[PR] ดีแทคร่วมจัด ITU Telecom World 2016

dtac_001

ดีแทคร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลการสื่อสารเพื่อประเทศไทย ในงาน ITU Telecom World 2016 ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกในการแสดงนวัตกรรมด้านไอซีที โทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัล และเป็นเวทีพบปะแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานผู้กำกับดูแล และผู้นำจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดทิศทางของการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลการสื่อสาร โดยไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น 14-17 พฤศจิกายน 2559 ที่ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ดีแทคชูแนวคิดหลักดิจิทัล 24/7 ใน 4 กลุ่ม คือ ดิจิทัลเน็ตเวิร์ก, ดิจิทัลอินโนเวชั่น, ดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต, และดิจิทัลสู่อนาคต

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าว่า ดีแทคมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนวัตกรรมไอซีทีรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และพร้อมเดินหน้าสนับสนุนประเทศไทยไปสู่สังคมเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการใช้เวที ITU Telecom World 2016 เพื่อร่วมผลักดันและส่งเสริมความร่วมมือในการนำประเทศไทยสู่ดิจิทัลจากทุกฝ่ายในระดับนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐที่เป็นผู้ออกกฎหมายและกำหนดนโยบาย ภาคเอกชน และภาคสังคมต่างๆ พร้อมทั้งใช้เป็นเวทีในการพบปะผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม นักลงทุน ผู้ประกอบการรายใหม่ที่สร้างนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมทั้งร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาดิจิทัลสู่ทุกภาคส่วน

สำหรับการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล หรือการนำประเทศไทยก้าวสู่ 4.0 นั้นก็เพื่อสร้างศักยภาพดิจิทัลและส่งเสริมให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ประชาชน เศรษฐกิจ รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันทางธุรกิจในภูมิภาค ดีแทคยังมุ่งเน้นในการสรรหาแผนงานในอนาคตที่สามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม  เพื่อจะนำประเทศไทยไปสู่สังคมดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบภายในปี พ.ศ. 2563

dtac_002

สำหรับพื้นที่จัดแสดงของดีแทค จะแบ่งเป็นการนำเสนอแนวคิด “Digital 24/7 We are always open” ซึ่งดีแทคสร้างโอกาสและพัฒนาตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วันในสัปดาห์อย่างต่อเนื่องไม่มีวันหยุดให้กับทุกคน ซึ่งไม่ใด้จำกัดแค่ในวันนี้ แต่ดีแทคยังจะผลักดันก้าวสู่อนาคตร่วมกันด้วย 4 กลุ่มหลัก คือ

1. ดิจิทัลเน็ตเวิร์ก (Digital Network)ดีแทคเปิดกว้างสู่โอกาสแห่งดิจิทัลของโครงข่ายของประเทศไทยกับการนำเสนอเทคโนโลยีการสื่อสารดิจิทัล 4G บนจุดแข็งของคลื่นดีแทค 1800MHz คลื่นเดียวบนแบนด์วิธที่กว้างที่สุดถึง 20 MHz รองรับมือถือ 4G เพื่อลูกค้าทุกคนซึ่งรองรับการใช้งานได้มากกว่าไม่เพียงแค่เครื่องไฮเอนด์เฉพาะกลุ่ม พร้อมทั้งโครงข่ายดีแทคสามารถพัฒนาสู่เทคโนโลยีในอนาคตหรือรองรับ 5G และ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ดีแทคยังได้ทุ่มลงทุน 70,000 ล้านบาท อย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาโครงข่ายเพื่อประเทศไทยก้าวสู่ดิจิทัลและรองรับการแข่งขันบนเวทีโลกอีกด้วย

2. ดิจิทัลอินโนเวชั่น (Digital Innovation)ดีแทคเปิดกว้างสู่โอกาสให้กับการผลักดันประเทศไทยสู่ดิจิทัลด้วยการสร้างสังคมสตาร์ทอัพและระบบนิเวศน์ดิจิทัล โดยนำไฮไลท์โครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท  (dtac Accelerate)ซึ่งวันนี้เป็นโครงการอันดับหนึ่งของประเทศไทยในการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ และเป็นต้นแบบให้กับกลุ่มบริษัทเทเลนอร์ใน 6 ประเทศ นำโมเดลนี้ไปใช้ด้วยเช่นกัน นอกจากโครงการ “dtac Accelerate” จะก่อให้เกิดผลบวกต่อการสร้างระบบนิเวศน์ดิจิทัลของไทยแล้ว ยังกลายเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับกลุ่มสตาร์ทอัพซึ่งจะมาผลักดันประเทศไทยสู่อนาคตในโลกดิจิทัลอีกด้วย โครงการได้จัดอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4และสร้างทีมสตาร์ทอัพดาวรุ่งของไทยมา 21 ทีม ซึ่งแต่ละทีมเติบโตขึ้นเฉลี่ย 500% ต่อปี มีมูลค่าของบริษัทรวมกันกว่า 1.7 พันล้านบาท โดย 80% ของทีมสตาร์ทอัพในปีนี้ได้รับเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการได้รับเงินลงทุนแล้วทั้งหมดกว่า 150 ล้านบาทจาก VC ทั้งในประเทศและระดับโลก โดยครั้งนี้ได้นำไฮไลท์ มาจัดแสดงจุดประกายความคิด คือทีม เฟรชเก็ต (Freshket), เฮลธ์ แอท โฮม (Health at Home) และ เทคฟาร์ม (Tech Farm) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่จะมายกระดับภาคเกษตรกร ผู้ประกอบการร้านอาหาร และการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

dtac_7496

สำหรับในส่วนนี้ยังได้มีการนำไฮไลท์จากโครงการ Smart Farmer มาจัดแสดงด้วยการนำ IoT มาพัฒนาในการทำเกษตรกรรมอย่างแม่นยำ (Precision Farming) โดยจะทำงานแจ้งผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนในการวัดปริมาณน้ำ ความชื้นในดิน แสงแดด และปัจจัยที่มีผลต่อการผลิต โดยสามารถสั่งการเชื่อมต่ออุปกรณ์รดน้ำเพื่อคำนวณค่าที่เหมาะสมในการเพาะปลูกเพื่อให้การทำเกษตรกรรมได้ผลผลิตอย่างสมบูรณ์

3. ดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต (Digital for a Better Life)ดีแทคไม่เพียงคำนึงถึงการนำดิจิทัลเข้าถึงแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ดิจิทัลต้องยกระดับคุณภาพชีวิตได้ทุกคนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดีแทคได้จัดทำโครงการ เน็ตอาสาให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ในการแนะนำผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน สร้างศักยภาพการเรียนรู้การใช้ประโยชน์ เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้กับชุมชนในเชิงเศรษฐกิจและสังคม เพื่อช่วยให้ชุมชนก้าวเข้าสู่การค้าออนไลน์ สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน

นอกจากนั้น ดีแทคยังได้ร่วมกับภาครัฐในการผลักดันศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ ซึ่งจะมีการจัดเก็บข้อมูลประเภทต่างๆ ของชุมชน สินค้า สถานที่จากพื้นที่ชุมชนนั้นไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ของศูนย์ดิจิทัลแต่ละแห่ง เพื่อให้บริการแก่ประชาชนหรือผู้สนใจที่เข้ามาติดต่อ โดยการทำข้อมูลทั้งหมดจะมีการเชิญชวนคนในชุมชนร่วมกันสำรวจและจัดทำข้อมูลโดยมีเน็ตอาสาเป็นผู้รวบรวมและจัดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ประจำศูนย์ เพื่อเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจมาติดต่อขอรับบริการในการค้นหาข้อมูล หรือการมีการขอข้อมูลทางออนไลน์เป็นช่องทางอำนวยความสะดวกอีกช่องทางหนึ่ง

4. ดิจิทัลสู่อนาคต (Digital for Future)การมุ่งสู่อนาคตบนโลกดิจิทัล เส้นทางของการใช้ชีวิตคนทุกคนจะถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยดิจิทัลเป็นปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้น ดีแทคจึงมุ่งสู่การเปิดโอกาสแห่งนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลเพื่อมารองรับการใช้ชีวิตทุกคน สำหรับการจัดแสดงส่วนนี้ ดีแทคได้มุ่งนำเสนอทั้งเกี่ยวกับการรักษาทางการแพทย์ (Medical), การขนส่ง (Transportation), รถยนต์ (Automobile), และการเกษตรกรรม (Agriculture)

dtac_7498

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงาน ITU Telecom World 2016 สามารถเข้าเยี่ยมชมบูธดีแทค ซึ่งจัดแสดงบนพื้นที่ 250 ตรม. ได้ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2559 นี้