ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้สัมผัสกับซีรีส์จากอเมริกาที่เพิ่งนำมาฉาย “ถูกลิขสิทธิ์” ในเมืองไทยในชื่อเรื่อง Mr. Robot ผ่านแอปพลิเคชัน iflix ที่ผมเป็นสมาชิก
ที่จริงซีรีส์เรื่องนี้ ฉายในช่อง USA Network ในสหรัฐอเมริกา เริ่มฉายตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมาครับ โดยหนึ่งซีซันจะมี 10 ตอนด้วยกัน แทบจะทันทีที่เรื่องนี้เข้าฉาย เสียงตอบรับอยู่ในระดับดีเยี่ยม เพราะเรื่องนี้มีการวาง “ธีม” ของเรื่องชัดเจนเอามากๆ ว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ว่าแท้ที่จริงแล้วความไม่ปลอดภัยมันไม่ไกลจากที่จะเอื้อมเลย
งานนี้ต้องคาราวะ Sam Esmail ซึ่งเป็นครีเอเตอร์ของเรื่องนี้ ที่สามารถหลอมรวมเอาเรื่องเทคโนโลยีสุด “กี๊ก” ปั่นให้สนุกในลักษณะที่ซีรีส์ดังๆ ควรจะมี เช่น การลำดับเรื่องให้ดูมีความน่าสนใจ การทิ้งปมของตัวละครให้ผู้ชมต้องติดตามต่อในทุกๆ ตอน พร้อมกันนี้ไดอะล็อกที่ตัวละครพูดออกมาในทุกๆ ประโยคก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะในทุกประโยคคำพูดมีการกระทบกระเทียบตั้งแต่สังคมอเมริกันชน การวิพากษ์ถึงทุนนิยม การสร้างช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย การพูดถึงบริษัทไฮเทคต่างๆ ที่อาศัยในซิลิคอนวัลเลย์ การเปิดปากวิพากษ์ถึงความเป็น “ไอดอล” ของหลายๆ คน ตั้งแต่ สตีฟ จ็อบส์ ไล่ไปจนถึงมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ไปจนถึงการต่อสู้ทางความคิด อุดมการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งนามธรรมมากๆ แถมท้ายด้วยในตอนจบของแต่ละตอนมักจะมี “เซอร์ไพร์ส” บางอย่างให้ผู้ชมอย่างเราต้องดิ้นทุรนทุราย ขวนขวายหาเวลาดูตอนต่อไปโดยเร็วที่สุด
ในเรื่อง “ธีม” ของซีรีส์ชุดนี้ ยังมีความน่าสนใจอีกบางประการ เพราะหลายครั้งในโลกภาพยนตร์มีการนำเสนอ “อะไรก็ได้ที่ดูล้ำๆ” แต่มักจะลงท้ายในด้วยความมึนงงของทั้งกลุ่มคนดูและผู้เชี่ยวชาญว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์บางทีมันก็ยากที่จะเกิดขึ้นจริง ซึ่งเรื่องนี้ ตรงกันข้ามกับ Mr. Robot เพราะสิ่งที่ Mr. Robot นำเสนอขึ้นมา ล้วนเป็นสิ่งที่ทำได้จริง แฮกได้จริง ไม่ได้โอ้อวดเกินความเป็นจริง
นั่นจึงทำให้ซีรีส์ Mr. Robot เป็นซีรีส์ที่ใกล้เคียงและสัมผัสใกล้ในโลกแห่งความเป็นจริงได้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง
ในส่วนนักแสดงหลายคนอาจไม่เป็นที่รู้จักในไทยมากนัก จะมีเฉพาะนักแสดงนำ นั่นคือ Rami Malek ที่เคยฝากผลงานไว้ใน Night at the Museum ในบทกษัตริย์อิยิปต์ Ahkmenrah มีบทในเรื่องแวมไพร์ Twilight Breaking Down Part 2 หรือถ้าใครได้มีโอกาสเล่นเกม Until Dawn ก็อาจคุ้นๆ อยู่บ้าง เพราะเขาคนนี้รับบทและลงเสียงตัวละคร Joshua ในเกมนั่นเองครับ
Mr. Robot เขาจะรับบทเป็น Elliot Alderson เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ แต่วันหนึ่งระบบภายในบริษัทต้นสังกัดเขาถูกโจมตีอย่างหนักจากกลุ่ม FSociety ซึ่งกลุ่ม FSociety นี้เองได้หมายตา Elliot ไว้ ในการดึงเขามาร่วมทีม ภายใต้เป้าประสงค์ในการ Set Zero สังคมเสียใหม่ ทำลายรากของทุนนิยม และมีเป้าหมายกวาดล้างผู้มีอิทธิพลส่วนน้อยแต่ทรงประสิทธิภาพในสังคม ส่วนเนื้อหาที่เหลือเป็นอย่างไรนั้น ต้องตามต่อกันเองในซีรีส์ชุดนนี้ครับ
สำหรับซีซันที่สองของ Mr. Robot ยังไม่มีประกาศที่แน่นอนออกมา แต่คิดว่าน่าจะลงตามช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ก็คือ ราวเดือนพฤษภาคม หรือเดือนมิถุนายน 2016 ครับ