dtac ประกาศเปิดตัวอั้ม พัชราภา ในฐานะ ‘ผู้เล่าเรื่อง’ บอกเล่าประสบการณ์ใช้งานที่ดีกับ dtac
เป็นที่ฮือฮาทันทีที่ดีแทคดึงตัว Superstar อย่างอั้ม พัชราภา มาร่วมงานภายใต้แคมเปญ ‘ลื่น…จ้ะ’ ซึ่งก่อนหน้านี้เราแทบไม่ได้เห็นดีแทคใช้รูปแบบของพรีเซนเตอร์สักเท่าใด โดยการมาของอั้ม จะมาในฐานะคนเล่าเรื่องเพื่อแสดงความลื่นไหลในสัญญาณของดีแทค
‘อั้ม’ กับภาพลักษณ์ผู้เล่าเรื่องของ dtac
การร่วมงานระหว่างอั้มและดีแทคในครั้งนี้ นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ดีแทค เปิดเผยว่า อั้มไม่ได้ร่วมงานกับดีแทคในฐานะ Brand Presenter แต่มาร่วมงานในเชิง Storyteller กล่าวคือ อั้มจะทำหน้าที่ในการเล่าเรื่องในมุมของผู้ใช้งานจริงว่า ประสบการณ์กับเครือข่ายดีแทค อั้มชอบในการใช้งานอย่างไร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ผลิตภัณฑ์ใดที่อั้มเป็นพรีเซนเตอร์ อั้มใช้จริงทั้งหมด
โดยแคมเปญลื่น…จ้ะ ทางดีแทคจะใช้แคมเปญนี้ โปรโมทความลื่นไหลในสัญญาณดีแทคเป็นระยะเวลานาน 3 เดือน ใช้งบประมาณทั้งหมดราว 150 ล้านบาท
ทำไมต้อง ‘อั้ม พัชราภา’
การเลือกอั้ม พัชราภาในมุมของดีแทค สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะเนื่องจากอั้มมีความเป็น Superstar ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ อีกทั้งภาพลักษณ์ของอั้มก็เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ตรงไปตรงมา จนเป็นนักแสดงขวัญใจประชาชนที่ตอบโจทย์ทั้งคนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นอย่างดี
เท่านั้นยังไม่พออั้มยังสามารถเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานโซเชียลมีเดีย รวมถึงด้านความบันเทิงอย่างเกม ที่อั้ม ยอมรับว่าตัวเองก็ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ
Never Off-Line แนวคิดใหม่ของดีแทคในปี 2017
ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวของดีแทคในปี 2017 ก็ถือมีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะการชูแนวคิด Never Off-Line อันเนื่องมาจากการใช้งานสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชันในไทย โดยเฉพาะ Facebook และ YouTube มีการบริโภคที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก
นายลาร์ส นอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีแทค ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาดีแทคได้มีการทำ Application-optimization ระหว่างแอปพลิเคชันและเครือข่าย เพื่อให้การใช้งาน Facebook ไหลลื่นเป็นที่สุด โดยเฉพาะการมาของ Facebook Live ที่ใครๆ สามารถถ่ายทอดสดได้ และคนไทยก็ตอบรับกับฟีเจอร์นี้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวเลขของดีแทคระบุว่ามีการเติบโตถึง 150% เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันการใช้งาน ‘ออนไลน์‘ จนไม่สามารถ ‘ออฟไลน์’ ได้ของคนไทย ก็สอดคล้องกับต่างประเทศ เช่น การใช้งานบริการ Music Streaming และการใช้งานโทรศัพท์พื้นฐานที่กำลังแปรเปลี่ยนไปเป็นการโทรในรูปแบบ VoIP ซึ่งตัวเลขโตขึ้นถึง 200%
การพัฒนาเครือข่าย
พร้อมกันนี้ นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่
ในปีที่ผ่านมาดีแทคได้ขยายสถานีฐานสำหรับ Super 4G ไปแล้วมากกว่า 15,000 สถานีฐาน และสัญญาณภายในอาคารกว่า 200 แห่ง รวมถึงการนำสัญญาณไวไฟทั่วโลกให้เป็นสัญญาณของดีแทคภายใต้ฟีเจอร์ WiFi Calling ก็ถือเป็นการพัฒนาด้านเครือข่ายอีกขั้นของดีแทคเพื่อตอบรับการใช้งานสมาร์ทดีไวส์ และ Mobility Life ของผู้บริโภคนั่นเอง
dtac WiFi Calling รายแรกในไทย ที่ทำให้คุณโทรศัพท์ผ่าน WiFi ได้จากทุกที่ทั่วโลก
กด Like เพจเพื่อติดตามข่าวสาร