- สินค้าราคา 9 บาท บน JD Central ประจำวันนี้! คลิกเลย
- แจกคูปองส่วนลดซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดสูงสุด 1,000 บาท
- สมัครบัตรเครดิต KTC Mastercard รับฟรีโค้ดส่วนลด Shopee มูลค่า 250 บาท
- Welcare หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ทรง 3D รุ่น WF-99 (1 กล่อง 50 ชิ้น)
- แจกฟรี! คูปองส่งฟรี Lazada กดรับได้ที่นี้
- มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์เสริม ลด 65% + คูปองลดเพิ่ม 10,000.-
มือถือในตระกูล ‘Nexus’ ของ Google นั้นดำเนินมาถึง ‘รุ่นที่ 5’ แล้วกับชื่อที่เรียกขานกันว่า ‘Nexus 5’ โดยในรอบนี้ Google ยังคงร่วมมือกับค่าย LG ผลิตมือถือ Nexus เช่นเคย หลังจากเคยร่วมกันผลิต Nexus 4 มาแล้ว โดยในรอบนี้ Nexus 5 นั้นมาทำตลาดในประเทศไทยเร็วมากทีเดียวครับ กับราคาขายที่ 16,900 บาทและมีเฉพาะรุ่น 16GB เท่านั้นที่เป็นเครื่องศูนย์ในประเทศไทย ส่วนรุ่น 32GB ก็ต้องซื้อเครื่องหิ้วกันตามระเบียบครับ และ Nexus 5 นั้นมีขายพร้อมกัน 2 สีเลยทีเดียว คือ สีดำที่เป็นดำด้านทั้งตัว และอีกสีคือสีขาว (แพนด้า) มาในแนวทูโทนดำด้านหน้าและขาวด้านหลัง และรุ่นที่เราจะรีวิวก็คือ ‘Nexus 5 สีขาว’ ครับ เป็นรุ่นความจุ 32GB
โดย Nexus 5 นั้นเป็นมือถือรุ่นแรกในท้องตลาดที่มาพร้อมกับ Android 4.4 KitKat ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของ Google นั่นเอง
และตอนนี้ Nexus 5 ก็ได้รับอัพเดทเป็น Android ในเวอร์ชั่นล่าสุด ‘Android 4.4.2 KitKat’ เป็นที่เรียบร้อยครับ
สำหรับขุมพลังภายในของ Nexus 5 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ 5 นิ้ว (4.95 นิ้ว) IPS Plus ที่มีความละเอียด 1080p ที่ 445ppi โดยจอ IPS ของ Nexus 5 นั้นให้สีสันที่สว่างและก็สดทีเดียว (เกือบเทียบกับจอ AMOLED ได้แล้ว แต่สีดำก็ยังสู้จอแบบ AMOLED ไม่ได้อยู่ดี) ส่วนขุมพลังภายในนั้นให้ซีพียู quad-core Snapdragon 800 ที่ความเร็ว 2.3GHz, มีแรม 2GB, แบตเตอรี่ 2300 mAh ส่วนกล้องด้านหลังนั้นมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ Nexus 5 นั้นยังรองรับเครือข่าย 4G LTE ในบ้านเราด้วย
ดีไซน์
ดีไซน์ของ Nexus 5 นั้นไม่ได้ทำด้วยกระจกแบบเดียวกับ Nexus 4 ในปีที่แล้วอีกแล้ว โดยรอบนี้นั้นใช้วัสดุเป็นพลาสติก และมีดีไซน์ด้านหลังเป็นไปในทางเดียวกันกับ Nexus 7 (2013) โดยมีคำว่า ‘Nexus’ ตัวใหญ่ๆอยู่บริเวณด้านหลังของเครื่อง สำหรับงานประกอบของ Nexus 5 นั้นถือว่าประกอบได้ดี ตัวเครื่องจับกระชับกับมือดีทีเดียว ไม่ลื่นหลุดมือง่ายแบบ Nexus 4 ที่เป็นกระจกอีกแล้ว
บริเวณด้านหน้าถ้าเป็นรุ่นสีขาวจะมีบริเวณลำโพงสนทนาที่จะแตกต่างจากรุ่นสีดำไปเลย เพราะมีการพ่นสีลำโพงสนทนาให้กลายเป็นสีขาวตุ่มใหญ่เลยทีเดียว ส่วนกล้องหน้าของ Nexus 5 นั้นจะอยู่บริเวณด้านซ้ายของเครื่อง และปุ่มของตัวเครื่องที่เป็นปุ่มกดจริงๆจะมีแค่ปุ่ม Power บริเวณด้านขวา (ติดกับปุ่ม Power จะมีช่องเสียบซิมการ์ดแบบ microSIM ที่ต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมการ์ดออกมา) และปุ่มปรับเพิ่มลดเสียงที่อยู่ด้านซ้าย ส่วนปุ่มกดต่างๆนั้นเป็นปุ่มสัมผัสบนหน้าจอทั้งหมดครับ ด้านล่างสุดก็จะมีไฟ LED Notification อยู่ตรงกลางด้านล่าง
หน้าตาของไฟ LED Notification แบบหลากสีของ Nexus 5 เวลามีการแจ้งเตือนเข้ามา (ปกติไฟนี้จะตั้งค่าปิดมาให้ตั้งแต่ในกล่อง ต้องเข้าไปเปิดในเมนู Settings > Display > ติ๊กถูกที่ Pulse notification light)
บริเวณด้านหลังของ Nexus 5
ส่วนของลำโพงของ Nexus 5 นั้นอยู่บริเวณด้านล่าง (ตัวลำโพงคือซี่ๆด้านซ้าย ส่วนด้านขวาคือรูไมโครโฟนครับ) ส่วนพอร์ต microUSB (แบบ SlimPort) นั้นอยู่ตรงกลาง
ด้านการดีไซน์ช่องลำโพงและไมโครโฟนของ Nexus 5 นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาก iPhone เลยทีเดียว เพราะจะต้องมีใครมาถามอย่างแน่นอนว่า ‘ทำไมลำโพงของ Nexus 5 ดังข้างเดียว’ มันเป็นลำโพงโมโนนะจ๊ะ ไม่ใช่สเตอริโอ
ส่วนด้านหลังที่ปูดๆออกมานั้นคือกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซลที่มีขนาดใหญ่ก็เพราะว่ามีระบบกันสั่นใส่ไว้ด้วย (optical image stabilization: OIS) ส่วนด้านบนสุดจะมีแค่ช่องใส่หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
OK Google!
ฟีเจอร์คำสั่งเสียงบน Android 4.4 KitKat บน Nexus 5 นั้นกลายเป็นฟีเจอร์หลักของระบบไปแล้ว เพราะ Google ยุบเอา Homescreen ตัวเก่าทิ้งไป และใช้คำสั่งเสียง Google Search เป็นหน้า Homescreen หลักแทน (เป็น Homescreen เฉพาะของ Nexus 5 ของ Nexus 4 อัพเดทเป็น Android 4.4 KitKat ก็ไม่ได้หน้า Homescreen แบบนี้) โดยเราสามารถเรียกหน้า Google Search ที่มี Google Now เป็นส่วนประกอบด้วยโดยการปัดหน้า Homescreen ไปทางด้านซ้าย หรือจะพูดคำว่า OK Google ในหน้า Homescreen หลักก็ได้ รวมถึงช็อตคัททางลัดในการเข้าหน้า Google Now ผ่านทางหน้า Lockscreen ได้ทันที
โดยฟีเจอร์ของ Google Now นั้นก็อัพเดทขึ้นจากรุ่นก่อนเยอะทีเดียว ทำอะไรได้มากขึ้น การรับคำสั่งเสียงนั้นสามารถพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยได้สบายๆ
KitKat
Android 4.4 KitKat นั้นปรากฎโฉมบน Nexus 5 เป็นรุ่นแรกในโลก และเป็นเวอร์ชั่นแรกที่ Google ไม่ได้มีการจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด เพราะเปิดตัวและขายเลย สำหรับ Android 4.4 KitKat บน Nexus 5 นั้นลื่นไหลมากๆ การทำงานต่างๆรวดเร็วมาก และเป็นมือถือ Android ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยจับมาเลยทีเดียวครับ
สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Android 4.4 KitKat นั้นก็มีเพิ่มเข้ามาหลายอย่างทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งเสียง OK Google ที่เราพูดไปแล้วในหัวข้อที่แล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์ Caller ID ที่ถึงแม้จะโทรศัพท์หรือรับสายจากหมายเลขที่เราไม่รู้จัก Google ก็จะแสดงผลหมายเลขดังกล่าวให้เราได้เห็นครับ โดยหมายเลขนี้ก็มาจากที่บันทึกไว้ใน Google Place นั่นเอง ถ้ามีในฐานข้อมูลของ Google Place ก็จะมีชื่อแสดงออกมาให้ทราบครับว่าเป็นเบอร์ของอะไร
Wallpaper บน Nexus 5 นั้นเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยทีเดียวครับ และหน้าจอเมื่อกดค้างบนหน้า Homescreen ก็เปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่นก่อนๆเช่นกัน
แอพ Message หรือข้อความ SMS/MMS นั้นก็หายไป เพราะบน Android 4.4 นั้นยุบรวมกับแอพ Hangouts เป็นที่เรียบร้อยครับ
ในส่วนของ Settings ก็มีเมนู Home เพิ่มขึ้นมา สำหรับเลือกตัว Launcher (ถ้ามีการลงเพิ่มไว้จะขึ้นมาในหน้านี้)
ส่วนหน้า User Profile เมื่อดึง Notification Bar ลงมานั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย มีการเพิ่มในส่วนของ Location เข้ามา (ตัวไอคอนก็มีการปรับปรุงด้วยเช่นกัน สัญลักษณ์ Location แสดงตำแหน่ง GPS ก็จะไม่มีแบบกระพริบๆเหมือนเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้แล้ว)
ไอคอนของแอพต่างๆบน Android 4.4 KitKat นั้นจะใหญ่ขึ้นกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้เล็กน้อย
คีย์บอร์ดภาษาไทยที่ให้มาจะเป็น Google Keyboard (ในส่วนของภาษาไทยนั้นยังพิมพ์ค่อนข้างยากอยู่ และสู้คีย์บอร์ดภาษาไทยของ Samsung ไม่ได้) และมีคีย์บอร์ดแบบ Emoji ติดตั้งมาในตัวระบบเลย
ส่วนแอพที่ใช้ดูรูปภาพนั้นใน Android 4.4.2 นั้นยังคงมีอยู่ 2 ตัวคือ Gallery ของระบบและ Photos ของ Google+ (ซึ่งก็ติดมากับระบบอยู่ดี) ซึ่งดูจากการผนวก Photos ให้เป็นแอพหลักในการดูรูปภาพหลังจากกดถ่ายรูปไปแล้ว Android ในเวอร์ชั่นหน้าคงจะมีการตัด Gallery ทิ้งไปอย่างแน่นอน
พื้นที่เก็บข้อมูลบน Nexus 5 นั้นในรุ่น 32GB จะเหลือพื้นที่ทั้งหมดอยู่ 26.76GB ครับ
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ Nexus 5 นั้นให้มาที่ 2300 mAh ซึ่งก็ดูเยอะพอสมควร สำหรับการใช้งานทั่วๆไป กดเล่นตลอดเวลาก็จะอยู่ที่ราวๆ 8-9 ชั่วโมงครับ ซึ่งก็พอใช้งานได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นโดยไม่ต้องพึ่ง Power Bank ในการชาร์จ แต่ถ้าเล่นเกมหนักๆก็อยู่ไม่ถึง 8 ชั่วโมงเช่นกันนะ (พอดีผมไม่ค่อยได้เล่นเกมสักเท่าไหร่)
กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปบน Nexus 5 นั้นเป็นไฮไลท์เลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีระบบกันสั่น (OIS) แล้ว กล้องขนาด 8 ล้านพิกเซลของ Nexus 5 นี้ยังดีกว่า Nexus 4 เดิมแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่ Google นั้นมีการปล่อยอัพเดท Android 4.4.2 ให้กับ Nexus 5 ก็มีการแก้ไขปัญหาของกล้องถ่ายรูปให้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อใช้การถ่ายแบบ HDR+ (ระบบถ่ายภาพ HDR ของ Nexus 5) ก็ทำให้ได้ภาพที่ออกมาดูดีมากเลยทีเดียว และเป็นมือถือ Nexus รุ่นแรกที่ถ่ายรูปดีมาก การโฟกัสก็รวดเร็ว และระบบกันสั่นก็ทำให้สามารถถ่ายภาพในสถานที่สั่นไหวได้เป็นอย่างดี
แต่ในส่วนของเมนูกล้องถ่ายรูปบน Nexus 5 นั้นก็ยังคงความ Geek ไว้เช่นเดิม เพราะใช้เมนูในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งหลายๆคนอาจจะเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์บนเมนูกล้องของ Nexus 5 ได้ยาก ซึ่งตรงจุดนี้ต้องรอดูกันต่อไปว่า Google จะมีการปรับปรุงให้มันใช้ง่ายกว่าเดิมหรือไม่ แต่ด้านการถ่ายภาพนั้นถือว่าปรับปรุงได้ดีมากแล้ว
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nexus 5
ตัวอย่างภาพถ่ายแบบ Photoshere
(คลิกดูไซส์จริงได้ ที่นี่)
สรุป
Nexus 5 นั้นเป็นสุดยอดมือถือ Android ในตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะด้วยการทำงานระบบที่ลื่นไหลพร้อมสเป็คที่แรงในราคาที่ไม่แพงมากทำให้เป็นตัวเลือกที่ตรงใจใครหลายๆคนได้ดีทีเดียว แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีความจุสูงๆหรือต้องการบอดี้เครื่องแบบโลหะเพราะ Nexus 5 นั้นมีบอดี้ที่ทำจากพลาสติก แต่ด้วยการซัพพอร์ทจาก Google และได้รับการอัพเดทเป็น Android เวอร์ชั่นล่าสุดก่อนใครนั้นก็เป็นเหตุผลใหญ่ที่ใครหลายคนน่าจะหันมาหา Nexus 5 ได้ไม่ยาก แต่เสียอย่างเดียวที่เสียงของลำโพงและการฟังเพลงจาก Nexus 5 นั้นไม่ได้ให้อรรถรสเท่าที่ควรเพราะเสียงแห้งเหลือเกิน แต่โดยรวมแล้วถือว่า Nexus 5 นั้นคุ้มค่ากับค่าตัวของมันเองแน่นอนครับ
ข้อดี
- สเป็คแรงในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
- เร็วมาก
- กล้องดีที่สุดใน Nexus ทุกรุ่น
- หน้าจอสว่างสู้แสงได้ดี มองเห็นได้สบายแม้แดดจัด
- ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด อัพเดทก่อนใคร
ข้อเสีย
- เพิ่ม microSD ไม่ได้
- แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนไม่ได้
- ลำโพงเสียงเบา
- เสียงที่ฟังจากหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ให้ความรู้สึกแห้งๆ ไม่ค่อยมีมิติเสียงเท่าที่ควร
กด Like เพจเพื่อติดตามข่าวสาร