Lazada

iPad Pro 9.7: แท็บเล็ตที่ขนาดพอเหมาะพอเจาะที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า iPad เป็นแท็บเล็ตที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่สุดในการใช้งานของคนยุคนี้ ซึ่งหากลงลึกกว่านั้น ในขนาด 9.7 นิ้ว คือ ขนาดที่พอเหมาะพอที่สุดในซีรีส์ของ iPad

ด้วยความที่ตลาดแท็บเล็ตกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน แท็บเล็ตแบบเดิมๆ ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เพียงพอ เนื่องด้วยขนาดหน้าจอของสมาร์ทโฟนที่ใหญ่กระชั้นชิดมากขึ้นเป็นลำดับ นั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจมากนัก ที่เราจะได้เห็น iPad Pro ขนาดใหญ่ 12.9 นิ้ว

ตัวเลข 12.9 นิ้วของ iPad Pro รุ่นปฐมฤกษ์ที่เปิดตัวในปี 2015 แม้จะดูใช้งานได้ดี แต่ถ้าถามถึงความเทอะทะ ความยากต่อการพกพาใช่หรือไม่? คำตอบคือ ใช่!

ฉะนั้น iPad Pro 9.7 นิ้วรุ่นใหม่ล่าสุดอาจเป็นคำตอบที่ดี หากกำลังมองหาแท็บเล็ตที่ดีที่สุด

ความน่าสนใจของ iPad Pro 9.7 นิ้ว

คงต้องบอกว่า iPad Pro 9.7 นิ้ว คือส่วนต่อที่ถูกลดทอนลงมาจากรุ่น 12.9 นิ้ว เพราะจากที่ได้ลองใช้งานแท็บเล็ตในแทบทุกขนาด iPad ปกติที่มีขนาด 9.7 นิ้ว มันเหมาะต่อการใช้งานอย่างมาก รองลงมานั่นคือ iPad mini ที่มีขนาด 7.9 นิ้ว เพียงแต่ว่า สิ่งที่มันขาดหายไปจากการใช้งานแท็บเล็ต นั่นคือ อุปกรณ์อะไรสักอย่างที่จะเขียนบนหน้าจอ

Apple Pencil

มันคือ Stylus !

ต่อให้ Steve Jobs จะเคยพูดเอาไว้ว่า Stylus ที่ดีที่สุด คือ นิ้วมือของเรา โอเค! มันอาจถูกต้องในห้วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อกาลเวลาไม่เคยหยุด สิ่งใหม่เข้ามาแทนที่สิ่งเก่า ตลาดแท็บเล็ตมันเหมือนเดิมอีกต่อไป แท็บเล็ตจะอยู่รอดได้ด้วยการปรับตัวไปหาสิ่งใหม่ นั่นคือ การนำพาตัวเองไปสู่ตลาดใหม่ๆ ไปยังจุดที่สมาร์ทโฟนขนาดยักษ์ทำไม่ได้ นั่นคือ การทำตัวเองให้ใกล้เคียงสู่การเป็น PC

iPad Pro 9.7 นิ้ว ได้รับการสืบทอดเจตนารมย์จาก iPad Pro 12.9 นิ้ว ทุกระเบียดนิ้ว ตั้งแต่ชิปประมวลผล A9X ที่เป็นชิปประมวลผลที่แรงที่สุดในขณะนี้ ร่วมด้วยอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยให้แท็บเล็ตแตกต่างจากสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ เช่น Smart Keyboard และสไตลัสที่มีชื่อว่า Apple Pencil

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ true tone ที่จะช่วยปรับสีของหน้าจอให้เหมาะกับสภาพที่ๆ ใช้งานในเวลานั้น เพื่อให้การใช้งานสบายตาขึ้น

ขณะเดียว iPad Pro 9.7 นิ้ว ยังได้ทำในสิ่งที่ง่ายและดีกว่า iPad Pro 12.9 นิ้ว โดยเฉพาะ ตั้งแต่ขนาดที่เบาลง พกพาง่ายขึ้น ความละเอียดของกล้องที่ดีกว่าที่ 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้าที่ 5 ล้านพิกเซล นอกนั้นแล้วก็ใช้งานได้ไม่ต่างจาก iPad Pro 12.9 ตั้งแต่การรองรับถ่ายวิดีโอ 4K ลำโพง 4 ตัว พร้อมกันนี้ iPad Pro 9.7 ยังเป็นครั้งแรกที่มีรุ่นความจุ 256GB

Smart Keyboard และ Apple Pencil 

Smart Keyboard

การเข้ามาของ Smart Keyboard เป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมันทำให้ความจำเป็นในการพกพาโน้ตบุ๊กลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะถ้าใครที่ทำงานประเภทเขียน เขียนบล็อก เขียนนิยาย เขียนบท ต้องบอกเลยว่า Smart Keyboard เป็นสิ่งที่ดีเอามากๆ เพราะด้วยขนาด 437 กรัมของ iPad Pro 9.7 นิ้ว  จึงทำให้เป็นเรื่องง่ายในการพกพา เพียงแต่ว่า ถ้าเทียบกับ iPad Pro 12.9 แล้ว รุ่นตัวใหญ่จะได้เปรียบในแง่ช่องว่างของปุ่มแต่ละปุ่ม ซึ่งกว่าจะใช้เวลาในการคุ้นชินก็สักพักนึงเลยทีเดียว อีกทั้งการใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard แทบไม่เหมาะกับการวางไว้บนตัก ถ้าเทียบกับโน้ตบุ๊กครับ ฉะนั้นต้องวางบนพื้นระนาบเท่านั้น

ในขณะเดียวกันด้วยความที่ระบบปฏิบัติการ iOS 9 เป็นระบบปฏิบัติการที่รองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้แล้ว จึงทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น คือจะทำงานไป แล้วเปิดหน้าจออีกด้านหนึ่งเล็กๆ เป็นแอปจำพวกอีเมลก็พอไหว

Apple Pencil

ขณะเดียวกัน Apple Pencil ก็คือ Stylus ที่ใครหลายคน รวมถึงผมที่ถวิลหา เพราะมันทำให้การใช้งานบางประเภทที่จำเป็นจะต้องใช้วัสดุบางอย่าง ที่ไม่ใช่นิ้วในการวาด ในการบันทึก เช่น การวาด-ร่างภาพ แรเงา ที่ลำพังแค่นิ้วมือทำไม่ได้แน่ๆ แต่การเข้ามาของ Apple Pencil ทำให้สิ่งที่นิ้วทำไม่ได้ แต่ Pencil ทำได้ และช่วยชีวิตในการใช้งานง่ายขึ้น

อย่างไรก็ดีความน่าเกลียดที่สุดของ Apple Pencil จะเกิดขึ้นทันทีที่เอาไปเสียบกับ Lightning Port ซึ่งสิ่งนี้แย่พอๆ กับ Battery Case ของ iPhone เลยทีเดียว

ทั้งนี้ก็ต้องบอกไว้นะครับว่า Smart Keyboard และ Apple Pencl ไม่ได้เป็นสิ่งที่มาคู่กับ iPad Pro 9.7 นิ้ว หากแต่เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อแยกออกมาต่างหาก อีกทั้งยังมีราคาค่างวดที่ค่อนข้างสูง

ในความเห็นส่วนตัว

หลังจากที่ลองใช้ iPad Pro 9.7 ส่วนตัวคิดว่า มันสามารถแทนการใช้งานโน้ตบุ๊กได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะงานความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานเขียน และการวาด ออกแบบ

แต่ว่ามันสามารถทดแทนได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะด้วยข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการ หรือการสนับสนุนของแอปพลิเคชันที่จะทำให้เหนือกว่า PC แบบจั๋งหนับ เช่น การตัดต่อวิดีโอ หรือแบบที่ทำรายการ ผลิตภาพยนตร์เป็นเรื่องเป็นราว iPad Pro 9.7 ยังทำไม่ได้ขนาดนั้น อีกทั้งยังมีเรื่องของราคาค่างวดที่สูงเอาเรื่องถ้าต้องการที่จะใช้งานแบบ Full Option

ทว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้ผลิตแท็บเล็ตจะต้องหันมาเน้นแท็บเล็ตแบบเดียวกับที่ iPad Pro กำลังทำ ที่น่าจับตามองก็คือ แท็บเล็ตของฝั่ง Microsoft ที่เป็น Windows 10

โปรโมชันพิเศษ

Price-and-PKG

นอกเหนือจากการใช้งานด้วย Smart keyboard และ Apple Pencil อีกอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องมีนั่นคือ แพกเกจอินเทอร์เน็ต เมื่อซื้อ iPad Pro 9.7 นิ้วผ่านเครือข่ายทรูมูฟ เอช ที่จะมีส่วนลดสูงสุด 5,000 บาท พร้อมเน็ตสูงสุด 40GB

Bank

รวมทั้งการผ่อนชิลๆ 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรซิตี้แบงก์, กสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์, กรุงศรีอยุธยา และธนาคารที่ร่วมรายการ

Apple Care บริการหลังการขายที่ทรูมูฟ เอช เป็นรายแรก

Apple Care

นอกจากโปรโมชันแล้ว ทรูมูฟ เอช ยังเป็นผู้ให้บริการรายแรกของโอเปอเรเตอร์ในไทย ที่มาพร้อมกับบริการ Apple Care ที่จะคอยอำนวยความสะดวกหลังการขายที่ได้รับการรับรอง การสนับสนุนโดยตรงจาก Apple ไม่ว่าจะเป็นการขยายระยะเวลาประกันจากเดิม 1 ปีเป็น 2 ปี รวมถึงการคุ้มครองการซ่อมแซม เปลี่ยนชิ้นส่วนไม่ว่าจะเป็นตัว iPad Pro 9.7 นิ้ว แบตเตอรี และอุปกรณ์ที่มาพร้อมจากในกล่อง จากช่างเทคนิคที่ได้รับการอนุญาตจาก Apple

พร้อมกันนี้เมื่อซื้อ iPad Pro 9.7 จากทรูมูฟ เอช พนักงานทรูจะลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ Apple Care ให้ทันที โดยเข้าไปตรวจสอบการคุ้มครองและการรับประกัน iPad Pro 9.7 ได้ที่ http://selfsolve.apple.com