ย้อนหลังกลับไปสัก 6 เดือนก่อน เวลานั้นทั่วโลกกำลังผลัดเปลี่ยนจากคริสศักราช 2013 เป็นศักราชใหม่ 2014 ผมมีโอกาสได้เห็นเพื่อนๆ หลายคนเขียนพรรณาถึงสิ่งที่อยากจะลงมือทำในปีใหม่ที่จะมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สิ่งที่ผมเรียกมันว่า ‘พรรณา’ มีชื่อหรูๆ ในภาษาประกิดว่า New Year’s Resolution เท่าที่สังเกตมาส่วนใหญ่แล้วประเด็นในการพรรณาไม่ต่างกันเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะเป็นตั้งเป้าออกกำลังกาย การเดินทางผจญภัยในโลกกว้าง หรือเป้าหมายต่างๆ อ่านหนังสือให้มากขึ้น ก็ประมาณนี้
ในความคิดของผม ถ้าจากตัวอย่างที่เห็นๆ มา ‘การออกกำลังกาย’ น่าจะเป็นเรื่องลำบากที่สุดเรื่องหนึ่งของเพื่อนๆ ผมที่เขียน New Year’s Resolution
แล้วในความเป็นจริง การเดินทางของกาลเวลาจากปีใหม่ สู่กลางปี 2014 คุณได้เริ่มพรรณาแล้วหรือยัง ?
ถ้าคุณยังไม่ได้เริ่มทำ ผมมีแอปพลิเคชันดีๆ ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นในการเริ่มต้นสู่ก้าวแรกของการออกกำลังกาย
Nike Training และ Nike+
แอปพลิเคชันนี้ถือเป็นแอปพลิเคชันสารบัญประจำบ้านของผมเลยครับ เป็นแอปที่ใช้งานมาอย่างยาวนาน จริงๆ แล้ว Nike+ ก็ไม่ได้จัดว่าเป็นแอปที่ ‘Perfect’ อะไรขนาดนั้นหรอกครับ เพราะตัวความสามารถค่อนข้างจำกัด ทำได้เฉพาะแค่เรื่องการวิ่ง คำนวณแคลอรี่ที่ใช้ไป
แต่ถ้าอยากจะใช้งานแอปของไนกี้ที่เป็นแอปสำหรับออกกำลังกายเพียวๆ เลย คงต้องแนะนำเป็น Nike Training
ตัวนี้ผมชอบมากครับ เพราะจะมีการแบ่งประเภทของการออกกำลังกายที่เราต้องการ เช่น แบบเพื่อลีนไขมัน หรือต้องการสร้างกล้ามอันนี้ก็ทำได้ ที่ผมว่าเจ๋งที่สุดของ Nike Training อยู่ตรงที่มีวิดีโอกับภาพนิ่งสอนการออกกำลังกายแต่ละท่าด้วย พร้อมกับตารางในการออกกำลังกาย
เพียงแต่ว่า แอปนี้อาจจะโหดไปสำหรับมือใหม่ออกกำลังกาย เพราะมันค่อนข้าง Intensive พอสมควรครับ
miCoach
ไหนๆ ก็มีไนกี้แล้ว เห็นทีจะไม่มีอาดิดาสคงไม่ได้ สำหรับแอปที่จะแนะนำสำหรับแฟนคลับ 3 ขีดนี้ มีชื่อว่า miCoach
หลายคนอาจจะสงสัยว่า มันอ่านว่าอะไร ตามนี้นะครับ miCoach = my Coach นั่นแหละครับ
การใช้งานเหมือนตามชื่อเลย เราจะมี Personal Coach ในการให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกาย ฟีเจอร์ที่ผมใช้ประจำก็จะเป็น GPS, วัดการเผาผลาญแคลอรี, ความเร็วในการออกวิ่งแต่ละครั้ง การออกท่าทางการออกกำลังกาย
แต่ที่น่าสนใจของแอปนี้อยู่ตรงที่ว่า มันจะมีกราฟออกกำลังกายมาให้ ซึ่งเราสามารถนำกราฟนี้มาวิเคราะห์ผลได้
เอาเข้าจริงๆ ผมว่าข้อเสียของแอป miCoach อยู่ตรงที่อินเตอร์เฟสค่อนข้างยุ่งยาก ใช้งานไม่สะดวกสักเท่าไหร่ แต่อันนี้เป็นแค่ความเห็นผมนะครับ
Endomondo
แอปนี้มิตรสหายท่านหนึ่งของผมแนะนำให้ใช้ โดยมิตรสหายท่านเดิมบอกว่า ตัวนี้มันมีลูกเล่นมากกว่า
พอดาวน์โหลดใช้งานจริงๆ มันมีลูกเล่นเยอะอย่างที่มิตรสหายผมบอกไว้จริงๆ สิ่งที่ต้องยอมรับเลยว่า Endomondo สร้างมาสำหรับการออกกำลังกายโดยแท้จริง มีการรองรับการออกกำลังกายในหลายรูปแบบ วิ่ง จักรยาน พายเรือ ขี่ม้า ขนาดเล่นสกีก็ยังมีเลย
ส่วนในแง่ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ก็จะไม่ต่างจากแอปที่แนะนำไปข้างต้น ในความเข้าใจของผม ถ้าหากอยากต้องการใช้งานฟีเจอร์แบบครบครัน จะต้องเสียเงินซื้อ Endomondo ในเวอร์ชันเต็ม ก็คือแบบเสียเงินนั่นแหละครับ
ซึ่งน่าเสียดาย ผมกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่า จะซื้อหรือไม่ซื้อ ก็เลยยังไม่สามารถอธิบายได้แบบชัด เพราะที่สังเกตเวอร์ชันฟรีของ Endomondo ค่อนข้างจะกั๊กฟีเจอร์การใช้งานดีๆ ไว้ เช่นพวก Interval Training เป็นต้น
แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังรู้สึกว่า Endomondo มันน่าใช้ตรงอินเตอร์เฟสของมัน ที่ค่อนข้างดูคลีน ไม่รกหู รกตาสักเท่าไหร่
RunKeeper
ตัวสุดท้ายที่จะขอแนะนำ ตัวนี้มีชื่อว่า RunKeeper จริงๆ จะว่าไปแล้วผมใช้ตัวนี้ก่อนทุกตัวที่แนะนำมาเลย ด้วยความที่ตัวมันมีอินเตอร์เฟสจัดว่าเรียบง่ายมาก แต่ก็มีข้อเสียคือ การจับ GPS ยังทำได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ด้านการรองรับออกกำลังกายก็มีค่อนข้างเยอะ แบบเดียวกับ Endomondo แถมยังมาพร้อมกับเทรนเนอร์ที่คอยส่งเสียงให้คำแนะนำในการออกกำลังกายด้วย
ถึงตรงนี้ผมว่า ไหนๆ แล้วเราก็อยู่ในยุคที่แทบจะมีสมาร์ทโฟน หรือแก๊ดเจ็ตต่างๆ มากพอสมควร ผมว่า คงถึงเวลาอันสมควรจริงๆ ที่เราจะได้ใช้ความ ‘สมาร์ท’ ของมันมาเป็นประโยชน์จริงๆ สักที
ถ้าผู้อ่านท่านใดที่กำลังอ่านบทความอยู่ แล้วใช้แอปพลิเคชันที่นอกเหนือจากนี้ (คือบทความนี้อิงจากที่ผมเคยใช้) แนะนำมาได้นะครับว่า แอปที่คุณใช้อยู่เป็นอย่างไรบ้าง
ปล. แอปที่แนะนำมาทั้งหมดมีทั้ง iOS และ Android ครับ