Lazada

Huawei P10 Review: ครบจบในเครื่องเดียวทั้งการใช้งาน การออกแบบ และการถ่ายภาพขาวดำ/ภาพสี

Huawei P10
Huawei P10

ห้วงเวลานี้ Huawei P10 เป็นสมาร์ทโฟนที่หอมหวนราวดอกไม้ที่รายล้อมด้วยฝูงภมรโบยบินกลิ่นพริ้ว ด้วยผลพวงสืบเนื่องจากความยอดเยี่ยมจาก Huawei P9 นั่นจึงทำให้ P10 กลายเป็นความคาดหวังที่สูงเสียดฟ้าโดยปริยาย

P10 ที่อยู่ในมือ MobileDista เวลานี้เป็นเครื่องสีเงิน (Mystic Silver) ซึ่งเรามีโอกาสได้ทำความรู้จักมักคุ้นกันมาสักระยะหนึ่ง เชื่อว่า คุณผู้อ่านคงมีข้อสงสัยตั้งแต่ความคุ้มค่าที่จะซื้อหาเป็นเจ้าของ? เป็นเจ้าของ P9 แต่ควรค่าแก่การเพิ่มมูลค่าเป็น P10 หรือไม่? เราจะมาคลายข้อสงสัยกันในบทความฉบับนี้ครับ

สแกนลายนิ้วมือ: จากด้านหลังสู่ด้านหน้า ใช้งานได้เหมือนเดิม

Huawei P10

หากว่ากันตามความจริงแล้ว ด้านการออกแบบระหว่าง P9 และ P10 นั้นมีความแตกต่างกันน้อยมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดจากความแตกต่างก็คือ การย้ายปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่จากเดิมอยู่ด้านหลังของตัวเครื่องโยกมาอยู่ด้านหน้าแทน

ในแง่นี้กลุ่มผู้ใช้งานเดิมของ P9 ที่คุ้นชินการสแกนจากด้านหลังตัวเครื่องอาจต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับให้คุ้นชินการออกแบบใหม่ ยิ่งโดยเฉพาะผู้ใช้งานที่ตั้งค่าการเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ด้วยการสแกนลายนิ้วมือเป็นด่านแรก จะยิ่งต้องปรับตัวให้เข้ากับการสแกนใหม่ทั้งหมด

ด้านหนึ่งการที่เปลี่ยนแปลงสแกนลายนิ้วมือจากด้านหลังสู่ด้านหน้านั้น แทบไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงระดับอย่างมีนัยสำคัญเท่าไหร่นัก เพราะถึงที่สุดแล้วการสแกนด้วยนิ้วโป้ง (หรือนิ้วอื่นจากด้านหน้า) และด้านหลังก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

แน่นอนว่า การย้ายปุ่มสแกนลายนิ้วมือจากด้านหลังสู่ด้านหน้า ไม่ได้มีแค่ด้วยเหตุผล ‘สแกนลายนิ้วมือ’ เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเพิ่มการใช้งาน gesture ผ่านปุ่ม Home นั่นเอง ซึ่งเป็นคุณลักษณะเดียวกับ Huawei Mate 9 Pro ที่ MobileDista เคยรีวิวไว้ก่อนหน้านี้

Huawei Mate 9 Pro: นี่อาจเป็นสมาร์ทโฟน Android ที่ดีที่สุดในเวลานี้

P10

โดยปุ่ม Home สามารถทำงานเป็นได้ทั้งปุ่ม Back, ปุ่ม Home และ Recent App ได้ในปุ่มเดียวผ่านการใช้ Gesture เป็นตัวบังคับ ซึ่งเราอาจเรียกฟีเจอร์นี้รวมๆ ว่า haptic feedback (คล้ายกับ 3D Touch ของ Apple นั่นเอง) เช่น การแตะหนึ่งครั้งเป็น Back กดค้างเป็น Home หรือปาดซ้ายเพื่อใช้งาน Recent

Huawei P10 Huawei P10

อย่างไรก็ตามด้วยความยุ่งยากโดยเฉพาะการ Recent ที่ต้องใช้การปาดที่ปุ่ม Home ผู้เขียนรู้สึกว่ามันยุ่งยากเกินไป และไม่สะดวกในการใช้ จึงกลับมาใช้ปุ่มแบบมาตรฐานเหมือนเดิม จึงทำให้ปุ่ม Home มีสถานะเดียวก็คือ สแกนลายนิ้วมือ

การออกแบบ: เหมือน iPhone มากเกินไป

ด้วยการดีไซน์ดังกล่าว ถือว่ามีความคล้ายคลึงกับ iPhone อยู่สักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ ‘ลอก’ มาทั้งดุ้น กลับยังคงเอกลักษณ์ของความเป็น P Series อยู่พอสมควร เช่นการจัดวางเลนส์กล้องทั้งสองตัวอยู่ในด้านซ้ายสุด ตามมาด้วยแฟลช และโลโก้ของ Leica ที่เป็นจุดขายสำคัญ

ขณะเดียวกันการปรับขนาดหน้าจอให้เล็กลงจากเดิม 5.2 นิ้ว มาเป็น 5.1 นิ้ว ถือเป็นสิ่งที่ดีไม่น้อย เพราะด้วยขนาดที่เล็กลง (แต่ไม่เล็กลงจนเกินไป) ทำให้การพกพาสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงได้อย่างสะดวกใจ

Huawei P10

P10 vs P9

แต่สิ่งที่อาจมีปัญหาในการใช้งานจริงๆ ก็คือ การออกแบบที่โค้งมนมากขึ้น ถ้าสังเกตจาก P9 ตัวเครื่องจะมีลักษณะทรงแท่งเหลี่ยมๆ ไม่ได้เน้นความอ่อนช้อยโค้งมนสักเท่าใดนัก กระทั่งเป็น P10 ตัวเครื่องถูกออกแบบให้โค้งมากขึ้น ขอบซ้ายและขวาถูกทำให้ลาดเอียง เป็นโค้งจากด้านบนจรดด้านล่าง พื้นผิวด้านหลังถูกขัดให้เรียบ ซึ่งตรงนี้ทำให้การจับสัมผัสถือใช้งานอาจต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก เพราะมีโอกาสที่ร่วงหล่นจากมือได้ไม่น้อยครับ

ฟีเจอร์การใช้งาน: มีไม่มาก แต่พอดี

Huawei P10

ถ้าหากใครที่ได้ลองใช้งาน Huawei Mate 9 ซีรีส์แล้วลองสัมผัส P10 แทบจะไม่พบความแตกต่างในด้านฟีเจอร์การใช้งานมากนัก เพราะโดยพื้นฐานแล้วทั้งสองรุ่นใช้อินเตอร์เฟส EMUI 5 เหมือนๆ กัน จึงทำให้รูปลักษณ์ที่ออกมา การสั่งการ อินเตอร์เฟสที่เลือกได้ว่า จะเอาแบบมี/ไม่มี App Drawer หรือฟีเจอร์ที่มีความโดดเด่นไม่ฉีกหนีกันมากนัก

P10
ซ้าย: App Twin การใช้งานสองแอปในเครื่องเดียว ขวา: การแบ่งหน้าจอพร้อมกันสองแอป (แต่ไม่รองรับทุกแอป)

เราจะได้เห็นฟีเจอร์ Clone App (ที่ใช้งานได้แค่ Facebook และ Whatsapp) การเรียกใช้ Motion ต่างๆ ที่มีมานานแล้ว หรือการใช้ข้อนิ้วเป็นคีย์ลัดเรียกการใช้งาน รวมถึงการแบ่งหน้าจอ Split-Screen ก็มิได้เป็นสิ่งที่ใหม่สดอย่างใด

Huawei P10

อย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้เป็นฟีเจอร์ที่เราสามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

แบตเตอรี: ชาร์จไวขึ้นมาก แต่ไม่อึดไปกว่า P9

Huawei P10

ในฐานะที่เป็นผู้ใช้งาน P9 สิ่งที่คาดหวังเป็นเป็นเรื่องแบตเตอรี เพราะนี่คือจุดบอดของ P9 เนื่องด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรีใช้งานได้ไม่นานกว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งความเร็วในการชาร์จก็ทำได้ไม่ดี ใช้เวลาค่อนข้างนานอักโข

แล้ว P10 ล่ะ?

ความคาดหวังดังกล่าวมีแค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น P10 มีการปรับปรุงการชาร์จแบตเตอรีให้เร็วขึ้น เพิ่มความสามารถในการชาร์จเร็วเข้ามา ทำให้การชาร์จจากแบตเตอรีราว 10% สามารถเต็มขีด 100% แล้วกลับมาใช้งานได้ภายในเวลาเพียงชม.ครึ่งเท่านั้น

ส่วนการใช้งานในแต่ละวันของ P10 นั้น กลับยังมีข้อจำกัด เป็นรุ่นที่ผู้ใช้งาน ‘ต้องถนอมการใช้งาน’ มากทีเดียว ความคงทนของแบตเตอรีมีให้คุณพร้อมใช้งานราวๆ 9 ชม. มากกว่านี้จำเป็นต้องพก Power Bank หรือชาร์จระหว่างวันกันเอง

กล้อง: Huawei P10 คือคำตอบด้านการถ่ายภาพ

Huawei P10

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเป็นเจ้าของ P9 คิดว่าคงไม่ต่างกันมาก นั่นคือ ในด้านการถ่ายภาพที่รองรับทั้งกล้องขาวดำ และกล้องสี มีเลนส์กล้องสองตัว และการทำความร่วมมือกับ Leica เป็นครั้งแรก

หลังจากนั้นอีกหนึ่งปี Huawei P10 เป็นการยกระดับด้านการถ่ายภาพขึ้นมาจริงๆ ภาพที่ได้จาก P10 มีความคมชัด มีรายละเอียดที่ดีขึ้น การถ่ายภาพของ monochrome สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้

ขณะเดียวกันการถ่ายภาพด้วยภาพสีก็ทำได้ดีขึ้น สีที่ได้มีความสด เรียกว่า P10 เป็นรุ่นที่สามารถดึงดูดให้คนที่ชอบการถ่ายภาพขาวดำชอบ และคนที่ถ่ายภาพสีรักได้ไม่อยาก

ตัวอย่างการถ่ายภาพจากกล้อง P10

อย่างไรก็ดีการถ่ายภาพด้วย Portrait Mode อันเป็นของใหม่แกะกล่อง ขอแบ่งเป็นสองส่วน นั่นคือ ส่วนที่เป็นกล้องหน้าและส่วนที่เป็นกล้องหลัง

ในส่วนที่เป็นกล้องหลังถือว่าทำได้ค่อนข้างดีครับ การละลายพื้นหลังแลดูสวย ดูมีมิติน่าประทับใจ แต่พอเป็นกล้องหน้าพื้นหลังรอบตัวของคนถ่ายจะดูฟุ้ง พร้อมบรรยากาศรายล้อมที่ชวนหลอกตา จนท้ายที่สุดแล้วก็ต้องปิดโหมดนี้จนกว่าจะมีการอัปเดท Software ถ่ายภาพ

ภาพถ่ายจาก Portrait Mode

Huawei P9 vs. Huawei P10 ในมุมมองเจ้าของ P9

Huawei P10 vs Huawei P9

การเป็นเจ้าของ Huawei P9 และได้ใช้งาน P10 ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจได้ไม่ยากเลยว่า แทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียเงินซื้อ P10 เลย หากว่า ในบ้านของคุณมี P9 อยู่ก่อนแล้ว

ด้วยการออกแบบของสองรุ่นนี้ ไม่แตกต่างกันมากในระดับมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับโหมดการถ่ายภาพแค่การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ในความเห็นผู้เขียนแล้วยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ต้องเสียเงินเพื่อซื้อ P10 การถ่ายภาพของ P9 ยังคงดี และเพียงพอ

ทว่าถ้าคุณนั้นยังไม่มี P9 ไว้ในการครอบครองการจะฝากความไว้วางใจให้กับ P10 ในการเป็นสมาร์ทโฟนคู่ใจ ผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่เลว เพราะการถ่ายภาพของ P10 นั้นทำได้ดีทั้งการถ่ายภาพขาวดำและภาพสี การถ่ายภาพด้วย Pro Mode จะยิ่งเพิ่มคุณภาพของภาพให้ดียิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันประสิทธิภาพในการใช้งานก็ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง การทำงานของ Kirin 965 ไว้วางใจได้ ความลื่นไหล การรองรับแอปพลิเคชันสำคัญๆ ใช้งานได้ไม่มีปัญหา

เช่นนั้นแล้ว ถ้าคุณมี P9 ผมคิดว่ายังไม่จำเป็นในการอัปเกรดเป็น P10 หากแต่ยังไม่เคยเป็นเจ้าของ P9 มาก่อน แล้วมีความต้องการเปลี่ยนมือถือ P10 คือทางเลือกที่ดีครับ

สรุป: Huawei P10 ซื้อ/ไม่ซื้อ !?

Huawei P10

ในมุมมองของผู้ใช้ P9 ไม่รู้สึกยินดียินร้ายตามแต่ประการใด เพราะความแตกต่างแบบเห็นได้ชัดจากการสัมผัส P10 แทบไม่มีความรู้สึกอะไรมากนัก แต่ถ้ามองอย่างคนทั่วไป ในการขยายแบรนด์ Huawei การมาของ P10 คือ ย่างก้าวที่สำคัญ ที่ชี้บ่งชัดแจ้งแล้วว่า Huawei กำลังมาถูกทาง

การก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่ในวงการของสมาร์ทโฟนของ Huawei คือสิ่งที่น่าสนใจ และควรค่าแก่การติดตาม P10 เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งระดับราคาก็ไม่ได้แพงมากนัก 17,900 บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ว

ในราคานี้คุณจะได้การถ่ายภาพที่ดีทั้งภาพถ่ายขาวดำและภาพสี กอปรกับตัวเครื่องที่มีประสิทธิภาพ มีการใช้งานที่ลื่นไหล นี่คงเป็นโอกาสอันสำคัญที่แบรนด์ Huawei จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ และแผนการขยายแบรนด์ของมังกรตัวใหญ่รายนี้ได้เริ่มต้นขึ้น

สเปกเครื่อง Huawei P10

หน้าจอ: 5.1  นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p

ชิปประมวลผล: HiSilicon Kirin 960 Octa-core (4×2.4 GHz Cortex-A73 & 4×1.8 GHz Cortex-A53)

แรม: 4GB

หน่วยความจำเครื่อง: มีให้เลือก 32GB และ 64GB

กล้องหลัง: แบ่งเป็นกล้อง 20 ล้านพิกเซล และ 12 ล้านพิกเซล F2.2

กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล F1.9

แบตเตอรี: 3,200 mAh

ระบบปฏิบัติการ: Android 7 Noutgat

อินเตอร์เฟส: Emotion UI 5.1