ในช่วงก่อนสิ้นปี 2016 มีการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรานั่นคือ Nubia
ทันทีที่ก้าวเข้ามายังสยามประเทศ Nubia จัดการส่ง 4 สมาร์ทโฟนเข้าทำตลาดทันที ประกอบไปด้วย Z11, Z11 Max, Z11 mini และ Nubia N1 หลังจากนี้เป็นต้นไปเราคงมีโอกาสได้ยินชื่อของแบรนด์นี้มากขึ้น
ที่สำคัญเวลานี้สมาร์ทโฟนที่จัดอยู่ในระดับไฮเอนด์อย่าง ‘Nubia Z11’ ก็อยู่ในมือ Mobiledista แล้ว
ส่วนรายละเอียดและความน่าสนใจของรุ่นนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามกันได้เลยครับ
อ่านเพิ่มเติม:
Nubia พร้อมให้บริการช็อปปิ้งสมาร์ทโฟน Z11, Z11 Max, Z11 mini, N1 ผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว
Nubia มาถึงไทยแล้ว ส่ง 4 รุ่น Z11, Z11 Max, Z11 mini, N1 ลุยตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทยเต็มสูบ
การออกแบบ: โลหะทั้งแท่ง งานประกอบที่แน่นหนา
อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดี การออกแบบสมาร์ทโฟนยุคปัจจุบัน ถ้าจะเรียกตัวเองว่าเป็นไฮเอนด์นั้น ต้องใช้ ‘โลหะ’ เป็นวัสดุประกอบงาน ซึ่งรุ่นนี้ก็ใช้วัสดุเป็นโลหะตามสมัยนิยม
แต่สิ่งที่มีความแตกต่างด้านใช้โลหะนั้น ผมคิดว่า มีสิ่งที่น่าสนใจด้วยกัน 2 ส่วน ส่วนแรกก็คือ การประกอบงาน ตัวเครื่องมีความแน่นหนาเป็นอย่างมาก ถ้าได้ลองสัมผัสจะเข้าใจเลยว่า ตัวเครื่องประกอบส่วนของโลหะได้ดี อีกอย่างหนึ่งจะเป็นเรื่องของการเลือก Colour Code ที่ผมค่อนข้างชอบ เพราะสีเทาตัวเครื่องเป็นสีเทาที่สวย สามารถถือแล้วใช้งานได้ และยังเป็นสีที่ดูแล้วไม่ล้าสมัย
พร้อมกันนี้ยังมีส่วนที่ผมชอบ ก็คือ การจัดวางความกว้างของตัวเครื่องที่ทำออกมาไม่ให้บานออกข้างมากเกินไป ด้านกว้างจะมีขนาด 72.3 มม. ทำให้เมื่อถือตัวเครื่องแล้ว สอดรับเข้ากับอุ้งมือเป็นอย่างดี
ด้านหลังตัวเครื่อง จะมีพื้นที่วงกลมสำหรับสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งใช้เวลาในการปลดล็อกค่อนข้างเร็ว อีกทั้งยังสามารถปลดล็อกได้ในกรณีที่หน้าจอปิดอยู่ ก็สามารถใช้นิ้วชี้ปลดล็อกได้ทุกเมื่อทุกเวลา
ด้านล่างสุดของตัวเครื่องจะมีลำโพง ซึ่งน่าเสียดายว่า ถ้าหากเราฟังเพลง ดูหนัง หรือวิดีโอจาก YouTube เสียงค่อนข้างจะเบา จำเป็นที่สุดก็คือหูฟังครับ ที่จะช่วยให้การรับสัมผัสจากวิดีโอชัดเจนที่สุด
ด้านข้างตัวเครื่อง ทางขวาจะเป็นปุ่ม Rocker และปุ่ม Power On/Off ซึ่งการจัดวางสองปุ่มนี้ผมรู้สึกว่า มันใกล้เกินไปสักหน่อย ทำให้การใช้งานบางครั้งอาจใช้งานผิดวัตถุประสงค์ เช่น ต้องการลดเสียงก็จะเผลอไปกดปุ่ม Power On/Off เป็นบางครั้ง
หน้าจอแสดงผล: จอสวย คม ชมจากใจ
บนขนาดจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD แน่นอนว่า ความละเอียดหน้าจอระดับนี้ สามารถใช้งานมัลติมีเดียได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ ดู YouTube ที่ความละเอียด 1080p ถือว่าเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากๆ
แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย คือ จอภาพจัดว่าคมมากๆ (403 ppi) ทั้งเรายังสามารถปรับแสง ปรับความสว่างหน้าจอให้ได้ตรงใจเรามากที่สุดจากหน้า Setting
จากภาพผมลดระดับลงมาจาก Natural ไปยังฝั่ง Cool เพื่อให้ภาพดูเย็นๆ ตาสักหน่อย แล้วปรับ Saturation เป็น Soft อีกสักนิดนึงก็ถือว่าโอเคแล้วครับ
พร้อมกันนี้ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบสมาร์ทโฟนที่มีขอบจอ (Bezel) บางมากๆ รุ่นนี้น่าจะเป็นอะไรที่ตรงใจคุณมากที่สุดแล้ว เพราะตัวเครื่องแทบจะไม่มีขอบจอ และตรงขอบจอที่ว่านี้ ยังมีฟีเจอร์สำคัญมากๆ ที่จะกล่าวถึงต่อไปด้วยครับ
Edge Gesture: ทีเด็ดสุดว้าว
เมื่อพูดถึงหน้าจอแล้ว ต้องไม่ลืมอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องพูดถึง และต้องขีดเส้นใต้สิบครั้งว่า นี่คือไฮไลท์สำคัญของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ นั่นคือ ฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Edge Gesture
ฟีเจอร์ Edge Gesture คือ ฟีเจอร์ที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากขอบจอในการสั่งงาน เช่น ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้เลื่อนเลื่อนขึ้นบน-ล่างพร้อมกัน เพื่อปรับความสว่างหน้าจอ, ใช้ขอบจอด้านขวาปาดขึ้นบนเพื่อเคลียร์แอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว, แตะสองครั้งที่ขอบจอด้านซ้ายแทนปุ่ม Back ซึ่งผมคิดว่า Nubia น่าจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่ใช้ประโยชน์จากขอบจอได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด
ปล.ในวิดีโอสกรีนช็อตจะมีเสียงดังแทรกครับ
Hardware: จัดเต็ม
เวลานี้ Nubia Z11 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีรุ่นเดียวคือ RAM 6GB และ ROM 64GB สบายใจหายห่วงเลยว่าใช้งานได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องมีกังวลใจ ร่วมด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 820 ที่การันตีเรื่องการใช้งาน การรองรับเรื่องเกม ได้อย่างไม่มีตกหล่น
ส่วนเรื่องของแบตเตอรีที่ตัวเครื่องให้มาที่ 3,000 mAh หลังจากที่ลองใช้งานสักระยะ ถือว่าแบตทน ถึกทีเดียว ทนมือทนไม้จากการใช้งานแอปพลิเคชันหนักๆ เช่น การแชต อีเมล YouTube ดูซีรีส์ได้เกือบๆ 12 ชั่วโมง แต่ถ้าเล่นเกมก็จะลดหลั่นลงมาหน่อย แต่ก็อยู่ในระดับเพียงพอต่อการใช้งาน 1 วันครับ
Interface: ยังไม่ค่อยโดนใจ
ภาพรวม ค่อนข้างประทับใจ Nubia Z11 มากทีเดียว แต่ก็มีตะขิดตะขวงใจสักหน่อย นั่นคือ การออกแบบอินเตอร์เฟส ที่มีทิศทางการออกแบบไม่ชัดเจน เช่น อินเตอร์เฟสบางส่วนเป็นทรงกลม อีกอันหนึ่งเป็นสี่เหลี่บมอีกทั้งการออกแบบอินเตอร์เฟสก็ดูเป็นการ์ตูนไปสักหน่อย ทำให้ผู้ใช้งานที่เริ่มมีอายุมากขึ้น (เช่นผม) ใช้งานตัวเครื่องแล้วรู้สึกว่ามันขัดๆ ชอบกล
แต่สิ่งที่ชอบก็มีเหมือนกันนะครับ เช่น การปาดหน้าจอจากล่างขึ้นบน จะเป็นการแบ่งหน้าจอออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งจากที่ลองใช้งานแล้ว พบว่าแอปพลิเคชันที่ผมใช้งานเป็นประจำ รองรับการใช้งาน 2 หน้าจอหมดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
กล้องถ่ายภาพ: ถ่ายชัด คมกริบ
บนความละเอียดพิกเซลที่ 16 ล้านพิกเซลถือว่าเป็นกล้องถ่ายภาพที่น่าประทับใจทีเดียวครับ โดยรวมภาพที่ให้มีความคมชัด เก็บดีเทลได้ดี พร้อมสีสันที่ทำให้ภาพดูสวยงาม แต่ก็อาจจะมีข้อติเล็กน้อย นั่นคือ เรื่องของอินเตอร์เฟส (ขออนุญาตพูดถึงอีกครั้ง) ที่มีลักษณะคล้ายกับ iOS จนเกินไป
เมื่อมีส่วนติ ก็มีส่วนที่ดีตามมา เพราะในจุดที่มีอินเตอร์เฟสคล้าย iOS นั้น เราจะได้เห็นลูกเล่นการถ่ายภาพที่มีมากมายเหลือเกิน เช่น multiple exposure การถ่ายภาพซ้อน โหมด Slow Shutter, โหมด Star Track สำหรับการถ่ายภาพดวงดาว, โหมด Clone Camera ที่จะเปิดโอกาสให้เรานำส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพมารวมกัน กลายเป็นภาพใหม่ รวมถึงยังรองรับไฟล์ raw DNG (Digital Negative File)
นอกเหนือจากนี้ หากคุณชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่ ก็ยังสามารถสามารถใช้ปุ่มสแกนลายนิ้วที่อยู่ด้านหลังเป็นตัวชัตเตอร์ได้เลยครับ
สเปกเครื่อง
- ชิปประมวลผล Snapdragon 820
- ชิปกราฟิก Adreno 530
- RAM 6GB + ROM 128GB
- รองรับ microSD สูงสุด 200GB
- ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD มีขอบกระจก 2.5D
- รองรับ Quick Charge 3.0
- กล้อง 16 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ IMX298) มี OIS/PADF และ f/2.0
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี 3,000 mAh
- มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง
บทสรุป
ในภาพรวมแล้ว Nubia Z11 เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีรุ่นหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ด้านการทำราคาวางจำหน่าย 15,990 บาท ก็จัดว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเกินไปนัก เมื่อเทียบกับลูกเล่นที่ยังไม่มีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ใดใช้ประโยชน์จาก Edge Screen ได้เป็นประโยชน์เท่า Nubia
ขณะเดียวกันงานประกอบตัวเครื่องก็ทำได้น่าประทับใจ กล้องถ่ายภาพก็มีคุณภาพที่ดี อาจจะมีข้อคลางแคลงใจอยู่บ้างในการใช้อินเตอร์เฟสที่คล้าย iOS และอินเตอร์เฟสของแอปพื้นฐานที่ยังดูไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่
แต่โดยพื้นฐานแล้ว Nubia ทำสมาร์ทโฟนไฮเอนด์รุ่นนี้ออกมาได้ดีมากแล้ว เหลือแค่ว่าจะมีกลยุทธ์ทางการตลาด พร้อมการสร้างความรับรู้ของแบรนด์ที่มีต่อผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน เพราะนั่นคือส่วนที่จะเติมเต็มที่สมบูรณ์ที่สุด