Lenovo Tab 2 A7-30 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากเลอโนโว ต่อยอดจาก Lenovo Tab A7-30 ตัวแรก (เชื่อมเหมือนกัน เติมแค่เลข 2) เจาะกลุ่มตลาดล่าง เน้นผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่มองหาแท็บเล็ตจอ 7 นิ้ว ใส่ซิมได้ โทรเข้าโทรออกได้ (รองรับ 2G) รองรับการเชื่อมต่อทั้ง 3G, Wi-Fi ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือขนาดที่บาง พกพาง่าย ไม่หนักจนเกินไป
Lenovo Tab 2 A7-30 วางขายอยู่ที่ราคา 3,790 บาท (ถูกกว่าตัวแรก) และยังมี Lenovo Tab 2 A7-10 คู่แฝดรุ่น Wi-Fi Only สนใจสามารถซื้อได้ตามร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไปครับ
ข้อมูลสเปก Lenovo Tab 2 A7-30
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 600 x 1024 พิกเซล
- ซีพียู Mediatek MT8382M Quad-core 1.3 GHz Cortex-A7
- ชิปกราฟฟิก Mali-400MP4
- แรม 1 GB
- หน่วยความจำ 16 GB เพิ่ม microSD สูงสุด 32GB
- แบตเตอรี่ 3450 mAh
- กล้องหน้า VGA
- กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล
- ระบบเสียง Dolby audio
- รัน Android 4.4.2 (KitKat)
- รองรับ 2 ซิม โทรได้
- ตัวเครื่องขนาด 191 x 105 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก 269 กรัม
Lenovo Tab 2 A7-30 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 600 x 1024 พิกเซล ความละเอียดต่อพิกเซล 170 ppi แสดงผลได้ 16 ล้านสี หน้าจอแสดงผลคิดเป็น 68.8% ของตัวเครื่อง รองรับ Multi-Touch 5 จุด ตัวเครื่องยังพอถือมือเดียวได้ แต่ใช้งานมือถืออันนี้คงลำบาก เว้นแต่วางไว้กับพื้น
ในการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ IPS จากเดิมที่เป็น TFT ทำให้การแสดงผลทำได้ดีขึ้น สีสันดูสวยงามน่าใช้ยิ่งขึ้น ในแง่การใช้งานจะเห็นว่าแตกต่างกันชัดเจนมาก โดยเฉพาะเวลาเล่นเกมส์ หรือดูหนัง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจกับแท็บเล็ตราคานี้ อีกทั้งขอบหน้าจอยังทำให้บางลงทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่จนเกินไป จึงทำให้กลายเป็นแท็บเล็ต 7 นิ้วที่สามารถถือมือเดียวได้ (ตัวเดิมขอบด้นข้างหนามาก)
รุ่นนี้มีกล้องหน้าด้วย ให้มาที่ความละเอียด VGA หรือ 3 แสนพิกเซล มีโหมดหน้าเนียนมาให้ด้วย ส่วนปุ่มควบคุมเป็นแบบสัมผัสรวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล มีทั้งหมด 4 ปุ่ม
Lenovo Tab 2 A7-30 มาพร้อมกับความหนาที่ 8.9 มิลลิเมตร เป็นความหนาพอๆ กับมือถือเลยทีเดียว ทำให้ตัวเครื่องพกพาง่าย หยิบจับถนัดมือ ถ้าเทียบกับตัวเดิมถือว่าฟิวลิ่งแตกต่างกันมาก น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 269 กรัม
ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง
ดีไซน์ของตัวแท็บเล็ตจะเหมือนกับแท็บเล็ตของเลอโนโวรุ่นที่ผ่านๆมา เรียบๆ เน้นโทนสีดำด้าน ถ้ามองผ่านก็แยกไม่ออกว่าคือรุ่นอะไร ขอบของตัวเครื่องมีลักษณะโค้งมนทำให้จับถนัดมือ และดูสวยงาม วัสดุทั้งหมดเป็นพลาสติก งานประกอบถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่รู้สึกว่าก๊อกแก๊ก ดูแข็งแรงทนทาน
รุ่นนี้สามารถใส่ซิม micro SIM เพื่อใช้งาน 2G, 3G ได้ โดยรองรับ 3G คลื่น 850/2100 MHz สามารถโทรเข้าโทรออก รับข้อความได้เหมือนมือถือปกติ สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นโทร สามารถยกแนบหูได้เลย ไม่ต้องใส่หูฟัง หรือเปิดลำโพง นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32GB
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีรูไมโครโฟนใช้สำหรับสนทนา
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่องต่อ micro USB 2.0 อบรับการเชื่อมต่อแบบ MTP (Media Transfer Protocol) เวลาจะต่อมือถือกับเครื่องคอมเพื่อโอนย้ายไฟล์ ก็สามารถทำได้ง่าย อย่างไรก็ตามรุ่นนี้ยังมีฟักง์ชั่นเปิด USB Storage อยู่ และสามารถเลือกเป็น MTP ได้จากเมนูตั้งค่า
ฝาหลังเป็นผิวด้าน เกิดคราบยาก เกิดรอยขนแมวยาก ตัวกล้องหลังให้มา 2 ล้านพิกเซล ขนาดของภาพอยู่ที่ 1600 x 1200 พิกเซล ไม่มีแฟลช แบตเตอรี่ให้มา Li-Ion 3450 mAh เปิดสแตนบายได้ 432 ชั่วโมง โทรได้ 8 ชั่วโมง นอกจากนั้นรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบเสียง Dolby audio
เปรียบเทียบ Lenovo Tab 2 A7-30 กับ Lenovo Tab 2 A7-10 หน้าตาเหมือนกันแยกไม่ออก เพราะเป็นพี่น้องกัน สำหรับรุ่น Lenovo Tab 2 A7-10 เป็นรุ่น Wi-Fi ใส่ซิมไม่ได้ โทรไม่ได้
ความแตกต่างอีกอย่างละหว่าง Lenovo Tab 2 A7-30 กับ Lenovo Tab 2 A7-10 คือตัว Lenovo Tab 2 A7-10 จะไม่มีกล้องหลัง แต่ใส่ซิมไม่ได้ ตัวเครื่องหนากว่านิดหน่อย
ด้านซอฟท์แวร์ Lenovo Tab 2 A7-30 มาพร้อมกับ Android 4.4.2 (KitKat) และเลอโนโวมีแผนจะปล่อยอัพเดทให้รุ่นนี้เป็น Android 5.0 (Lollipop) ในอนาคต (ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่) อินเตอร์เฟสของเลอโนโลเอง เพียงแต่หน้าตอดันเหมือนเป็นเพียวแอนดรอยด์ซะงั้น หน้าตาธรรมๆ เทียบกับแท็บเล็ตที่ผู้ผลิตพัฒนาอินเตอร์เฟสสวยๆ มาครอบอีกทีคงยาก แต่เราสามารถดาวน์โหลด launcher จาก Play Store มาติดตั้งได้
ในแง่การตอบสนองถือว่าทำได้ดีเกินคาด ตอนแรกผมคิดว่าต้องมีกระตุก มีค้างบ้าง แต่จากที่ทดลองใช้งานมา ปรากฎว่าไม่มีอาการค้างให่เห็นเลย แต่กระตุกบ้างเวลาใช้งานแอพหนักๆ แต่โดยรวมใช้งานลื่นไหลดี เปิดแอพ ปิดแอพเร็วทันที ตัวเครื่องรองรับการอ่านและพิมพ์ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ
ฟังก์ชั่นการโทรใช้งานมือถือทั่วไปเลย เพียงแต่ในแท็บเล็ตรุ่นนี้จะไม่แยกแอพโทรกับแอพข้อความออกจากกัน จะรวมอยู่ในแอพเดียวเลย นอกจากนั้นยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering)
ปัจจุบันแท็บเล็ตราคา 3 พันบาทมีสเปกที่สูงขึ้นจากเดิมมาก ด้วยราคาของอุปกรณ์ไอทีต่างๆ มีความต้องการสูงขึ้น ทำให้ผลิตเยอะขึ้น ราคาก็ถูกลงด้วย Lenovo Tab 2 A7-10 เป็นอีกรุ่นสินค้าที่ได้รับอานิสงส์นี่ด้วย โดยมาพร้อมกับชิป Mediatek MT8382M Quad-core 1.3 GHz Cortex-A7 ชิปกราฟฟิกระดับกลาง Mali-400MP2 และแรมขนาด 1GB ทำให้ประสิทธิที่ออกมาค่อนข้างลงตัว ใช้งานได้ลากหลายยิ่งขึ้น
ด้านสเปกของ Lenovo Tab 2 A7-10 เหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ เพียงแต่ว่าเกมส์อาจจะเล่นเกมส์ที่กราฟฟิกโหดๆลำบาก อาจจะมีกรัตุกบ้าง อีกทั้งถ้าเป็นเกมส์ที่มีความจุเยอะๆ อาจจะทำให้เนื้อที่ไม่เพียงพอ แต่ถ้าเล่นเกมส์ทั่วไป เล่นได้สบายแน่นอน จากที่ลงเล่นหลายเกมส์ (เกมธรรมดาทั่วไปที่ไม่กินสเปกเครื่อง) ก็ตอบสนองได้ดี ใช้งานได้ลื่นไหล จอสวย
การเป็นคนชอบท่องเว็บไซต์เล่น Social Network หรือให้ลูกใช้งานแท็บเล็ตตัวนี้ตอบสนองได้ครบ มีแอพพลิเคชั่น Youtube, Facebook, เว็บบราวเซอร์ และยังติดตั้งแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อาทิ Line, Instagram รวมถึงแอพถ่ายรูปต่างๆ นานาได้ด้วยตัวเอง