รีวิว Huawei GR5 2017

ในบทความนี้ทีมงาน Mobiledista จะมารีวิวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Huawei รุ่นที่ว่าก็คือ Huawei GR5 2017 มือถือที่ต่อยอดมาจาก Huawei GR5 ตัวแรก มาพร้อมกับลูกเล่นที่น่าสนใจ อาทิ กล้องหลังคู่  มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องเหมือน Huawei P9

อีกทั้งยังอัดสเปกมาให้แบบจัดเต็ม ทั้งหน้าจอ Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว ซีพียู Huawei Kirin 655 Octa-Core แรม 3GB หน่วยความจำ 32GB รองรับ MicroSD สูงสุด 128GB ใช้งานได้ 2 ซิม (Hybrid Dual SIM) ณ ตอนที่ผมเขียนรีวิวอยู่มี GR5 2017 Premium วางขายเรียบร้อย โดยรุ่นนี้เพิ่มแรมเป็น 4GB และหน่วยความจำเพิ่มเป็น 64GB

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านกล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้าน และ 2 ล้านส่วนแบตเตอรี่ให้มา 3340 mAh รัน Android 6.0+EMUI 4.1

Huawei GR5 2017 จะวางขายในไทยตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมเป็นต้นไป ในราคา 8,900 บาท ใครสนใจก็ลองหาซื้อกันได้ครับ ส่วนใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่ารุ่นนี้น่าสนใจหรือเปล่า ก็มาดูกันในบทความนี้เลย

ข้อมูลสเปก

  • หน้าจอ Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว
  • ซีพียู Huawei Kirin 655 Octa-Core
  • แรม 3GB
  • หน่วยความจำ 32GB รองรับ MicroSD สูงสุด 128GB
  • ใช้งานได้ 2 ซิม (Hybrid Dual SIM)
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้าน และ 2 ล้าน
  • แบตเตอรี่ 3340 mAh
  • รัน Android 6.0 อินเตอร์เฟส EMUI 4.1
  • Wi-Fi802.11b/g/n, 2.4GHz
  • BT4.1
  • น้ำหนัก 162 กรัม หนา 8.2 มม.

สำรวจตัวเครื่อง

รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ตัวกระจกเป็นแบบโค้ง 2.5D (โค้งบริเวณขอบจอ) ซึ่งจะลำบากเวลาติดฟิลม์นิดนิดหน่อย เพราะอาจจะทำให้ติดฟิล์มไม่เต็มหน้าจอ

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์เป็นแบบมุมกว้างกว่า มีระบบตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติและซอฟต์แวร์รีทัช โหมดฟิลเตอร์บิวตี้ต่างๆ และมีโหมด panoramic selfie สำหฟรับถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าให้มีมุมกว้างขึ้น

ปุ่มควบคุมรวมอยู่ในหน้าจอแสดงผลเลย

ด้านล่างประกอบด้วยช่องต่อ micro USB สำหรับชาร์ตแบต (ยังไม่ใช่  USB Type-C แบบรุ่นพี่) ลำโพงตัวเครื่อง และไมโครโฟนสำหรับสนทนา

ด้านบนเป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน ด้านข้างจะมีช่องสำหรับเก็บถาดซิม โโยรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิม และเพิ่ม microSD ได้

อีกด้านจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง

ตัวเครื่องดีไซน์ด้านหลังให้มีความโค้งเพื่อให้จับถนัดมือ วัสดุทำด้วยโลหะ มีความด้านเล็ดน้อยช่วยให้เกิดคราบเหงื่อยาก และเกิดรอยยากขึ้น

กล้องหลังเป็นกล้องคู่แบบ Huawei P9 และ Mate 9 แต่ตัวนี้ไม่ใช่ Leica แบบรุ่นพี่ แต่หลักการทำงานและความสามารถก็ใกล้เคียงกัน โดยแบ่งเป็นกล้องสีขาวดำความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายภาพสี 2 ล้าน มีแฟลชมาให้

นอกจากนั้นแล้วด้านหลังยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืดมาให้ สำหรับปลดล็อคเข้าใช้งานตัวเครื่อง หรือตั้งค่าซื้อแอพด้วยการสแกนนิ้วมือแทนการกรอกรหัส

มาพร้อมกับ Android 6.0 และอินเตอร์เฟส EMUI 4.1 รุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาให้มาความสวยงามน่าใช้งาน และมีความลื่นไหล ตอบสนองการใช้งานได้ดีขึ้น ไม่มีอาการกระตุก หน่วงให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเมนู เปิดแอพ เปิดเกมก็ทำได้อย่างลื่นไหล

ตัวเครื่องรองรับการอ่านและพิมพ์ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ

สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store อัพเดทแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้จาก Play Stor มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering)

มีฟังก์ชั่นห้ามรบกวน (Do not disturb) มาให้ เป็นนึงในฟังก์ชั่นที่ผมชอบมาก มีในมือถือและแท็บเล็ตหลายรุ่น ซึ่งผมเองก็มักจะตั้งค่าเปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้ การจัดการเกี่ยวกับการแจ้งเตือนต่างๆ เช่นเวลา 4 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า ห้ามแจ้งเตือน ปิดเสียงทุกอย่าง รวมถึงเมื่อมีสายเข้าด้วย เราสามารถกำหนดช่วงเวลาได้เอง

ฟีเจอร์กล้องจะทำงานคล้ายๆ กับ Huawei P9 สามารถถ่ายภาพให้หลังเบลอ หรือหน้าเบลอได้ และสามารถปรับจุดโฟกัสได้ทีหลัง แม้จะเป็นภาพเดียวกันเราก็สามารถปรับแต่งภาพได้หลากหลายมุมมอง

มาถึงเรื่องเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือกันบ้าง รุ่นนี้สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้ทั้งหมด 5 นิ้ว และสามารถปลดล็อคเครื่องได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอก่อน (แบบเดียวกับใน Huawei P9) การทำงานของเซ็นเซอร์ก็เร็วใช้ได้ น่าประทับใจ ที่สำคัญตัวเซ็นเซอร์ไม่ได้ทำงานแค่ปลดล็อคเครื่องเท่านั้น ยังสามารถใช้เป็นปุ่มถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ, แตะค้างที่เซ็นเซอร์เพื่อรับสาย, แตะค้างที่เซ็นเซอร์เพื่อปิดเสียงนาฬิกาปลุก , เลื่อนนิ้วลงที่เซ็นเซอร์เพื่อเปิด notification bar, เลื่อนไปซ้าย-ขวา เพื่อเลื่อนดูรูปในอัลบั้ม

สำหรับการเล่นเกมส์ โดยผมลองกับเกมส์ Seven Knights ซึ่งเป้นเกมส์ที่ผมเล่นประจำ พบว่ารุ่นนี้เล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีหน่วงหรือกระตุก ไม่ต้องปรับลดความละเอียดของภาพผิกเกมส์แต่อย่างใด ซึ่งแปลกมาก เพราะมือถือราคาต่ำกว่าหมื่นหลายรุ่นที่เคยลองมา มีไม่กี่รุ่นที่เล่นได้อย่างลื่นไหลแบบรุ่นนี้ ถือว่าน่าประทับใจมากๆ

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

กล้องหน้า

กล้องหลัง