินเทลได้นำผู้เชี่ยวชาญในด้านการจัดทำนโยบายและการพัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์และกองทุนเพื่อการให้บริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง (Universal Services Funds (USF)จากสหรัฐอเมริกา เอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐของพม่า เข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ ซึ่งจัดขึ้นรวมสองวัน ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่าภายในงานผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่างๆได้ให้ข้อมูลภาพรวมถึงแผนงานและวิธีการบริหาร จัดการกองทุนด้านบรอดแบนด์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกผู้ร่วมงานยังได้สนทนาถึงความสำคัญของเทคโนโลยีบรอดแบนด์ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและ การพัฒนาในด้านการศึกษา สาธารณสุข และการให้บริการพื้นฐานต่างๆ แก่ประชาชนชาวพม่า
อูเดย์ มาร์ตี้ ผู้อำนวยการ อินเทล ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “แม้จะได้มีการตระหนักถึงความจำเป็นของเทคโนโลยีบรอดแบนด์กันแล้วก็ตาม แต่หลายประเทศก็ยังคงประสบกับความท้าทายเพื่อหาวิธีการที่จะทำให้ ประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง ในราคาไม่สูงมากนักและเป็นแนวทางที่ยั่งยืน “แนวทางหนึ่งที่สำคัญสำหรับการจัดตั้งกองทุนในประเทศต่างๆ ที่มีจำนวนมากขึ้น คือ การสรรค์สร้างและการใช้ประโยชน์จากกองทุนเพื่อการให้บริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึงนั่นเอง”
มาร์ตี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า “อินเทล มีประสบการณ์ในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับบรอดแบนด์และกองทุน USF มาแล้วทั่วโลก โดยที่ผ่านมาเราได้เชิญผู้นำของภาครัฐ องค์กรอิสระ และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เข้ามาร่วมหารือและพูดคุยถึงกรณีตัวอย่างเพื่อช่วยให้ประชาชนทั่วโลกได้รับประโยชน์จากการใช้บรอดแบนด์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที)ที่ผ่านมาเราได้มีการจัดงานอภิปรายและการประชุมเชิงปฏิบัติการในลักษณะเดียวกันนี้ในละตินอเมริกา ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และเอเชีย สำหรับในครั้งนี้ เรารู้สึกยินดีมากที่สามารถจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้ขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศพม่านั่นเอง”
จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ของธนาคารโลกและไอทียู (International Telecommunication Union –ITU)พบว่า อัตราการเข้าถึงบริการบรอดแบนด์ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ร้อยละ 10 นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 โดยจะส่งผลต่อการเติบโตในประเทศที่กำลังเติบโตมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วเพียงเล็กน้อย1,2
การส่งเสริมประโยชน์จากการเข้าถึงบรอดแบนด์ เป็นแนวทางหลักที่อินเทลยึดถือมาตลอด โดยในครั้งนี้ อินเทลได้ร่วมหารือกับผู้ร่วมงานประชุมซึ่งมาจากองค์กร USAID, ITU และพันธมิตรอีกหลายราย และได้แสดงให้เห็นว่า ภาครัฐและเอกชนสามารถร่วมมือกันเพื่อทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงข่ายบรอดแบนด์และไอซีทีผ่านการใช้กองทุน USF อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
มีการศึกษาหลายแห่งที่เน้นศึกษาเฉพาะในระดับภูมิภาค ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุนด้านบรอดแบนด์ อาทิ:
- ละตินอเมริกา/แคริบเบียน: อัตราการเข้าถึงโครงข่ายบรอดแบนด์ที่สูงขึ้นร้อยละ 1 ส่งผลให้จีดีพีเติบโตขึ้นที่.017 จุด3
- บราซิล: จากการศึกษาพบว่า โครงข่ายบรอดแบนด์ช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานขึ้นร้อยละ 1.4 4
- จีน: อัตราการเข้าถึงโครงข่ายบรอดแบนด์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางสายโทรศัพท์ (หรือแบบไดอัล-อัพ)ทุกๆ ร้อยละ 10 สามารถส่งผลให้จีดีพีมีอัตราเพิ่มขึ้นได้สูงสุดร้อยละ 2.55
- ไทย: คาดการณ์ว่า โครงข่ายบรอดแบนด์ช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของจีดีพีในประเทศให้สูงขึ้นเกือบร้อยละ 16
นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างอีกหลายกรณีที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึง อินเดีย มาเลเชีย โมร็อกโค ปากีสถาน และตุรกี ที่แสดงให้เห็นว่า กองทุนเพื่อการให้บริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง เป็นกลไกในอุดมคติสำหรับรัฐบาลในประเทศที่กำลังเติบโต เพื่อช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านบรอดแบนด์และให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อการเข้าถึงโครงข่ายบรอดแบนด์ที่มุ่งเน้นไปยังประชากรในพื้นที่ที่ยังได้รับบริการไม่ทั่วถึง7
“สำหรับกองทุน USF นั้น จำเป็นอย่างยิ่งในการนำมาใช้ในโครงการด้านบรอดแบนด์หากเราต้องการให้ประชาชนทุกคนในพม่าได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ซึ่งการร่วมหารือในครั้งนี้มีความสำคัญและมีประโยน์อย่างยิ่งเพราะเป็นการนำกรณีตัวอย่างที่เราทำสำเร็จมาแล้วหลายกรณีด้วยกัน มาแบ่งปันให้ผู้ร่วมประชุมได้รับทราบ เพื่อให้เราสามารถยกระดับเศรษฐกิจ พัฒนาประโยชน์ต่างๆ ทางสังคม และส่งต่อประโยชน์เหล่านี้ไปสู่ประชาชนของประเทศพม่า” มาร์ตี้ กล่าวสรุป