Lazada

[PR] กระทรวงวิทย์ฯ สุดปลื้มคนแห่เข้าชมงานมหกรรมวิทย์ฯ

กระทรวงวิทย์ปลื้ม 8 วันยอดคนเกือบล้าน_1

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สุดปลื้มเยาวชนและประชาชนแห่ชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2559 คึกคัก ผ่านมาแค่ 7 วัน ยอดทะลุเกือบ 1 ล้านคนแล้ว คาดอีก 3 วันที่เหลือยอดเกิน 1 ล้านคนอย่างแน่นอน โดยส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมเป็นเด็ก เยาวชน และครอบครัว นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับสังคมไทย

ดร.พิเชฐ  ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัด “งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2559” (National Science & Technology Fair 2016) ขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” พร้อมทั้งผนวกรวมเอา “งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย 2559” (Techno Mart 2016) เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” พร้อมกันนี้เพื่อร่วมฉลองวาระสำคัญทางวิทยาศาสตร์ที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ได้ตั้งให้ปี 2559 เป็น “ปีสากลแห่งถั่วพัลส์” หรือ “2016 International Year of PULSES” อีกด้วย ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่แห่งปีระดับประเทศและแถบภูมิภาคเอเชีย ที่แสดงผลงานความก้าวหน้าและศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ก้าวล้ำนำสมัย ศักยภาพของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของไทย โดยการผนึกกำลังร่วมกันกับ 9 กระทรวง 18 สถาบันการศึกษา รวมมากกว่า 100 หน่วยงาน  ทั้งภาครัฐและเอกชน และยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างประเทศเข้าร่วมงานอีก 8 ประเทศ มากกว่า 10 หน่วยงานร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมการค้นคว้าใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ อาทิประเทศ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เยอรมัน เกาหลีใต้ แคนาดา ออสเตรเลีย และจีน ซึ่งผ่านมาแค่ 8 วัน มียอดผู้เข้าชมงานเกือบ 1 ล้านคนแล้ว สร้างความปลาบปลื้มให้กับคณะผู้บริหาร คณะผู้ดำเนินงาน ทีมงาน และหน่วยงานร่วมจัดทุกคนอย่างยิ่ง คาดอีก 3 วันที่เหลือนี้ จะมียอดผู้เข้าชมเกิน 1 ล้านคนอย่างแน่นอน นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับสังคมไทย โดยในปีนี้เรียกได้ว่าทุกบูธสร้างความน่าสนใจกับผู้เข้าชมทั้งที่เป็นเด็ก เยาวชน อาจารย์ ผู้ปกครอง ครอบครัว และประชาชนจริงๆ ดูได้จากที่ผู้คนล้นหลามต่อแถวเข้าคิวยาวกันแทบทุกบูธ ซึ่งที่ผ่านมา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หน่วยงานหลักในการบริหารจัดการได้ดำเนินการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างดียิ่ง สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชม หลายคนกลับมาชมซ้ำ หลายคนบอกว่ามาแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นและรู้สึกสนุกสนานกับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น

ดร.พิเชฐฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีเวลาที่เยาวชนและประชาชนจะได้มาเรียนรู้ “งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2559” กิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของประเทศนี้ได้อีกจนถึงวันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม นี้ ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมกันเปิดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างเพลิดเพลินสนุกสนานระดับภูมิภาคเอเชียนี้กันให้ได้ โดยมีไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ ที่นำเสนอ  พระอัจฉริยภาพและคุโณปการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านพระราชกรณียกิจต่างๆ มากมายของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”พบกับนิทรรศการย้อนรอยอดีตสยามประเทศไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ชมพระอัจฉริยภาพและพระราชกรณียกิจของบูรพมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงวางรากฐานวิทยาศาสตร์ไทยที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์      พลาดไม่ได้กับ Magic Vision เหตุการณ์สุริยุปราคาที่เคยเกิดขึ้นในสยามประเทศ ที่นำมาอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์การโคจรของดวงดาว นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” ชื่นชมกับพระอัจฉริยภาพด้านการประดิษฐ์ ตั้งแต่การประกอบวิทยุแร่ โมเดลเรือรุ่นต่างๆ สิ่งประดิษฐ์เพื่อปวงชน เครื่องจักรกลเติมอากาศแบบจำลอง ทรงพัฒนาคนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับโรงเรียนพระดาบสในพระราชดำริ เพื่อฝีกอาชีพแก่ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาและ ขาดแคลนทุนทรัพย์ พลาดชมไม่ได้กับเรือใบฝีพระหัตถ์ลำจริง “เรือซุปเปอร์มด AX7” และ “เรือเวคา 2” ที่ทรงออกแบบและต่อเรือใบพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง โดยในส่วนของเรือเวคา 2 พระองค์ทรงเคยนำเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ณ ประเทศไทย เมื่อเดือนธันวาคม 2510 และทรงเป็นผู้ชนะเลิศรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันคราวนั้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญเรือใบส่วนพระองค์ทั้ง 2 ลำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ยังความปลื้มปิติเป็นล้นพ้นให้แก่คณะทำงาน และถือเป็นข่าวดีสำหรับพสกนิกรชาวไทยที่จะได้มีโอกาสชื่นชมเรือใบฝีพระหัตถ์ของพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด และจุดนี้ยังถือเป็น Landmark อันเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของงาน “ประดิษฐกรรมวิวัฒน์ นครา” เริ่มต้นจากความเข้าใจ “พลวัตธรรมชาติ สู่นวัตกรรม เทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาประเทศ” ที่นำเสนอในรูปแบบ “Ball Kinetic System” อันสื่อความถึงแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการแก้ปัญหาด้วยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พระปรีชาสามารถที่ทรงสร้างสรรค์และผสานการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ก่อเกิดเป็นประดิษฐกรรมล้ำค่า ที่ช่วยปัดเป่าขจัดปัญหาและขับเคลื่อนพัฒนาประเทศได้อย่างมากมาย นอกจากนี้ ยังนำเสนอพระราชกรณียกิจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพระบรมวงศานุวงศ์อีกด้วย

กระทรวงวิทย์ปลื้ม 8 วันยอดคนเกือบล้าน_2

ส่วนใครที่มีความสนใจนิทรรศการที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศไปสู่ “Valued-Based Economy” หรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม (New Growth Engine) เพื่อให้มีการเจริญเติบโตก้าวไกลด้วยการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ หรือ New S-curve มุ่งสู่ Thailand 4.0 ต้องมาที่ นิทรรศการยานยนต์แห่งอนาคตและการขนส่ง ตื่นตาตื่นใจไปกับยานยนต์สมัยใหม่ที่มีระบบการทำงานประสิทธิภาพสูง ทั้งความปลอดภัยและกำลังส่ง ยานยนต์ที่ขนส่งผู้โดยสารจำนวนมาก เช่น ระบบราง พบกับ รถโฟมสะเทินน้ำสะเทินบก ยานยนต์สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการในอนาคต รถพลังงานแสงอาทิตย์ / นิทรรศการนวัตกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ร่วมตะลุยโลกหุ่นยนต์ที่มีหุ่นยนต์สีเขียวตัวใหญ่รูปร่างเท่ห์ ยืนต้อนรับและดึงดูดสายตาเด็กๆ ให้เข้ามาเยี่ยมชมถ่ายรูป   ชื่นชมไปกับความน่ารักของหุ่นยนต์นาโอะขวัญใจเด็กๆ ที่เสมือนเป็นเพื่อนเล่นหรือสัตว์เลี้ยงตัวน้อยแสนรักของเราได้ เรียนรู้ไปกับเทคโนโลยีการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม การประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมต่างๆ / นิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการแพทย์และสุขภาพ นำเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาและประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีวิศวกรรมในการส่งเสริมสุขภาพ การรักษาทางการแพทย์ในอนาคต Telemedicine, Neuro-marketing หุ่นยนต์จัดยาอัตโนมัติ ที่มีความรวดเร็ว ปลอดภัย ไร้กังวล การรักษาด้วยหุ่นยนต์ การแพทย์แผนไทยในยุคดิจิทัล พบกับไฮไลท์ “หุ่นยนต์ดินสอมินิ” หุ่นยนต์บริการและดูแลผู้สูงอายุ ได้ภายในงานนี้อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ยังมีนิทรรศการที่ให้ความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในสังคม และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้งในปัจจุบันและอนาคต  อาทิ นิทรรศการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก สัมผัสประสบการณ์ตื่นเต้นสนุกสนานไปกับภาพยนตร์ “The Last Day” ในรูปแบบ 4D Simulator ที่ทุกคนรอคอย…ตื่นตา ตื่นใจไปกับหิมะ ลมพายุที่โหมกระหน่ำ ที่ใช้เทคนิคจำลองสถานการณ์เสมือนจริง ท่ามกลางอุบัติภัยทางธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย 4D Effect สมจริง โดยการพาทุกคนย้อนเวลากลับไป ณ จุดกำเนิดโลก เรียนรู้เรื่องราวช่วงเวลาสำคัญที่ผ่านมาของโลกถึงยุคปัจจุบันที่มนุษย์อาจต้องสูญสิ้นทุกอย่าง เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกของเราและการช่วยกันแก้ปัญหาเพื่อการดำรงอยู่อย่างสมดุลบนโลกใบนี้ / นิทรรศการอนาคตเทคโนโลยีชีวภาพโลก รู้จักอารยธรรมการหมัก เทคโนโลยีชีวภาพที่เก่าแก่และใกล้ตัวที่สุด ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ พบกับ “ไหดินเผา” สูดกลิ่นและชมการเปลี่ยนสภาพของปลาร้า อาหารหมักไม่เคยเอ้าท์ เพลิดเพลินกับการค้นหาความรู้ใน Bio Lab ตลาดรวมสินค้า Bio Mart และสำรวจอาชีพในฝัน Bio Job  ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี / นิทรรศการ Miracle of Science : มหัศจรรย์แห่งไข่ จุดกำเนิดชีวิต…จุดกำเนิดเรา ชม “ไข่ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย” กว่า 125 ปี สัมผัสและทดสอบความแข็งแกร่งของไข่นกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเรื่องราวมหัศจรรย์อันน่าทึ่งของไข่อีกมากมายที่คุณคาดไม่ถึง / นิทรรศการเมืองแห่งถั่ว แนวคิดตามนโยบาย Food Innopolis ฉลองปีสากลแห่งถั่วพัลส์ (UNESCO International Year of Pulses) รู้จักถั่วพัลส์ชนิดต่างๆ เพลิดเพลินกับเกมส์บิงโก ร่วมสนุกกับการปลูกถั่วพัลส์ โชว์การทำอาหารจากถั่วพัลส์ ยิ่งไปกว่านั้นภายในงานยังมี / นิทรรศการและกิจกรรมสำหรับเยาวชน ได้แก่ นิทรรศการ Enjoy Makerspace จากนักประดิษฐ์สู่นวัตกรรม แนวคิดจาก New York Hall of Science ประเทศสหรัฐอเมริกา มาร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจและแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ในแนวทาง STEM Education ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และต่อยอดสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ วทน. พบกับ Maker’s Showcase กิจกรรม Kid Maker, Maker Studio ชมสาธิต 3D Printing 3D Stereoscopic Print Pen รวมทั้ง ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ลานกิจกรรมพัฒนาปัญญาเยาว์ ห้องฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ และการแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 13 ที่จะมีรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม นี้ ในเวลา 13.00 – 16.00 น. ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 6 ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีบูธของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และหน่วยงานร่วมจัดที่น่าสนใจ อาทิ ห้ามพลาดกับ “ห้องเสมือนไร้น้ำหนัก” ของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. ที่ถูกออกแบบด้วยเทคนิคพิเศษในการหลอกสายตา ทำให้ทุกคนที่เข้าไปอยู่ข้างในห้องดูเหมือนอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักเหมือนตนเองกำลังอยู่ในห้วงอวกาศจริงๆ ซึ่งเป็นห้อง Simulator ที่เลียนแบบมาจากห้องฝึกการใช้ชีวิตในอวกาศของมนุษย์อวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ นาซ่า ทำให้เราได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในสภาพไร้น้ำหนัก เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และผู้เข้าชมจำนวนมาก /  ท่องระบบสุริยะไปกับ สดร. หรือสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) อย่าพลาดสัมผัสประสบการณ์ดูดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์ของจริงที่นำมาให้เด็กๆ ได้ทดลองกันจริงๆ ในงาน ชวนน้องๆ มาทดสอบน้ำหนักผ่านชุดเครื่องชั่งน้ำหนักบนสภาวะแรงโน้มถ่วงบนดาวเคราะห์ต่างๆ แล้วเราจะได้รู้ว่า ทำไมน้ำหนักของเราบนดาวเคราะห์แต่ละดวงจึงแตกต่างกัน? / ด้าน องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หน่วยงานหลักในการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ครั้งนี้ ชวนน้องๆ หนูๆ มาร่วมค้นพบความลับที่จะทำให้คุณต้องประหลาดใจในคุณสมบัติของวัตถุที่อยู่รอบๆ ตัว และค้นพบความแปลกประหลาดของโครงสร้างระดับไมโครที่ทำให้มันสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง กับ Strange Matter นิทรรศการวัสดุสุดประหลาด” จากศูนย์วิทยาศาสตร์ออนตาริโอ ประเทศแคนาดา พร้อมตื่นตาตื่นใจกับการค้นพบแมลงชนิดใหม่ของโลกที่ได้รับพระราชทานชื่อจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ มดทหารเทพา ตั๊กแตนคูหารัตน์ และ ผีเสื้อรัตติสิริน / นอกจากนี้ยังมีงานเทคโนมาร์ท และ OTOP ระดับ 5 ดาว สำหรับ   คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกซื้อ หรือผู้ประกอบการได้ชม เพื่อสร้างโอกาสการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้านเครื่องจักร สิ่งประดิษฐ์เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมจัดฝึกอบรมและสาธิตถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างอาชีพอีกด้วย รวมทั้งยังมีนิทรรศการและกิจกรรมอื่นๆ จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อีกมากมายที่จะมาร่วมกันสร้างความตระหนักทางวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชน ดร.พิเชฐฯ กล่าว

ส่วนหน่วยงานร่วมจัดในปีนี้ได้รับความร่วมมือถึง 9 กระทรวง และอีก 8 ประเทศ รวมกว่า 100 หน่วยงาน  ทั้งภาครัฐและเอกชนในการเข้ามาร่วมเนรมิตงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในครั้งนี้ ซึ่งจริงๆ ทุกบูธมีความน่าสนใจด้วยกันทั้งสิ้น แต่จะยกตัวอย่าง อาทิ บูธประเทศเยอรมนี นำเสนอภายใต้ Theme “Land of Innovation” จัดแสดง Simulator แสดงศักยภาพระบบดิสก์เบรกในยนตกรรมระดับหรูอย่าง ESC ของ Bosch ดีกว่าระบบเบรกแบบ ABS ทั่วไปอย่างไร / ด้าน British Council ผู้แทนแห่งสหราชอาณาจักร จัดแสดงผลงานภายใต้ Theme “Building The Next Generation of Scientists” ร่วมสร้างนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ไปกับโครงการทุนนิวตัน และร่วมพูดคุยกับทูตสะเต็ม (STEM Ambassador) ตัวจริงเสียงจริงที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพสะเต็มที่น่าสนใจ ช่วยจุดประกายเส้นทางสู่อาชีพและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทย / ส่วน กระทรวงกลาโหม ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ มาแนะนำให้เด็กๆ ได้รู้จัก และทดลองจับต้องได้ พลาดไม่ได้กับ “นวัตกรรมเนื้อเทียมตกแต่งบาดแผลสมมติ” ของโรงเรียน     เสนารักษ์ กรมแพทย์ทหารบก ที่ให้เด็กๆ ได้ทดลองตกแต่งแผลบนใบหน้า ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ กันมาก / TK Park หรือ อุทยานการเรียนรู้ มีกิจกรรมหลากหลาย ที่มาใน Theme “สวนสนุกแห่งการเรียนรู้” ที่จะให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรม Walk Rally เล่นเกมส์สะสมแต้มลุ้นรับของรางวัลไปตามโซนต่างๆ อาทิ โซนสำนักข่าว TK ให้น้องๆ ได้ร่วมสนุกทดลองเป็นผู้ประกาศข่าว, โซนห้องสมุดในดวงใจ, สนุกท้าทายไปกับโซนเตะวัดพลัง, ห้องกุ๊ก กุ๊ก กู๋ VR ให้เด็กๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ, Play & Learning Park เวทีเล็กๆ ที่ให้เด็กๆ ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาแสดงความสามารถ เรียกเสียงปรบมือ รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะจากผู้เข้าชม / ส่วน สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. เป็นอีกหนึ่งบูธที่เด็กๆ ให้ความสนใจกันมาก เนื่องจากตกแต่งบูธด้วยสีสันสดใสแสนหวานน่ารัก ที่มาใน Concept คือ หวานซ่อนโรค ที่จะมาบอกเด็กๆ ถึงความลับของความหวานที่ซ่อนอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มรอบตัวเราที่แฝงภัยร้ายอันตรายต่อสุขภาพของเราอยู่ แล้วเราจะเลือกกินอย่างไร? และจะจัดการกับมันอย่างไร? อย่าพลาดตามไปค้นหาคำตอบกันให้ได้

ดร.พิเชฐฯ กล่าวปิดท้ายว่า ที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ที่มาร่วมจัดอีกมากมาย จึงอยากจะขอเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทุกท่านอย่าพลาดชมในอีก 3 วันที่เหลือของงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2559 และงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย 2559 ตั้งแต่วันนี้ – 28 สิงหาคม นี้เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ถ้าพลาดชมแล้วต้องรออีกทีถึงปีหน้า ร่วมสนุกและเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ทุกคนสามารถเข้าชมได้อย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมและร่วมกิจกรรม

สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อได้ที่ โทร 0 2577-9960 เวลาที่เหมาะสำหรับการเข้าชมสำหรับประชาชนทั่วไป วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น. ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ Facebook : มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ  LINE ID: thailandnstfair  หรือ Instagram : ThailandNSTFair