[PR] ไมโครซอฟท์ชวน SME ในประเทศไทยอัพเกรด

7295_microsoftwindowsxp2gn

บริษัท ไมโครซอฟท์ เชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ทั่วเอเชีย ให้ปรับปรุงรุ่นและระบบคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยก่อนที่ไมโครซอฟท์จะหยุดให้บริการสนับสนุนน Windows XP และ Office 2003 ในวันที่ 8 เมษายน 2557 โดยมีข้อเสนออันหลากหลาย ประกอบไปด้วยส่วนลดสูงสุด 15 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ Windows 8 และ Office 2013 แบบ Open License Volume Program และข้อเสนอการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ Windows 8 Pro บนโน็ตบุ๊คและแท็บเล็ต รวมถึงการแข่งขัน SME IT Makeover ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งไมโครซอฟท์หวังว่าโครงการเหล่านี้จะช่วยประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้เหล่าธุรกิจ SMEs หันมาปรับปรุงรุ่นระบบไอทีของตน

คุณทิพมาศ อจลากุล ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจ SME คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.8 ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศไทย บริษัทเหล่านี้คือโครงสร้างหลักของสภาพเศรษฐกิจในประเทศไทย เนื่องจากพวกเขาคือผู้จ้างแรงงานส่วนใหญ่ แถมยังเป็นปัจจัยหลักของศักยภาพในการผลิต การส่งออก และแหล่งรายได้ของไทยอีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการจำนวนมากยังคงใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการทำงานแบบเก่าอยู่ ดังนั้นเป้าหมายและความพยายามต่างๆ ของไมโครซอฟต์คือการนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่โดดเด่นกว่าเดิมให้แก่ ธุรกิจ SME ที่สามารถนำไปปรับปรุงระบบของตนให้ทันสมัย แทนที่เทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมอย่าง Windows XP หรือ Office 2003 เพื่อที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพในการทำงาน มีระบบที่ปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม และใช้ประสิทธิภาพจากบริการคลาวด์ได้อย่างคุ้มค่า”

SME ที่ยังคงใช้ Windows XP และ Office 2003 โปรดทราบว่าตั้งแต่วันที่ 8 เดือนเมษายน 2557 เป็นต้นไป ไมโครซอฟท์จะยุติการให้บริการผลิตภัณฑ์เหล่านี้อีกต่อไป นั่นแปลว่าระบบที่ใช้อยู่อาจมีความเสี่ยงเรื่องการรักษาความปลอดภัยและความเสี่ยงเรื่องการปกปิดข้อมูลส่วนตัว ซอฟต์แวร์ที่ทำงานไม่สอดคล้องกัน ไม่สามารถโทรขอคำปรึกษาจากใครได้ อาจมีปัญหาดาวน์ไทม์ และค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาที่สูงขึ้น รายงานSecurity Intelligence Reportเล่มที่ 14 ของไมโครซอฟท์ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน 2556 ระบุว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows XP with SP3 มีความเสี่ยงมากกว่า Windows 7 SP ถึง 2.5 เท่า และมีความเสี่ยงมากกว่า Windows 8 ถึง 14 เท่า

การแข่งขัน SME Makeover ระดับภูมิภาค

ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556ธุรกิจ SMEsในประเทศไทยสามารถเข้าร่วมกับการแข่งขัน Get2Makeover และ SME IT Makeover Contest ซึ่งพวกเขามีโอกาสปรับปรุงระบบการทำงานให้ทันสมัยเพื่อชิงรางวัลเป็นโน็ตบุ๊คและแท็บเล็ต Windows 8 Pro สมาชิก Office 365 Small Business Premium และบริการย้ายระบบที่มีมูลค่ารวม 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ178,000 บาท) ผู้ชนะระดับประเทศทุกรายยังมีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย โดยผู้ชนะรอบสุดท้ายจะวัดจากคะแนนทั่วภูมิภาคในเดือนกรกฎาคม 2556 รวมทั้งจะได้รับรางวัลเพิ่มอีก 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 267,000 บาท) ซึ่งประกอบด้วยซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ โน็ตบุ๊ค แท็บเล็ต และบริการย้ายระบบ บริษัทที่สนใจเข้าร่วมสามารถอัพโหลดวิดีโอหรือรูปภาพสถานที่ทำงานปัจจุบันผ่านทาง www.microsoft.com/business/th-th/Pages/it-makeovercontest.aspxและกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ให้เหตุผลว่าทำไมถึงอยากปรับปรุงรุ่นคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยโดยใช้ Windows 8 Pro และ Office 2013ซึ่งการแข่งขัน Get2Modem SME IT Makeover Contest นี้จะสิ้นสุดในวันที่ 15 มิถุนายน 2556

นอกจากโครงการนี้แล้ว ไมโครซอฟท์จะเปิดตัวโปรโมชั่นอัพเกรด Get2Modern โดยตั้งเป้าไปที่กลุ่มธุรกิจSMEsในไทยและแถบเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ องค์กรต่างๆจะได้รับส่วนลดสูงสุด 15 เปอร์เซ็นต์ จากการซื้อ Windows 8 และ Office 2013 นั้นผ่านOpen License Volume Program รวมทั้งข้อเสนอการอัพเกรดฮาร์ดแวร์โน็ตบุ๊คและแท็บเล็ต Windows 8 Pro ด้วย ทางwww.microsoft.com/thailand/promotion

นอกจากนั้นเมื่อไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวเว็บไซต์ Upgrade Center www.microsoft.com/business/th-th/Pages/xp-eos.aspxสำหรับประเทศไทยอีกด้วย โดยลูกค้าธุรกิจSMEsสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยุติให้บริการสนับสนุนWindows XP และ Office 2003 ได้ ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะมีข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญและไมโครซอฟท์สำหรับธุรกิจSMEsที่สามารถนำไปศึกษาปัญหาเหล่านี้เพิ่มเติมได้

Office และ Windows รุ่นใหม่รองรับการทำงานแบบเคลื่อนที่

คุณสมบัติเกี่ยวกับระบบสื่อสารและการประสานการทำงานที่มีอยู่ใน Office และ Windows รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของการทำงานเคลื่อนที่ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผลการศึกษาล่าสุดของ IDC พบว่าร้อยละ 75 ของบริษัทในเอเชียแปซิฟิกได้ใช้หรือมีแผนที่จะใช้เครื่องมือโซเชียลเอนเตอร์ไพรซ์ เพื่อเพิ่มการรองรับการทำงานร่วมกันและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการทำงาน IDC คาดว่าการทำงานเคลื่อนที่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มจาก 601.7 ล้านคนในปี 2553 ไปเป็น 838.7 ล้านคนในปี 2558