LG Optimus 4X HD

001

หลังจากที่ได้พรีวิว LG Optimus 4X HD กันไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ คราวนี้ก็มาถึงรีวิวของ LG Optimus 4X HD กันเสียที ซึ่งนี่เป็นมือถือระดับ flagship ของ LG ในปีนี้เลยก็ว่าได้ครับ กับสเปกที่กลายร่างเป็น quad-core จาก NVIDIA Tegra 3 ความเร็ว 1.5GHz และแรม 1GB มาพร้อมจอ 4.7 นิ้ว เป็นจอแบบ True HD IPS ความละเอียดสูงถึง 1280×720 พิกเซล ความจุทั้งหมด 16GB (เหลือให้ใช้งาน 12GB)

ด้านซอฟต์แวร์นั้น นี่เป็น Android 4.0 อีกหนึ่งรุ่นของ LG ต่อจาก Optimus L7 ที่วางขายไปสักพักหนึ่งแล้ว แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ LG นำ Android 4.0 ไปปรับแต่งแล้วเรียกรวมว่า LG UI 3.0 นั้น บน Optimus 4X HD นั้นจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ครบครันกว่า ไม่ตัดฟีเจอร์บางอย่างทิ้งเหมือน Optimus L7 ครับ

p.s. เครื่องที่ทีมงานได้รับมารีวิวเป็นเครื่องทดสอบ ตัวซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ยังไม่สมบูรณ์ เครื่องขายจริงอาจจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีกว่านี้

การออกแบบ/ ฮาร์ดแวร์

003

LG Optimus 4X HD นั้นมีดีไซน์มาในแนวทางเดียวกับที่เคยทำไว้ใน PRADA Phone 3.0 ตัวเครื่องจึงมีลักษณะไปทางสี่เหลี่ยม วัสดุทำด้วยพลาสติกเกือบทั้งหมด ด้านข้างมีการเล่นระดับด้วยขอบโครเมี่ยมคู่นูนเด่นออกมา ซึ่งขอบโครเมี่ยมนี้เป็นพลาสติกชุบโครเมี่ยมครับ (ก่อนหน้านี้ในพรีวิวเคยบอกไว้ว่าเป็นโลหะ แต่พอเล่นไปสักพักมันเป็นพลาสติกครับ ขออภัยก่อนหน้านี้ด้วย) บริเวณด้านบนของตัวเครื่องจะมีเซนเซอร์อยู่ฝั่งด้านซ้าย และกล้อง 1.3 ล้านพิกเซล, ด้านล่างของเครื่องเป็นปุ่มสัมผัสทั้งหมด มีไฟแสดงปุ่มสามารถตั้งเวลาให้แสดงได้

004

ตัวเครื่อง Optimus 4X HD นั้นมีความบาง 8.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 133 กรัม บริเวณฝาเครื่องด้านหลังนั้นเป็นพลาสติกแบบมีลวดลายเพื่อความกระชับมือ ตรงส่วนหน้าตาของตัวเครื่องนั้น เท่าที่ถามเพื่อนผู้หญิงหลายคนต่างก็บอกตรงกันว่าชอบดีไซน์ของตัวเครื่องด้านหน้า แต่ไม่ค่อยชอบฝาหลังสักเท่าไหร่ (สงสัยจะติดใจลวดลาย saffiano ของรุ่น PRADA Phone 3.0 มากกว่าครับ)

005

มีกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซลอยู่ด้านหลัง (เซนเซอร์ BSI), ไฟแฟลช LED และลำโพง ฝาหลังสามารถถอดได้ และข้างในมีแบตเตอรี่ขนาด 2150 mAh เป็นแบตเตอรี่แบบใหม่ของ LG ชื่อว่า SiO ซึ่ง LG บอกว่าสามารถชาร์จได้ถึง 800 cycle และถึงจะมีความจุเยอะแต่ก็จะมีขนาดเล็กเหมือนแบตเตอรี่ 1500 mAh ทั่วไปครับ

006

008 009007

แจ๊คหูฟัง 3.5mm กับปุ่มเปิดปิดเครื่องนั้นอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างนั้นมีช่อง microUSB อยู่ ส่วนไมโครโฟนนั้นอยู่ด้านบนและด้านล่างอย่างละ 1 ตัวครับ นอกจากนี้บริเวณฝาปิดด้านหลังของ Optimus 4X HD นั้นยังมีการติดตั้งฝังแผ่น NFC มาด้วย

009

หน้าจอ

002

Optimus 4X HD นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ 4.7 นิ้ว True IPS HD ความละเอียด 1280×720 (313 ppi) เป็นจอแบบ RGB (มีซับพิกเซลสูงถึง 2,764,800 ส่วนจอแบบ Pentile จะมีซับพิกเซลแค่ 1,843,200) เพราะฉะนั้นจึงให้ความคมชัดสูงมาก  จอขาวสว่างมาก (ไม่เหลืองแน่นอน) อยู่ที่มืดๆสามารถใช้แทนไฟฉายได้เลย จอให้สีสันธรรมชาติ ถ้าเทียบกับจอ HD Super AMOLED อาจจะดูซีดไปสักหน่อย แต่จะดูคมกว่าครับ นอกจากนี้ยังใช้กระจก Gorilla Glass กันรอยขีดข่วน

เวลาเล่นเกมหรือดูหนังนั้นจอแบบ True IPS HD ของ Optimus 4X HD นั้นให้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจเลยทีเดียว เพราะคมชัดและให้สีที่เป็นธรรมชาติมากๆ

ซอฟต์แวร์

Optimus 4X HD มาพร้อมกับ Android 4.0 Ice Cream Sandwich และครอบด้วย LG Optimus UI 3.0 ซึ่งในภาคของ Optimus 4X HD นั้นมีการจัดเต็มฟีเจอร์มากกว่าที่พบใน Optimus L7 มาก (รีวิวขึ้นไม่ทัน ลัดคิวเอา Optimus 4X HD มาขึ้นให้ก่อนครับ)

Screenshot_2012-06-21-14-51-52 Screenshot_2012-06-24-21-44-50 Screenshot_2012-06-24-21-44-57

ตัวหน้า Lockscreen นั้นทำออกมาเท่ดีครับ มีการยุบวงเป็นวงๆ และมี short cut สำหรับเข้าแอพด่วนทั้งหมด 4 ตัว (สามารถเลือกได้) หน้า homescreen จะมีทั้งหมด 7 หน้า สามารถเลือกหน้าหลักได้อย่างอิสระ

ยังสามารถแตะค้างที่หน้าจอได้เหมือนเดิม เพื่อเปลี่ยน Wallpaper, เพิ่ม Widget, นำไอคอนของแอพมาใส่ หรือจะกดเพิ่มจากเครื่องหมายบวกด้านล่างนาฬิกา ก็สามารถเข้ามายังหน้านี้ได้เหมือนกัน (รูปด้านล่าง)

Screenshot_2012-06-24-21-43-44

หน้าจอ homescreen นั้นสามารถเลือกเปลี่ยน theme ได้ มี theme ให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังภาพด้านล่าง (Optimus, Biz, Cozywall, Mashmallow) นอกจากนี้แต่ละ theme ยังมีไอคอนที่แตกต่างกันให้เลือกเปลี่ยนอีกด้วย (ไอคอนสำหรับเปลี่ยนไอคอนบนหน้าจอ) หากวางไอคอนของแอพทับกันก็จะได้โฟลเดอร์ขึ้นมา ซึ่งโฟลเดอร์นี้จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 10 สี และสามารถขยายโฟลเดอร์ได้

Screenshot_2012-06-25-00-33-27 Screenshot_2012-06-24-01-14-50 Screenshot_2012-06-24-01-13-55

Screenshot_2012-06-24-01-14-31 Screenshot_2012-06-24-01-14-01 Screenshot_2012-06-24-01-14-24

ตรงส่วนของ Toggle นั้นบน LG Optimus UI 3.0 นั้นมีให้เลือกปรับแต่งเยอะมาก ตั้งแต่ Quick Memo, Wi-Fi, Sound, Data, Bluetooth, NFC, Auto ratation, GPS, WiFi Hotspot และสามารถเลือกมาใช้ได้อย่างอิสระ รวมถึงเรียงตำแหน่งได้

Screenshot_2012-06-24-21-44-26 Screenshot_2012-06-24-21-44-41 Screenshot_2012-06-24-21-44-35

Quick Memo นั้นเป็นแอพสำหรับเขียนบนหน้าจอในลักษณะเดียวกับ Galaxy Note/ Galaxy S3 สามารถเรียกใช้ได้จากแถบ toggle จากการลาก notification ลงมา หรือกดปุ่ม Volume Up + Volume Down พร้อมกันก็จะเป็นการเรียก Quick Memo ออกมาได้เหมือนกัน

ตัว Quick Memo นั้นสามารถปรับแต่งหัวได้ 4 แบบ และกำหนดระดับของเส้นได้ว่าจะเอาเล็กหรือใหญ่ และยังมีสีให้เลือกทั้งหมด 16 สี

ตัว Memo นั้นสามารถที่จะเขียนบนหน้าจอได้ หรือจะเลือกเขียนลงบนพื้นที่ Memo ปกติก็ทำได้เช่นกัน ตรงจุดนี้ถ้ามีปากกา capacitive ด้วย จะสะดวกมากกว่าใช้นิ้วเขียนครับ

Screenshot_2012-06-24-21-48-39  Screenshot_2012-06-24-21-49-13Screenshot_2012-06-24-21-48-48

App Drawers

หน้าตาของ App Drawers ของ LG Optimus UI 3.0 นั้นจะแบ่งเป็น 3 แท็บด้วยกัน คือ แอพ, ดาวน์โหลด และ widget ซึ่งในส่วนแอพนั้นจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงผลในลักษณะ 4×5 แถว หรือ 5×6 แถว ครับ นอกจากนี้ยังสามารถลบแอพได้โดยตรงจากหน้า App Drawers นี้ โดยกดผ่านเครื่องหมายรูปเฟืองนั่นเอง

Screenshot_2012-06-24-21-45-09 Screenshot_2012-06-24-21-45-31 Screenshot_2012-06-24-22-10-59

แอพที่เพิ่มเข้ามาใน Optimus 4X HD นั้นก็มี Backup สำหรับ backup ข้อมูลต่างๆของเครื่อง และยังสามารถเข้ารหัสได้, Cell Broadcast, LG Tag+ สำหรับรับข้อมูลผ่านสติ๊กเกอร์ NFC, Polaris Office สำหรับแก้และสร้างเอกสารออฟฟิซ และ Media Home

Media Home นั้นจะแสดงมีเดียทั้งหมดที่อยู่ในเครื่องของเรา แบ่งเป็นสัดส่วนให้ดูสวยงาม สำหรับการแชร์มีเดียผ่าน MHL หรือ DLNA ไปออกทีวีให้สามารถแชร์ได้ง่ายขึ้นครับ

Screenshot_2012-06-24-21-55-10

Settings ของ LG Optimus UI 3.0 นั้นมาในโทนสีขาว มีการแบ่งหมวดหมู่การปรับแต่งต่างๆ เพิ่มส่วนของ Gesture เข้ามาด้วย ซึ่ง Gesture บน Optimus 4X HD นั้นก็มีไม่เยอะเท่าใดนัก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการคว่ำเครื่อง เช่น การปปิดเสียงสายเข้าโดยการคว่ำเครื่อง, คว่ำเครื่องเพื่อหยุดนาฬิกาปลุก, คว่ำเครื่องเพื่อหยุดการเล่นวีดีโอ

นอกจากนี้ยังมี Options พิเศษในส่วนของ Sound ด้วย ซึ่งก็คือ Quiet time เป็นการเซ็ตให้เครื่องปิดเสียงในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้ ลักษณะใกล้เคียงกับฟีเจอร์ Do not Disturb ของ iOS 6

Screenshot_2012-06-24-22-00-24 Screenshot_2012-06-24-22-01-20 Screenshot_2012-06-24-22-03-39

Media Plex

Media Plex คือการเรียกรวมฟังก์ชั่นการใช้งานกล้อง และด้านมัลติมีเดียของ LG Optimus 4X HD ครับ ด้านกล้องขอตัดไปก่อนเพราะจะไปเน้นอีกทีในรีวิวด้านกล้อง มาดูด้านมัลติมีเดียกันก่อน

Preview frame

เมื่อแตะที่ preview frame icon (เป็นรูปตา) และไปแตะที่ seek bar จะมี preview ของแต่ละฉากออกมาให้เราดู ทำให้สามารถเลื่อนไปฉากที่ต้องการได้ง่าย

Screenshot_2012-06-24-15-25-45

Speed controller

สามารถลดและเร่งความเร็วการเล่นวีดีโอได้ ระหว่าง 0.5x จนถึง 2.0 x (ไอคอนข้างๆ preview frame)

Screenshot_2012-06-24-15-26-53

Direct list

เมื่อแตะที่ไอคอน direct list จะโชว์ลิสต์ของวีดีโอคลิปทั้งหมดมาให้เราดู ซึ่งสามารถกดพรีวิวจากหน้าต่างเล็กๆได้ (เล่นซ้อนกัน 2 คลิป คลิปใหญ่จากจอใหญ่ และคลิปเล็กจากแถบ direct list)

Screenshot_2012-06-24-15-26-46

Zoom

สามารถใช้นิ้วทำ pinch in/out ซูมวีดีโอ ย่อ/ขยาย ได้

Screenshot_2012-06-24-21-57-37

เครื่องเล่นเพลง

Optimus 4X HD เป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่เสียงค่อนข้างดีครับ โดยเมื่อเสียบหูฟังเข้าไปแล้ว จะสามารถเลือก audio effects ได้ ซึ่งในจำนวนนี้จะมี Dolby Mobile อยู่ด้วย

Screenshot_2012-06-24-21-39-48 Screenshot_2012-06-24-21-42-18

 

ประสิทธิภาพ

011

Optimus 4X HD นั้นมาพร้อมกับซีพียูความเร็ว 1.5 GHz quad-core NVIDIA Tegra 3 เพราะฉะนั้นในเรื่องประสิทธิภาพการเล่นเกมนั้นหายห่วงได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีบางเกมที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อให้การแสดงผลกราฟิกบนมือถือที่ใช้ Tegra 3 นั้นสามารถแสดงผลได้ดีกว่ามือถือที่ใช้ซีพียูแบบอื่น (แต่ก็ยังมีจำนวนที่ไม่มากเท่าใดนัก) ลองมาดูประสิทธิภาพการเล่นเกมของ LG Optimus 4X HD กันดีกว่าครับ (ไม่ได้ทดสอบด้วยเกมที่ปรับแต่งมาสำหรับ Tegra 3 เพราะผมไม่ได้ซื้อมา)

ถ้าวัดประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือทดสอบ ผลก็จะออกมาดังตารางด้านล่างนี้ครับ

0012

จะเห็นว่า LG Optimus 4X HD นั้นจะมีคะแนนนำ HTC One X อยู่เล็กน้อย เนื่องจากฮาร์ดแวร์นั้นใกล้เคียงกัน แต่อาจจะมีในเรื่องของการปรับแต่งซอฟต์แวร์ที่ทำออกมาได้ดีกว่า ส่วน Samsung Galaxy S3 นั้นนำโด่งทั้ง 2 รุ่นนี้ไป ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของมือถือจาก Samsung อยู่แล้วที่จะได้คะแนนที่เยอะ

 

กล้อง

012

เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยซื้อ Optimus 2X ไป คงจะผิดหวังเรื่องกล้องกันไปอย่างแน่นอน แต่เมื่อมาถึงในรุ่น Optimus 4X HD นี้ ก็ได้มีการแก้ไขและพัฒนาเรื่องกล้องให้ดีกว่าเดิมแล้ว และฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับ quad-core อีก 2 รุ่นอย่าง One X และ Galaxy S3 เลย เพราะฟีเจอร์ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก

กล้องของ Optimus 4X HD นั้นมาพร้อมกับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (BSI Sensor) มี Auto Focus, Touch Focus, Zero Shutter lag, HDR Panorama และอีกฟีเจอร์เฉพาะของรุ่นนี้คือ ‘Time Machine Camera’ ซึ่งมีแนวคิดว่า สามารถเลือกรูปที่เราพอใจได้ ทั้งก่อนและหลังการกดชัตเตอร์ เพราะฉะนั้นโหมดนี้จะถ่ายทั้งหมด 5 ภาพ คือ ก่อนกด 2 ภาพ ปัจจุบัน 1 ภาพ และหลังจากกดชัตเตอร์ไปแล้วอีก 2 ภาพ ซึ่งเราก็สามารถเลือกภาพที่เราต้องการจาก 5 ภาพที่ได้ ลองดูตัวอย่างจากในคลิปวีดีโอด้านล่างน่าจะเข้าใจครับ

ด้านการถ่ายรัวนั้น รุ่นนี้มีโหมด Continuous ซึ่งจะถ่ายรัว 6 ภาพ แต่จะได้ความละเอียดในระดับ VGA เท่านั้น ด้านวีดีโอนั้นสามารถถ่ายได้ในระดับ Full HD (1920x1080p) และสามารถถ่ายภาพนิ่งขณะถ่ายวีดีโอได้เหมือนกัน และยังเพิ่มเอ็ฟเฟ็ควีดีโอแบบเดียวกับ ICS (ตาโต, จมูกโต, etc ) เข้ามาด้วย

(Optimus 4X HD เครื่องที่ผมทดสอบนั้น กล้องค่อนข้างที่จะมีการหลุดโฟกัสบ่อย คาดว่าน่าจะมาจากตัวฮาร์ดแวร์เป็นฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าครับ คงจะต้องไปลองตัวขายจริง (ได้ข่าวว่าโมดูลกล้องคนละตัวกับที่ผมทดสอบ) ดูว่ามีอาการนี้หรือไม่)

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก LG Optimus 4X HD

 

CAM00030

CAM00064

CAM00064

CAM00012

CAM00013

CAM00011

CAM00048

CAM00145 CAM00032

CAM00020 CAM00021

 

สรุป

013

LG Optimus 4X HD นั้นเป็น LG ตัวเดียวที่เล่นแล้วรู้สึกว่าลื่นติดนิ้วที่สุดแล้ว ด้านความเร็วของตัวเครื่องไม่มีข้อติใดๆเพราะทำออกมาได้ลื่นใกล้เคียงกับทั้ง Galaxy S3 และ One X และจากที่เล่นอยู่ทั้งอาทิตย์ก็พบว่า Optimus 4X HD มีการจัดสรรหน่วยความจำได้ดี ไม่เกิดอาการแรมเต็มจนค้าง

การออกแบบนั้นออกมาดี สวยงาม น่าจะถูกใจคนที่ชอบมือถือทรงเหลี่ยมๆ มีการชุบโครเมี่ยมให้แลดูสวยงาม และเนื่องจากวัสดุของตัวเครื่องเป็นพลาสติกจึงมีน้ำหนักเบา ไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเครื่องใหญ่กว่า 2X เท่าใดนัก

หน้าจอ True HD IPS นั้นให้สีสันเป็นธรรมชาติ จอคมชัดมากๆ (แต่อาจจะไม่ถูกใจคนชอบสีสดๆ) หน้าจอนั้นสว่างมากๆ และก็ขาวมากๆอีกด้วย (ไม่มีอาการเหลืองให้เห็น) และจอแบบนี้ไม่กินแบตเตอรี่

เรื่องที่ต้องติอยู่อย่างคือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างจะลดไว  แต่ได้ข่าวจาก LG ว่าเฟิร์มแวร์ตัวขายจริงนั้นได้แก้ไขปัญหาด้านการกินแบตเตอรี่แล้ว คงต้องไปลองดูจากเครื่องขายจริงครับ

LG Optimus 4X HD นั้นเฟิร์มแวร์ของตัวเครื่องยังมีระบบเพิ่มมาอีก 2 อย่าง คือ Quick Voice กับการสั่งงานด้วยเสียง และ Eco Mode สำหรับเซฟแบตเตอรี่ ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้ยังไม่มีการอัพเกรดเข้ามา คิดว่าคงจะต้องรอประมาณเดือนหน้า LG น่าจะมีการเพิ่มตัวระบบเหล่านี้เข้ามาครับ

001

ข้อดี

  • ราคาถูกที่สุดใน quad-core ที่เป็นระบบ Android ในตอนนี้
  • รองรับ 3G ทุกค่ายในประเทศไทย ไม่มีการแบ่งรุ่นแยกขาย
  • จอ True HD IPS ใหญ่ คมชัด และขาวมาก ให้สีธรรมชาติ และเป็นแบบ RGB
  • สามารถเล่นเกม Tegra Zone ที่ปรับแต่งมาสำหรับ Tegra 3 ได้
  • แบตเตอรี่แบบใหม่ SiO ความจุเยอะ 2,150 mAh แต่แบตเตอรี่ไม่ใหญ่ตามความจุ และยังสามารถชาร์จได้มากถึง 800 ครั้ง
  • เพิ่ม microSD card ได้
  • ใช้ SIM Card แบบธรรมดา
  • กล้องเป็นแบบ zero shutter lag กดรัวได้
  • ระบบกล้องแบบ Time Machine Camera แนวคิดใหม่ สามารถเลือกรูปที่พอใจทั้งก่อนและหลังกดชัตเตอร์
  • เบราเซอร์เปิดได้มากกว่า 8 หน้าแล้ว

 

ข้อเสีย

  • เวลาถ่ายภาพในที่แสงน้อย กล้องจะจับโฟกัสช้า ไม่แม่นยำ, มีอาการหลุดโฟกัสบ่อย
  • โหมด Continuous Shot สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้แค่ระดับ VGA เท่านั้น
  • เวลาเล่นหนักๆเครื่องจะร้อนบริเวณกลางเครื่องด้านหลัง ตรงจุดเดียวกับโลโก้ LG