Lazada

Talkband B2 Preview: ครบครันทั้งบลูทูธ ออกกำลังกาย จับการนอน

Talkband B2

TL;DR -ดีไซน์โอเค แบตเตอรีใช้งานได้นาน 4 วัน รองรับทั้ง iOS และ Android แต่การใช้งานถ้าอยู่กลางแดดจะมองอะไรไม่เห็นเลย

ช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้สัมภาษณ์-พูดคุยกับคนในวงการเทคโนโลยี ถึงมุมมองที่มีต่อแนวโน้มและพัฒนาการของอุปกรณ์สวมใส่ว่าจะมีในทิศทางใด ซึ่งแต่ละคนที่ได้สัมภาษณ์ก็มีมุมมองที่ต่างกันออกไป

สำหรับฝั่งหัวเว่ย ซึ่งเร็วๆ นี้เราคงได้ตามข่าวแล้วเห็นว่าพวกเขาเพิ่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอุปกรณ์สวมใส่รุ่นที่สองในชื่อ Hauwei Talkband B2 ในความเห็นของฝ่าย Product Manager มองว่า กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่อาจไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวของมันเดี่ยวๆ แต่ยังมีความจำเป็นต้อง “ซิงค์” กับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน อันเป็นปัจจัยสำคัญ

ซึ่ง Huawei Talkband B2 ก็เดินตามความเชื่อนั้น เพราะตัวมันจะทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับทั้งใน iOS และ Android ผ่านแอป Huawei Wear มุมมองตรงนี้น่าสนใจ เพราะแนวคิดของรุ่นนี้มิได้จำกัดการใช้งานให้อยู่เฉพาะระบบปฏิบัติการใด ระบบปฏิบัติการหนึ่ง แต่เลือกที่จะให้ใช้งานได้ทั้งผลไม้ และหุ่นยนต์

ส่วนความน่าสนใจของรุ่นนี้ เราค่อยมาต่อกันจริงๆ ในรีวิวฉบับเต็มละกันครับ แต่สำหรับบทพรีวิวนี้ จะขอเขียนถึงประสบการณ์ใช้งาน 5 วันกับรุ่นนี้ก่อนครับ

Talkband B2-2

สำหรับสเปกโดยคร่าว Huawei Talkband B2 มีดังนี้

  • หน้าจอขนาด 0.73 นิ้ว แบบ PMOLED
  • ทัชสกรีนได้
  • แบตเตอรี 95 mAh
  • บลูทูธ 4.1

ตลอด 5 วันที่ใช้งานรุ่นนี้มา แม้ในสเปกชีตจะระบุว่า ใช้งานได้นานสูงสุด 5 วัน ซึ่งเมื่อใช้จริงผมกลับใช้ได้ไม่ถึง 5 วันครับ ระยะเวลาในการใช้งานอยู่ที่ 4 วัน เฉลี่ยแบตเตอรีลดลงวันละ 25%

Talkband B2-4

ถามว่าตัวเลข 25% ลดลงเยอะไหม? ก็ตอบยากเหมือนกันนะครับ ต้องเรียนตามนี้ครับว่า อย่างแรกคือ Talkband B2 จะเชื่อมต่อกับ Bluetooth ตลอดเวลา ผ่านการซิงค์สมาร์ทโฟน ซึ่งหลักๆ แล้วผมจะใช้ดูเวลาครับว่า ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว ถือว่าสะดวกกว่าการควักสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูเวลา (แต่ถ้าผูกนาฬิกาข้อมือไว้อยู่แล้วสะดวกกว่าแน่นอน) อีกอย่างหนึ่งที่ผมเรียกใช้งานมันมาดูบ่อยๆ คือ ดูระยะก้าวเดินในแต่ละวันว่า ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการตั้งเป้าการเดินแต่ละวันจะเชื่อมโยงผ่านแอปพลิเคชัน Huawei Wear ครับ

แต่จากที่ลองเล่น ค่อนข้าง “ชอบ” ฟังก์ชันการใช้งานของรุ่นนี้ กล่าวคือ นอกเหนือจากตัวมันจะเป็นนาฬิกาได้ นับก้าวการเดินได้ และยังมีอีกสองฟังก์ชันเพิ่มเข้ามานั่นคือ โหมดออกกำลังกาย ตัว Talkband B2 จะจับเวลาในการออกกำลังกายได้ เช่นการวิ่ง ปั่นจักรยาน และการปีนเขาได้ ซึ่งถือว่ารองรับการออกกำลังกายหลักๆ ที่คนทั่วไปจะกระทำได้พอสมควรแล้ว

ทั้งนี้ต้องบอกก่อนนะครับว่า หากเราออกกำลังกายกลางแจ้ง และมีแดดกระทบที่หน้าจอ เราจะมองไม่เห็นใดๆ เลยก็ถือว่า เป็นจุดบอดของรุ่นนี้

Talkband B2-3

อีกอย่างหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา และพอจะสร้างความน่าสนใจได้อยู่บ้างคือ ตัวนี้จะมีปุ่มให้กดออกมาใช้งานในรูปแบบ Small Talk ได้ครับ ซึ่งในเวลานี้หลายประเทศมีการกวดขันอย่างมากในเรื่อง Driving Safety รณรงค์มิให้ขับรถพร้อมกับการใช้สมาร์ทโฟน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อการขับขี่ยวดยานพาหะนะ ฟีเจอร์นี้ก็น่าจะช่วยอะไรได้มากเหมือนกัน

นอกเหนือจากที่เขียนค่อยมาว่ากันต่อในรีวิวฉบับเต็มครับ