เราต้องการอะไรที่มากกกว่าหูฟังคุณภาพดี เสียงครบ แบตอึด แถมมี noise cancelling ในราคาต่ำหมื่น ถ้ากำลังมองหาสิ่งนี้ Plantronics BackBeat Pro 2 อาจเป็นคำตอบให้แก่คุณครับ
ก่อนหน้านี้เราเคยได้พูดถึงหูฟังรุ่นนี้ไว้แล้วครับที่ แนะนำ BackBeat Pro 2 ใช้งานได้ครบ Work&Life จบในตัวเดียว ซึ่งจากที่ได้ลองใช้งานจริงพบว่า เป็นหูฟังที่น่าสนใจทีเดียว เพราะตัวมันรองรับทั้งในด้านการทำงานและการฟังเพลงได้ดีจริงๆ ในรีวิวชิ้นนี้เราจะพามาดูกันว่า หูฟังระดับไฮเอนด์ของ Plantronics มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
การออกแบบ (Design)
Plantronics บอกเราว่า การออกแบบของหูฟังรุ่นนี้แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ กล่าวคือ การออกแบบใช้รูปทรงรี โดยปรับเปลี่ยนจากทรงกลม ซึ่งความแตกต่างก็คือ การออกแบบที่เป็นทรงรี จะกระชับเข้ากับรูปหน้าได้ดีกว่าทรงกลม ทำให้ไม่เกิดอาการหูฟังบีบที่หูเมื่อใช้งานไปสักระยะ
ขณะเดียวการออกแบบมาถือว่าทำได้ดี ตัวหูฟังมีน้ำหนัก 290 กรัม โครงวัสดุเป็นโลหะหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์คุณภาพดี จับแล้วนุ่ม บริเวณก้านหูฟังจะหุ้มด้วยผ้า ซึ่งถือว่า อาจเป็นข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน ข้อดีคือ เวลาที่เราพับและบิดหูฟัง 90 องศา ขณะที่อยู่บนคอมันจะรู้สึกสบาย ไม่แข็งกระด้าง เมื่อเทียบกับพลาสติก แต่ข้อเสียก็จะมีอยู่บ้าง ถ้าหากมีเหงื่อมันจะอับชื้นได้
การควบคุม
เนื่องจาก BackBeat Pro 2 เป็นหูฟังบลูทูธไร้สาย ทำให้การควบคุมจะอยู่ด้านข้างของหูฟังทั้งหมด การควบคุมปุ่มทางซ้าย ข้างนอกสุดจะเป็นการปรับเพิ่ม Volume + และ Volume – ซึ่งจะใช้การเลื่อนลงเพื่อเพิ่มเสียง และการเลื่อนขึ้นเพื่อลดเสียง พร้อมกับปุ่มควบคุมด้านในที่จะเป็นการเล่นเพลงไปข้างหลัง ไปข้างหน้า สั่งหยุดเพลง หรือสั่งเล่นเพลง อันนี้เป็นสัญลักษณ์การใช้งานแบบเบสิคที่เข้าใจกันได้
ถัดเข้ามาของปุ่มควบคุมด้านซ้าย ที่จะอยู่บริเวณหลังหูของเรา จะมี 2 ปุ่มคำสั่ง นั่นคือ Open Listening และ ANC นี่แหละครับ คือ จุดเด่นของ BackBeat Pro 2 เลยล่ะครับ เพราะว่า นี่คือฟีเจอร์สำคัญเลย โดยเราสามารถเลื่อนไปด้านบนสุดที่ Open Listening เพื่อเปิดไมค์รอบตัว ข้อดีก็คือ ในขณะที่เรากำลังฟังเพลงอยู่ แต่ต้องการที่จะสนทนากับผู้ที่อยู่ตรงหน้า หรือในขณะที่เรากำลังอยู่ในสนามบิน กำลังรอหน้า gate บางทีเราอาจต้องการได้ยินเสียงเรียกขึ้นเครื่อง ก็สามารถเปิดไมค์ เพื่อใช้งาน Open Listening ที่จะทำให้เราได้ยินเสียงจากข้างนอกเข้ามาในหูฟัง โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกมาเลย
เมื่อเราไม่ต้องการที่จะสนทนากับใคร ต้องการตั้งสมาธิกับการฟังเพลงเท่านั้น ให้เลื่อนลงมาที่ ANC (Anti Noise-Cancelling) ที่จะตัดเสียงรบกวนทุกสิ่งอย่าง แล้วฟังสุนทรีย์ไปกับบทเพลงที่กำลังเล่นอยู่ ซึ่งสองฟีเจอร์ที่ลองใช้มาแล้ว บอกเลยว่า โคตรเจ๋ง!
ต่อมาคือ ปุ่มควบคุมด้านขวา ด้านนอกสุด (บริเวณโลโก้ PLT) ถ้าหากเรากดไปปั้บ จะเป็นการบอกสถานะของแบตเตอรีที่การันตีว่า ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง ด้านหลังหูจะมี 2 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มเปิด/ปิด Bluetooth และเสียงเปิด/ปิดไมค์โครโฟนสนทนา
อ้อ! ในจังหวะที่เรากำลังฟังเพลงอยู่ แล้วมีโทรศัพท์เข้ามา เราสามารถสนทนาผ่านหูฟังไฮเอนด์รุ่นนี้ได้เลย ส่วนช่องด้านล่างสุดจะเป็นช่องเสียบชาร์จแบตเตอรี พอร์ทที่ใช้เป็น microUSB และด้วยความที่เป็นหูฟัง Bluetooth ต่อให้แบตเตอรีใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง ถ้าเกิดลืมชาร์จก็เป็นอันจบกัน เลยมีช่องเสียบ 3.5 มม.มาให้ในกล่องด้วยครับ
คุณภาพเสียง (Sound Quality)
ว่าไปแล้ว ในเรื่องของหูฟังสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากการออกแบบแล้ว จะเป็นในเรื่องของความโดดเด่นทางด้านเสียง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับบุคคลิกและรสนิยมในการฟังเพลงว่า มีความชื่นชอบในแนวไหน
BackBeat Pro 2 ให้เสียงเบสที่ดีเมื่ออยู่ในโหมดปกติ แต่ความเป็นเสียงเบสก็ไม่ได้กลบเสียงกลาง หรือเสียงแหลม จึงทำให้การฟังเพลงยังได้คุณภาพเสียงกลางที่โอเค เสียงแหลมที่ยังมีความคม พร้อมรายละเอียดของเครื่องดนตรีที่มีความชัดเจน ถ้าฟังเพลงแนวเพลงประเภท Rock, Blues, Jazz แม้แต่ Hip-Hop ถือว่าตอบโจทย์การฟังเพลงคุณมากทีเดียวเลย
ฟีเจอร์ (Feature)
Anti Noise Cancelling (ANC)
ตามที่กล่าวไว้ตอนต้น ความสามารถของ Anti Noise Cancelling คือการตัดเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์ออกไป เพื่อสรรสร้างอรรถรสในการฟังเพลงให้ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด จากที่ลองใช้คือ ถ้าอยู่ในที่ๆ เสียงดัง เช่น บนรถ ก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลยครับ แต่ก็จะมีได้ยินเสียงบ้าง เช่น เสียงประกาศจากไมค์เวลาที่อยู่สถานีรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ที่ยังมีลอดเข้ามาได้บ้าง
ที่น่าสนใจก็คือ Pro 2 เป็นหูฟังที่มาราคา 7,890 บาท แต่ฟีเจอร์ในการตัดเสียงทำได้ดีกว่าหูฟังรุ่นที่แพงกว่าในช่วงราคาที่สูงกว่านี้ (นิดหน่อย) เลยทีเดียว
Smart Sensor
Pro 2 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เรียกว่า Smart Sensor ซึ่งความโดดเด่นของฟีเจอร์นี้ ตัวหูฟังจะทำการหยุดการเล่นเพลงทันที ที่เราถอดหูฟังออกจากหู แล้วกลับมาเล่นใหม่อีกครั้งเมื่อสวมใส่หูฟังอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ประหยัดแบตเตอรีของหูฟังได้พอควร
สรุป (Conclusion)
Plantronics BackBeat Pro 2 จัดว่าเป็นหูฟังที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะระดับราคาที่ไม่แพงนัก 7,890 บาท แต่จะได้ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน หรือเปิดไมค์เพื่อรับฟังเสียงสนทนา แถมยังได้เสียงที่มีคุณภาพดี ความทุ้มของเบสก็น่าประทับใจ และแบตเตอรีก็ยังอึดมากๆ
ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่า Pro 2 เป็นหูฟังแนว Multimedia ที่ใช้งานได้มากกว่าการฟังเพลง กล่าวคือ จะใช้ในการสนทนาแทนบลูทูธทั่วๆ ไปก็ยังได้ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการทำงาน (Work) และการฟังเพลง (Life) ครบจบในตัวเดียว
ในท้ายที่สุดถ้าคุณเป็นคอเพลงสาย Jazz, Blues, Hip-Hop หรือ Rock นี่คือหูฟังที่เหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่ง ถ้าชอบฟังเพลงสายนี้ อยากให้ได้ลองสัมผัสหูฟังไฮเอนด์รุ่นนี้กันครับ
กด Like เพจเพื่อติดตามข่าวสาร