รีวิว i-mobile IQ Big 2

ก่อนหน้านี้ทีมงานได้รีวิว i-mobile IQ Big ไปให้ชม ล่าสุดทางไอโมบายได้เปิดตัวรุ่นต่อยอดออกมาแล้ว โดยใช้ชื่อว่า i-mobile IQ Big 2 เป็นรุ่นที่สองแต่ทว่าสเปกต่ำกว่าตัวแรกเล็กน้อย ราคาก็ต่ำกว่าราวๆ 1,000 บาท IQ Big 2 ปรับแต่งทั้งดีไซน์และสเปก ให้หน้าจอที่ขนาดใหญ่ขึ้น 0.5 นิ้ว และจุดเด่นเรื่องความจุแบตเตอรี่จากเดิมที่ให้มา 5,000 mAh ก็ลดเหลือ 4,000 mAH ทำให้ตัวเครื่องบางลงจากเดิมมา

i-mobile IQ Big 2 ใช้ซีพียู ซีพียู Quad-Core 1.2 GHz จัดแรมให้แรมมา 2GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล IQ Big 2 วางขายอยู่ที่ราคา 4,990 บาท

ข้อมูล i-mobile IQ Big 2

หน้าจอ : IPS LCD 5.5 นิ้ว, HD (1280 x 720 พิกเซล) 16:9
ซีพียู : MediaTek MTK6582M Quad-Core 1.2 GHz
แรม : 2GB
ชิปกราฟจอ Mali-400MP2 (500MHz)
ระบบปฏิบัติการ : Android 5.0 Lollipop
กล้อง : หน้า 5 ล้านพิกเซล / หลัง 12 ล้านพิกเซล
หน่วยความจำภายใน : 16GB เพิ่ม microSD สูงสุด 32GB
แบตเตอรี่ : Li-Polymer 4000 mAh
รองรับ 2 ซิม รองรับ 3G คลื่น 850/2100 MHz
ตัวเครื่องขนาด 150.5 x 76.5 x 8 มม.
น้ำหนัก 156 กรัม
รองรับทีวีดิจิตอลผ่าน DVB-T2

[section label=”Survey”]

ตัวหน้าจอของ i-mobile IQ Big 2 เป็น IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD 720×1280 พิกเซล แสดงผลได้ 16 ล้านสี รองรับระบบสัมผัส กล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพตัวเองสวยเนียนด้วยฟีเจอร์หน้าเนียน ที่สำคัญมีแฟลชกล้องหน้ามาให้ ช่วยให้การถ่ายภาพตัวเองในที่แสงน้อยทำได้ดีขึ้น

กล้องหน้าคุณภาพกลางๆ ได้ฟีเจอร์หน้าเนียนเพิ่มความน่าสนใจ อีกทั้งยังมีแฟลชสำหรับกล้องหน้า น่าเสียดายที่เวลาเลือกโหมดหน้าเนียนจะใช้แฟลชไม่ได้

ปุ่มควบคุมแบบสัมผัสจำนวน 3 ปุ่ม อยู่นอกจอ ทำให้ได้พื้นที่แสดงผลแบบเต็มๆ ไม่ต้องมีปุ่มกดรกหูรกตา

สำหรับดีไซน์ของ IQ Big 2 จะสวยแบะดูดี น่าใช้านกว่ารุ่นแรกพอสมควร ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูสวยงาม เก็บขอบให้โค้งมีเหลี่ยมนิดหน่อย แต่เหลี่ยมน้อยกว่า IQ Big รุ่นแรก ลดคามจุแบตเตอรี่ลงมา 1,000 mAh ทำให้ตัวเครื่องบางลงพอสมควร จากเดิมใน IQ Big หนา 9.6 มม. เหลือแค่ 8 มม. เท่านั้น

ปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง ถัดขึ้นไปเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ตัวเครื่องรองรับการอ่านและพิมพ์ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ ในแง่การใช้งานยังมีอาการหน่วง ทัชไม่ติดมือ แต่ไม่เจออาการค้าง ส่วนนึงน่าจะมาจากแรมที่ให้มาถึง 2GB

ด้านซ้ายมีช่องสำหรับเพิ่ม microSD ซึ่งเพิ่มได้สูงสุด 32GB ด้านขวาสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับจำนวนสองซิม ใส่ในภาดเดียวกัน เป็นซิมแบบ micro SIM

ด้านบนของ i-mobile IQ Big 2 เป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. สำหรับรุ่นนี้แม้ไม่มีเสาอากาศมาให้ แต่ยังสามารถดูดิจิตอลทีวีผ่านแอพ Digital TV ได้เช่นเคย โดยจะต้องต่อสายหูฟังขนาด 3.5 มม. เข้ากับตัวเครื่องซะก่อน เพือใช้เป็นเสาอากาศก่อนใช้งาน ซึ่งในกล่องจะมีสาย Cable Antenna for DTV มาให้ เพื่อใช้สำหรับต่อเข้ากับช่อง 3.5 มม. เพื่อรับสัญญาณทีวี

ก่อนใช้งานทีวีดิจิตอลบน i-mobile IQ Big 2 ต้องสแกนหาช่องก่อน และอย่าลืมว่าถ้าสัญญาณดิจิตอลทีวีไปไม่ถึง หรือที่อับสัญาณก็จะสแกนไม่เจอ หรือดูทีวีดิจิตอลทีวีไม่ได้ แอพสำหรับดูทีวีดิจิตอลการใช้งานเหมือนกับ i-mobile DTV รุ่นที่ผ่านมา ใช้งานไม่ยาก ความยากคือต้องสแกนให้เจอช่องก่อน ซึ่งในบางพื้นที่อาจจะไม่เจอแม้แต่ช่องเดียว หรือในบางพื้นที่อาจจะเจอไม่กี่ช่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วยครับ และไม่แนะนำให้ใช้งานขณะขับรถ เพราะมือถือจะจับสัญญาณไม่ทัน

ช่องต่อ micro USB 2.0 รอบรับการเชื่อมต่อแบบ MTP (Media Transfer Protocol) เวลาจะต่อมือถือกับเครื่องคอมเพื่อโอนย้ายไฟล์ ก็สามารถทำได้ง่าย อย่างไรก็ตามรุ่นนี้ยังมีฟักง์ชั่นเปิด USB Storage อยู่ และสามารถเลือกเป็น MTP ได้จากเมนูตั้งค่า

ด้านล่างมีรูไมโครโฟนสำหรับสนทนา

i-mobile IQ Big 2 จะรองรับ 3G คลื่น 850/2100 MHz (AIS (2100MHz) / DTAC /True Move H / 3GX) ใช้งานดาต้าได้ทั้ง 2 ซิม แต่ใช้งานได้ทีละซิม สามารถเลือกเปิดได้จากเมนูตั้งค่าของเครื่อง

รุ่นนี้ไม่สามารถแกฝาหลังได้ ซึ่งฝาหลังทำด้วยวัสดุที่เป็นพลาสติก ผิวหยาบ จับแล้วไม่ลื่น ไม่เกิดคราบ กล้องหลังให้มาที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล น้อยกว่ารุ่นพี่ที่ให้มา 18 ล้านพิกเซล ลำโพงของตัวเครื่องจะอยู่ด้านล้าง เวลาเปิดเพลงถ้าอยากให้เสียงดังก็ต้องฝามือถือคว่ำหน้าลง

i-mobile IQ Big 2 มาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop ครับ เรื่องอัพเดทคิดว่าน่าจะสุดแค่นี้ หมดโอกาสไปต่อ แต่ไม่ต้องเสียใจไปครับ เพราะรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่นเกือบจะล่าสุดแล้ว (ถ้าไม่มี 5.0.2) อินเตอร์เฟสก็เป็นแอนดรอยด์เพียวๆ ในแง่การใช้งานตอบสนองค่อนข้างดี ตอบสนองเร็ว ลื่น แต่มีอาการหน่วงและกระตุกนิดหน่อย (โดยเฉพาะเวลาเปิดแอพเยอะๆ หรือกำลังติดตั้งแอพ)

โดยรวมซอฟท์แวร์ทำงานได้ดีครับ ตอบสนองได้ค่อนข้างดี เปิดหลายแอพสลับไปมาได้เร็วเกือบเทียบเท่ามือถือเรือธงราคาแพงๆ แต่เพียงแค่นี้ก็ดีกว่าหลายๆ รุ่นในราคานี้ อีกทั้งมีหลายรุ่นที่ราคาแพงกว่านี้ แต่เวลาใช้งานตอบสนองช้ามาก ช้าไม่พอมีกระตุกด้วย ซึ่งในรุ่นนี้ถือว่าโอเคมากกับการใช้งานทั่วไปครับ

สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering)