Lazada

HTC One E8: นี่คือ HTC One M8 ในราคาพอเอื้อมถึง

HTC_One_E8_IMG_6831

ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในสมาร์ทโฟนกลุ่มไฮเอนด์เริ่มถึงจุดหยุดนิ่ง จึงทำให้การตอบรับน้อยลงไป แต่ในขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มให้กลุ่มมิดเอนด์ ไปจนถึงโลว์เอนด์เริ่มมีช่องทางมากขึ้น หนึ่งในรุ่นมิดเอนด์ที่น่าสนใจเวลานี้ผมว่า ต้องมี HTC One E8

ในระยะหลังมีโอกาสสัมผัสสมาร์ทโฟนเกือบทุกกลุ่ม ทุกช่วงราคาอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้านับเฉพาะในกลุ่มมิดเอนด์ ผมกลับรู้สึกว่า HTC One E8 เป็นรุ่นที่น่าสนใจที่สุด คำถามคือทำไมถึงสนใจ นั่นเป็นเพราะ สัมผัสทั้งการใช้งานและความรู้สึกเป็นไปได้ด้วยดีอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อพิเคราะห์ปัจจัยแล้ว ผมเห็นควรว่า น่าจะเกี่ยวโยงกันในหลายข้อ เช่น วัสดุประกอบเครื่องแม้ว่าเป็นพลาสติก แต่เป็นพลาสติกที่ดูมีคุณภาพ ราคาไม่ถูก มีความใกล้เคียงกับงานออกแบบของ HTC Butteffly หนึ่งในไฮเอนด์ของเอชทีซี ต่อมาเป็นเรื่องงานประกอบที่เป็นลักษณะ Unibody ซึ่งเป็นด้านที่เอชทีซีถนัด  และโชว์ให้เห็นอยู่เนืองๆ ทว่าก็อาจมีปัญหานิดหน่อยในแง่ของการใช้งานที่ฝาด้านหลังจะเต็มไปด้วยรอยนิ้วมือ

ด้านสีสันของตัวเครื่องจัดว่าสวยงาม เพราะมีการเล่นสีที่สวย จากสีขาวที่เป็นสีหลักตัดกับสีดำตรงขอบ เสริมด้วยสีเทาลักษณะโลหะจากด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง โดยทั้งหมดนี้ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ HTC One E8

HTC_One_E8_IMG_6852

อย่างไรก็ตามผมรู้สึกว่า การที่จะเรียก HTC One E8 เป็นสมาร์ทโฟนมิดเอนด์นั้น ก็ดูจะไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ ถ้าหากเรานำมาเทียบกับราคาจำหน่ายที่สูงถึง 17,900 บาท ราคานี้มันคือราคาไฮเอนด์ของกลุ่มสมาร์ทโฟนเมื่อสองปีก่อนเสียด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อกลุ่มไฮเอนด์ปรับระดับราคาขึ้นไปหลักสองหมื่น ถ้าจะเรียกให้ถูกจริงๆ คงต้องเรียกว่า เป็น mid to high ดูจะเหมาะสมกว่า

ในแง่สเปกเครื่องถูกหยิบยกมาจาก HTC One E8 เพียงแต่ว่ามีการดาวน์เกรดสเปกบางส่วนลง และใช้วัสดุประกอบงานที่ลดระดับลงมา ซึ่งสเปกทีน่าสนใจมีดังนี้ครับ

  • หน้าจอ : Super LCD 3, 5 นิ้ว, FHD (Full HD) (1920 x 1080 พิกเซล)
  • ซีพียู : Qualcomm MSM8974AB Snapdragon 801 2.5 GHz Krait 400
  • แรม : 2GB // รอม 16GB
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 4.4.2 (KitKat)
  • กล้อง 13 ล้านพิกเซล

ลิงก์สเปกเครื่อง

HTC_One_E8_IMG_6832

ผมได้ลองใช้ HTC One E8 มาสักระยะหนึ่งครับ ก่อนที่จะเริ่มต้นเขียนบทรีวิวฉบับนี้ อย่างที่บอกไป ผมรู้สึกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทำได้ดี ทำได้ดีมากๆ ด้วยซ้ำ ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว ยังเป็นขนาดที่เหมาะสมกับคนทั่วไป เมื่อลองใช้งานจริง เช่นการดูคลิปผ่าน YouTube หรือการเล่นเกม สิ่งที่ต้องชมเชยกลับมีเพิ่มขึ้นมาอีกจากความละเอียดหน้าจอแบบ Full HD ที่คมชัดมาก กอปรกับการแสดงผลภาพก็ทำได้อย่างเฉียบขาด ที่น่าสนใจอีกด้านหนึ่งคงเป็นเรื่องของเสียง จุดสังเกตของรุ่นคือ การมาพร้อมกับลำโพงคู่ ที่มีชื่อว่า BoomSound เสียงที่ให้ดังจนแทบไม่จำเป็นต้องเร่ง Volume สูงๆ

SS3

ขยับเข้ามาอีกนิดนึง เป็นด้านซอฟต์แวร์กันบ้าง สิ่งที่ทำให้เอชทีซีกลายเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจในอดีต นั่นคือ เรื่องอินเตอร์เฟส Sense UI ในช่วงเวอร์ชันแรกๆ จนมาเริ่มโดนด่าขรมในช่วง Sense UI 4.0 (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) แต่สำหรับ Sense UI 6 จะเน้นไปที่ flat design อันเป็นสมัยนิยม ซึ่งไม่ต่างจาก HTC One M8 สักเท่าไหร่ ซึ่งถามความเห็นผมว่า คิดยังไงกับ Sense UI 6 ผมไม่ได้ยินดียินร้าย คือ ไม่ได้จะบอกว่าไม่สวย แต่สีสันมันยังดูกระจัดกระจาย จนยังหาจุดเด่นของมันไม่เจอ

การใช้งานจริง

SS4

อย่างที่บอกไป ผมค่อนข้างรู้สึกดีกับ HTC One E8 มากพอสมควร ตั้งแต่เรื่องของการดีไซน์ที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้น และเมื่อพูดถึงแง่ฟังก์ชันการใช้งานแล้ว ผมคิดว่า ฟังก์ชันการใช้งานอาจดูไม่เยอะมาก แต่ใช้งานได้จริงๆ เต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่ชอบที่สุดคงเป็นฟังก์ชัน Do not Dusturb ความหมายของฟังก์ชันนี้จะให้เราตั้งค่าเพื่อไม่ให้สมาร์ทโฟนรบกวนผู้ใช้ เช่น ถ้าหากเราต้องการพักผ่อน และไม่ต้องการให้โทรศัพท์ดัง เราก็สามารถตั้งค่าว่าจะให้โทรศัพท์เงียบนานมากน้อยแค่ไหน หรือจะอนุญาตให้มีญาติ เพื่อนคนสำคัญ ครอบครัว หรือแฟนมีสิทธิ์ในการรบกวนการนอนได้

หรือบางทีเรากำลังมุ่งมั่นตั้งสมาธิอยู่กับงาน จนไม่อยากให้มือถือดังรบกวน เราหยิบตรงนี้มาประยุกต์ได้

ลำดับต่อมาที่ผมใช้งานบ่อยๆ เป็นในแง่ของ Gesture ซึ่งใน HTC One E8 ก็จะมีฟังก์ชันคล้ายๆ กับ Knock On ของ LG G2 เพียงเคาะหน้าจอสองครั้ง สมาร์ทโฟนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมารับคำสั่งจากผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเรียกแอปพลิเคชันกล้องขึ้นมา เพียงแค่จับตัวเครื่องในแนวนอนแล้วกดปุ่มลดเสียง

โดย Gesture ทั้งหมดนี้เข้าไปตั้งค่าได้ที่ Setting > Display and Gesture > Motion Launch Gesture

มัลติมีเดีย

SS2

HTC One E8 มาพร้อมกับ Boomsound ลำโพงคู่ด้านหน้า ตรงนี้ถือว่ามีความน่าสนใจ เพราะเสียงที่ให้มาค่อนข้างกระหึ่ม ตอบสนองได้อย่างดีทั้งการดูคลิปผ่าน YouTube หรือแม้แต่การเล่นเกมก็ทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จากภาพตัวอย่างผมได้ทดลองเล่นผ่านเกม FIFA 15 ซึ่งเป็นเกมที่ต้องเล่นในลักษณะแนวนอน ตอนแรกผมเข้าใจว่ามือของผมจะไปบังตรงลำโพงรึเปล่า และเมื่อลองเล่นจริงๆ มือทั้งสองข้างไม่มีส่วนใดที่บังเลย ทำให้เสียงที่เราจะได้รับจากเกม หรือจากคลิปจะไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของมือบังเด็ดขาด

 SS7

ขณะเดียวกันด้านมัลติมีเดียที่น่าสนใจก็ยังมีการปรับแต่งภาพ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกันมาตั้งแต่ HTC One M7 ไฮเอนด์เมื่อปีก่อน โดยหลักจะมีให้ปรับสีผิว ความสว่าง ลดคาง โน่นนี่นั่น ซึ่งผมเข้าใจว่า สาวๆ ที่ชอบถ่าย selfie น่าจะชอบการปรับแต่งภาพจาก HTC One E8

การถ่ายภาพ

SS8

นับตั้งแต่ HTC One M7 เป็นต้นมา เอชทีซีมีการปรับโมดูลของกล้องมาเป็น Ultra Pixel ทว่าเซ็นเซอร์ 4 ล้านพิกเซลที่ว่าของเอชทีซีนี้ค่อนข้างมีปัญหามากพอสมควร ซึ่งในรุ่น E8 ปรับโมดูลกล้องเป็นปกติความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ในความเห็นคุณภาพของกล้องถือว่าพอใช้ได้เลยล่ะครับ อาจมีปัญหานิดหน่อยยามเวลาถ่ายภาพเวลากลางคืน

SS1

ด้านโหมดการถ่ายภาพที่เพิ่มเข้ามาคือ Selfie นอกนั้นยังคล้ายๆ ของเดิม ทั้ง Zoe Camera, Dual Capture และการถ่ายพานอรามา

แบตเตอรี

SS5

มาถึงส่วนสุดท้ายของการรีวิว คงต้องพูดถึงแบตเตอรี ผมคิดว่าแบตเตอรีของ HTC One E8 ยังไม่ถึงกับอึดมากสักเท่าไหร่ เพราะยิ่งหากเป็นคนที่ใช้งานด้านโซเชียลหนักๆ ถ่ายภาพเน้นๆ หรือมีกิจกรรมโทรเข้ารับสายพอสมควร ไปจนถึงการเล่นเกม อาจจำเป็นต้องพกพา Power Bank สักหนึ่งชุด

SS6

จากการทดสอบของผม เริ่ม unplug ราวๆ 6 โมง แล้วกลับมาชาร์จเต็มประจุอีกครั้งราว 2 ทุ่ม แบตเตอรีเหลือพอใช้งานประมาณ 25-20% แต่หากวันไหนมีเล่นเกมกับโซเชียลแบตเตอรีจะเหลือ 20% โดยประมาณ

สรุป

On Words: สมาร์ทโฟนตระกูล Mid to High ที่หน้าตาไฮโซ น่าใช้ที่สุดรุ่นหนึ่งในเวลานี้

ข้อดี

  • เหมาะกับคนที่ชอบ HTC One M8 แต่งบไม่ถึงหันมามอง E8 แทนได้
  • คุณภาพทั้งหน้าจอ การใช้งาน ความลื่นไหล จัดว่าสูงมาก

ข้อเสีย

  • ข้อเสียหลักๆ อยู่ที่ตัวเครื่องเรียกหานาโนซิม
  • แบตเตอรีที่ใช้งานได้ไม่อึดสักเท่าไหร่
  • ในความเห็นส่วนตัว HTC One E8 กับ M8 ใกล้เคียงกันมาก แต่ราคา 17,900 บาท ยังเป็นราคาที่สูงเกินไปสักหน่อย