Lazada

Plantronics แนะนำ BackBeat Pro 2 ใช้งานได้ครบ Work&Life จบในตัวเดียว

BackBeat Pro 2
BackBeat Pro 2 หูฟังไฮเอนด์จาก Plantronics

เท่าที่ได้ลองสัมผัสด้วยตัวเอง ระยะหลังผู้คนรายล้อมผมมักจะเลือกซื้อหูฟังดีๆ สักหนึ่งใน เพื่อใช้ในการฟังเพลง ผ่านบริการจากแอปชั้นนำ เช่น Apple Music, Spotify หรือ Joox ซึ่งล่าสุดผมเพิ่งได้ลองหูฟังตัวใหม่ล่าสุดของ Plantronics นั่นคือ BackBeat Pro 2

นำเสียงเพลงมาสู่ชีวิตด้วย

BackBeat Pro 2

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เสียงเพลงคือเสียงที่ขับเคลื่อนการใช้ชีวิตมนุษย์เรา ใครหลายคนมีกิจวัตรอย่างแรกที่จะต้องทำคือ การเดินไปเปิดเพลงความหมายดีๆ สักเพลงหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มต้นอาบน้ำ แปรงฟัน

ต่อจากนั้นในการเดินทางจากบ้านสู่ที่ทำงาน ก็จะได้เสียงเพลงเป็นตัวช่วยขับกล่อมระหว่างการเดินทาง ทำให้การเดินทางในแต่ละวันนั้นมีความหมาย และไม่ทำให้น่าเบื่อ รวมถึงในระหว่างการทำงานหลายคนก็ชอบที่จะทำงานไปและฟังเพลงไปด้วยพร้อมๆ กัน

ถ้าหากนั่นคือ สิ่งที่คุณกำลังตามหาอุปกรณ์ที่จะช่วยขับกล่อมด้านเสียงเพลงอยู่ เป็นไปได้ว่า BackBeat Pro 2 อาจะเป็นสิ่งที่คุณกำลังต้องการอยู่ก็ได้ครับ

BackBeat Pro 2

นิสา มังกรทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสเท็ม 2000 จำกัด ว่า หูฟัง BackBeat Pro 2 เป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ ที่เหมาะกับคนทุกกลุ่ม ทุกเป้าหมายการทำงาน ถ้าหากต้องการคุณภาพของเสียงที่ดีรุ่นนี้ก็มีให้ ถ้าหากต้องการหลีกหนีเสียงที่ไม่พึงประสงค์รอบตัวก็มีฟีเจอร์ Active Noise-Cancelling (ANC) และถ้าหากต้องการฟังเพลงไปด้วยพร้อมกับได้ยินเสียงรอบข้างก็จะมีฟีเจอร์ Open-Listening Mode

BackBeat Pro 2

ขณะเดียวกันถ้าต้องการเน้นการทำงาน ใช้ติดต่อสื่อสาร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเชื่อมต่อ BackBeat Pro 2 ไว้กับสมาร์ทโฟน แล้วก็สนทนาไปพร้อมๆ กับการทำงานก็ทำได้เลย ซึ่งบางครั้งสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาอาจจะต้องการให้เราเช็กอีเมล เราก็สามารถเช็กอีเมลไปในเวลาเดียวกับที่ฟังการสนทนาด้วยหูฟังไฮเอนด์รุ่นนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำงานประเภทเน้น Multitasking (ทำหลายอย่างพร้อมๆ กัน) น่าจะชื่นชอบ

ทำความรู้จัก BackBeat Pro 2 ให้มากขึ้น

BackBeat Pro 2

นอกเหนือจากฟีเจอร์ ANC (Active Noise-Cancelling) และ Open-Listening Mode ที่กล่าวไปแล้ว ต้องยอมรับว่าหูฟังไฮเอนด์ตัวนี้ ยังมีหลายสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย

เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่จะผิดแผกไปจากหูฟังไฮเอนด์รุ่นอื่นๆ ตรงที่มีการปรับดีไซน์ของหูฟังเป็นทรงรี ทั้งนี้เป็นเพราะการออกแบบหูฟังที่เป็นทรงกลมนั้น จะไม่รองรับเข้ากับสรีระของคนทั่วไปมากนัก และไม่กระชับเข้ากับใบหู แต่พอรูปทรงที่เป็นวงรีจะเข้ารูปกับใบหูมากกว่า อีกทั้งการออกแบบในลักษณะที่เป็นทรงรีจะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานฟีเจอร์เด่นอย่าง Active Noise-Cancelling และ Open-Listening Mode มากกว่าอีกด้วย

อย่างต่อมา เมื่อเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่กำลังเล่นเพลงจาก Apple Music, Spotify ด้วย Bluetooth ถ้าหากเราถอดหูฟังออก เพลงที่กำลังเล่นอยู่จะหยุดลงทันที และกลับมาเล่นใหม่อีกครั้งเมื่อสวมหูฟัง

พร้อมกันนี้หูฟังไฮเอนด์ของ Plantronics จะมาพร้อมกับ Bluetooth Class 1 ซึ่งตามสเปกของ Bluetooth Class 1 จะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ไกลสูงสุด 100 เมตร (เมื่อต่อกับ Bluetooth Class 1 ด้วยกัน) รวมถึงเรื่องของแบตเตอรีที่ Plantronics เคลมว่า ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (แต่ถ้าหากแบตเตอรีหมดก็ใช้สายออดิโอ 3.5 มม. ในการฟังเพลงได้)

การวางจำหน่ายและการรับประกัน

BackBeat Pro 2

การวางจำหน่ายในประเทศไทย มีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่เป็นสี Black and Tan วางจำหน่ายในราคา 7,890 บาท และสี Graphite Grey ตัวนี้จะพิเศษหน่อยตรงที่รองรับ NFC ในราคา 9,890 บาท สั่งซื้อได้ด้วยช่องทางออนไลน์ เช่น WeMall, Lazada และ 11 Street

แต่ที่เป็นจุดเด่นของ Plantronics คือ เมื่อทำการซื้ออุปกรณ์ทุกรุ่นของแบรนด์ Plantronics ถ้าหากซื้อในราคาเต็มจะได้รับสิทธิ์ประกันเพิ่มอีก 1  ปี รวมเป็น 2 ปี แต่ถ้าใช้สิทธิ์ส่วนลดจะได้เพิ่มแค่ 3 เดือนเท่านั้น