Lazada

Radeon RX 500 Series การอัพเกรดกราฟิกการ์ดที่สร้างกระแสมากที่สุด

เปิดตัว Radeon RX 500 series กราฟิกการ์ดใหม่ที่ผสมผสานขุมพลังด้านประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ดีขึ้น, clock speeds ที่สูงขึ้น และสถาปัตยกรรมโพลาริสรุ่นที่สอง เพื่อให้เหล่าพีซีเกมเมอร์อัพเกรดกราฟิกการ์ดได้อย่างเหมาะสมที่สุด

Radeon RX 500 series ออกแบบมาเพื่อการอัพเกรดระบบให้กับพีซีเกมเมอร์ 9 ใน 10 คนที่ยังใช้เทคโนโลยีที่ตกรุ่น จึงไม่สามารถเพลิดเพลินและสัมผัสประสบการณ์กับการเล่นเกมรุ่นใหม่ๆ การใช้วีอาร์ หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีที่ใช้แสดงผลหน้าจอรุ่นล่าสุดได้

เทคโนโลยีและคุณสมบัติใหม่ๆ ที่น่าทึ่งมากมาย ได้แก่

  • เพื่อการเล่นเกม DirectX 12 and Vulkan – Radeon RX 500 series ใช้สถาปัตยกรรมโพลาริสรุ่นที่สอง ออกแบบมาเพื่อให้ทำงานได้ดี ตั้งแต่รุ่นล่าง และ Generation ใหม่ ของ APIs เช่น DirectX 12 and Vulkan และรองรับการคำนวณแบบอะซิงโครนัสสำหรับสุดยอดเกมชั้นนำต่างๆ และการเล่นวีอาร์ Radeon RX 500 series GPUs ได้รับการปรับแต่งให้มี clock speeds สูงขึ้น, ปรับปรุงประสิทธิภาพในขณะที่อยู่ในโหมด idle และการใช้งานหลายหน้าจอเชื่อมต่อกัน และมอบความสามารถในการควบคุมได้อย่างละเอียดทุกจุด ซึ่งเหล่าเกมเมอร์ต้องการใช้ในการปรับแต่งฮาร์ดแวร์ของตน
  • Radeon Chill ช่วยให้เวลาในการตอบสนองดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการทำงานที่เย็นลง – Radeon Chill คือตัวควบคุมเฟรมเรตที่ทันสมัยของ Radeon RX 500 series ซึ่งทำงานอย่างอัตโนมัติอยู่เบื้องหลัง (เมื่อเปิดใช้งาน) เพื่อพลังในการควบคุมเฟรมเรตในการเล่นเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในทุกวันนี้ ซึ่งมีการเคลื่อนไหวเมาส์อย่างรวดเร็ว และมีกิจกรรมที่เกมเมอร์จะต้องทำในฉากหนึ่งๆ
  • เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เสียงไม่สะดุด ด้วย Radeon FreeSync  – Radeon FreeSync ช่วยให้เกมเมอร์เพลิดเพลินไปกับเฟรมเรตที่ลื่นไหลอย่างแท้จริงในทุกๆ เกม โดยไม่ต้องหงุดหงิดกับหน้าจอเป็นเส้นๆ และความล่าช้าในการป้อนข้อมูล เทคโนโลยี Radeon FreeSynce มีอยู่ในจอภาพหลากหลายและราคาไม่แพง5 สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมอย่างมีอรรถรสด้วยพิกเซลที่สมบูรณ์แบบ จอภาพที่ใช้เทคโนโลยี Radeon FreeSync 2 จะควบคุมให้ลาเทนซีต่ำ, พิกเซลความสว่างสูง, ระดับสีดำที่ยอดเยี่ยม และโทนสีกว้างเพื่อแสดงภาพแบบ High Dynamic Range (HDR) รวมถึงฟีเจอร์ Low Framerate Compensation (LFC) ที่ช่วยให้สามารถเล่นเกมได้อย่างไม่ติดขัดเมื่อเฟรมเรตลดลงต่ำกว่าอัตรารีเฟรชเรตของจอภาพ คุณสมบัติทั้งหมดนี้อยู่ในรูปแบบของการใช้งานแบบปลั๊กแอนด์เพลย์ที่ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งการตั้งค่าใดๆ ในซอฟต์แวร์หรือบนจอภาพ
  • สุดยอดของการสตรีมมิ่ง การแชร์ และการแคปเจอร์การเล่นเกม ด้วย Radeon ReLive – Radeon RX 500 series รองรับโซลูชั่นที่ล้ำหน้าที่สุดในวงการ ไม่ว่าจะเป็นโซลูชั่นในการจับภาพ (capturing), การปรับแต่ง (customizing) และการแชร์เกมเพลย์ (sharing gameplay) ชุดซอฟต์แวร์ Radeon ReLive ช่วยให้เกมเมอร์เล่นเกมและบันทึกไปได้พร้อมกันอย่างราบรื่นแม้บนระบบระดับเริ่มต้น โดยรองรับการบันทึกที่ความละเอียดระดับ 4K ที่ 30 และ 60 FPS ด้วยการใช้ตัวแปลงสัญญาณ HEVC และ H.264 นอกจากนี้ Radeon ReLive ยังสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเกมยอดนิยมทั่วโลก

นายสก็อต เฮอร์เคลแมน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเทคโนโลยีเรดิออน กล่าวว่า “Radeon สร้างขึ้นจากคำมั่นว่าเกมเมอร์ทุกคนจะต้องสามารถเพลิดเพลินกับทุกเกมที่พวกเขาชื่นชอบด้วยเทคโนโลยีด้านกราฟิกที่ทันสมัยที่สุด

การเปิดตัว Radeon RX 500 series เราพยายามทำให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม เราเชื่อว่าเหล่าเกมเมอร์ที่อดทนรอที่จะอัพเกรดจะได้รับประโยชน์ที่มากกว่า คุ้มค่าเวลาที่รอคอย จากเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า, ซอฟต์แวร์แคปเจอร์เกมเพลย์ที่ไม่เคยมีมาก่อน, เทคโนโลยีที่ช่วยลดลาเทนซี่, การสนับสนุนไดรเวอร์สำหรับเกมที่เปิดตัวโดยไม่ต้องรอ, เทคโนโลยี Radeon FreeSync ที่มีมาตรฐาน และฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Radeon Chill”

กราฟิกการ์ดรุ่นต่างๆ ของ RX 500 Series

  • Radeon RX 580: สำหรับการเล่นเกมที่ลื่นไหลกับความละเอียด 1440p –

จากการทดสอบเทียบกับ Radeon R9 380X แล้ว Radeon RX 580 มีประสิทธิภาพดีกว่าประมาณ 57% ทั้งยังสามารถเล่นเกมชั้นนำระดับ AAA และวีอาร์ได้อย่างลื่นไหล

  • Radeon RX 570: สำหรับการเล่นเกมด้วยความละเอียดสูงสุด 1080p –

Radeon RX 570 ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 4GB GDDR5 มีประสิทธิภาพดีกว่า Radeon R7 3709 เฉลี่ย 2.3 เท่า

  • Radeon RX 560: เพียงพอสำหรับการเล่นเกมด้วยความละเอียด 1080p

Radeon RX 560 มาพร้อมหน่วยความจำ 2GB GDDR5 มีประสิทธิภาพดีกว่า Radeon R7 36010 โดยเฉลี่ย 57% เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมยอดนิยมของโลกได้อย่างราบรื่น

  • Radeon RX 550: จุดเริ่มต้นของการเล่นเกมพีซี

Radeon RX 550 มีหน่วยความจำ 2GB GDDR5 มอบประสิทธิภาพสูงกว่าเฉลี่ย 4 เท่าเมื่อเทียบกับกราฟิกที่อยู่ในตัว CPU และมีประสิทธิภาพเฉลี่ย 1.7 เท่าของ Radeon R7 250 Radeon RX 550 ยังเหมาะกับพีซีโฮมเธียเตอร์ ซึ่งรองรับ HDMI™ 4K60, การเล่นวิดีโอ 4K และ HEVC5 นอกจากนี้ยังเป็นเทคโนโลยีการแสดงภาพแบบ HDR รองรับเทคโนโลยี Radeon FreeSync 2 เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล ปราศจากปัญหาภาพขาดระหว่างการเล่นเกม และจัดจำหน่ายในหลายๆ รูปแบบที่เรียบง่ายสำหรับการใช้งานขนาดเล็ก12

กราฟิกการ์ด Radeon RX 580 และ 570 จากบรรดาพันธมิตรมีวางจำหน่ายแล้วทั่วโลกผ่านร้านค้าปลีก และร้านค้าปลีกออนไลน์ และกราฟิกการ์ด Radeon RX 550 พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 20 เมษายน ส่วนกราฟิกการ์ดRadeon RX 560 มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่ายได้ที่ https://www.amd.com/en/where-to-buy/radeon-rx500