Lazada

Xperia X Performance Review: รีวิวจุดเด่น/จุดด้อย Xperia X Performance

Xperia X Performance
Xperia X Performance สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่สุดของ Sony

Xperia X Performance สมาร์ทโฟนระดับเรือธงของ Sony ที่พร้อมคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพ ขนาดตัวเครื่อง การพกพาที่เหมาะสม รวมถึงการดีไซน์ที่พรีเมียมอย่างเห็นได้ชัด


อย่างที่ทราบกันนะครับว่า ในปี 2016 จัดว่าเป็นปีที่ Sony มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการเปลี่ยนชื่อรุ่น จากเดิมที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Xperia Z Series แปรเปลี่ยนมาเป็น X Series ที่มีการปรับโฉมด้านการออกแบบ รวมถึงแนวความคิดการในการถ่ายภาพ

โดยสมาร์ทโฟน X Series ของ Sony ประกอบไปด้วย Xperia XA, Xperia XA Ultra, Xperia X และรุ่นที่เราจะรีวิวในบทความนี้คือ Xperia X Performance
img_2205 img_2206 img_2213 img_2217

หลังจากที่ได้มีโอกาสทดลองใช้งาน Xperia X Performance สักระยะหนึ่ง ยอมรับว่าในบรรดาตระกูล Xperia X ที่ได้ลองใช้งานมา ไม่ว่าจะเป็น Xperia X, Xperia XA หรือกระทั่ง Xperia XA Ultra ไม่มีรุ่นใดเลยที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีเท่า Xperia X Performance โดยมีเหตุผลดังนี้ครับ

สิ่งที่ชอบใน Xperia X Performance

1. ขนาดหน้าจอ

Xperia X Performance

ความน่าสนใจของ Xperia X Performance อย่างแรกเลยก็คือเรื่องของขนาดหน้าจอ ซึ่งรุ่นนี้มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 5 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งานสมาร์ทโฟนเวลานี้ (ความเห็นของผู้เขียน)

Xperia X Performance

ด้วยขนาดหน้าจอ 5 นิ้วทำให้การใช้งานด้วยมือเดียวนั้นทำได้อย่างง่ายดาย การหยิบจับ ถือ ประคอง ระหว่างการใช้งานถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นที่ใหญ่กว่านี้ ซึ่งอาจจะรวมถึง Xperia XA Ultra ด้วย นี่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งาน Xperia X Performance เลยก็ว่าได้

2. การออกแบบ

img_2204

img_2199

img_2206

ถ้าหากเปรียบเทียบวัสดุการประกอบงานของ Xperia XA หรือ Xperia X แล้วสิ่งหนึ่งเลยที่ทำให้ Xperia X Performance น่าสนใจกว่าก็คือ วัสดุประกอบงาน ซึ่งในรุ่นท็อปสุดนี้ จะใช้โลหะ ซึ่งแน่นอนว่า การใช้โลหะย่อมทำให้ตัวเครื่องมีความพรีเมียม ดูหรูหรามากขึ้น ซึ่งแตกต่างจาก Xperia XA ที่เป็นพลาสติก และอาจจะรวมถึง Xperia Z ที่ใช้กระจก

ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ด้านหลังของตัวเครื่องที่นอกจากจะเป็นโลหะแล้ว ยังมีการทำให้ผิวสัมผัสด้านหลังเป็นแบบหยาบ ไม่ได้ทำเป็นผิวเรียบ ตรงนี้มีประโยชน์ในการแง่ของการใช้งาน ทำให้การสัมผัส การถือเกิดความถนัดมือ ลดโอกาสที่มือถือจะร่วงหล่นได้ง่าย

อย่างไรก็ดี ผิวสัมผัสด้านหลังของ Xperia X Performance อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานสักหน่อย เนื่องจากว่า ผิวของโลหะไม่ได้ออกแบบมาแข็งแกร่งขนาดนั้น สามารถเกิดรอยถลอก รอยขูดได้

3. ระบบ Theme 

xperia-x-performance_theme

สิ่งที่น่าสนใจอย่างที่ 3 ก็คือ เรื่องของ Theme แม้ว่าระบบ Theme ของ Xperia X Performance สามารถใช้งานได้ Xperia X รุ่นอื่นๆ แต่ถ้ากล่าวถึงในภาพรวมแล้วระบบ Theme ของ Sony มีการพัฒนาการที่ดีมาก

เท่าที่สังเกตใน Theme Store ของ Sony ยอมรับเลยว่า Sony ได้พัฒนาตัวเลือก Theme ที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นของฟรี หรือเสียเงิน ล้วนแต่มี Theme สวยๆ น่าสนใจทั้งสิ้น ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งกว่าตอนที่เป็น Xperia Z ที่ระบบ Theme ยังไม่ได้พัฒนามากนัก

*อย่างไรก็ตามระบบ Theme ที่ว่านี้ มีให้ใช้งานในสมาร์ทโฟน Xperia X ทุกรุ่น

4. ระบบ Recommend App

xperia-x-performance_recommend-app

อย่างที่ 4 ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ User Interface ได้มีการพัฒนาขึ้นมาให้มีความน่าใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะการใส่ฟีเจอร์ recommend app ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเป็นการแนะนำแอปพลิเคชันที่น่าสนใจมาให้ผู้ใช้งานได้ลองเลือกดาวน์โหลด รวมถึงตรงแถบด้านบนจะมีช่องเสิร์ช เอาไว้สำหรับเสิร์ชแอปพลิเคชันที่ต้องการดาวน์โหลด โดยช่องเสิร์ชนี้จะรีโมทต่อไปยัง Play Store ประหนึ่งเป็น Shortcut ไปยังหน้า Play Store แล้วพร้อมดาวน์โหลดได้ทันที

ถึงกระนั้น ผมคิดว่าระบบ Recommend App ยังต้องการพัฒนาขึ้นอีกเยอะ เนื่องจากว่า การแนะนำแอปพลิเคชัน จะแนะนำเฉพาะแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงๆ ใน Play Store เท่านั้น มิได้คัดสรรมาจากความต้องการของผู้ใช้เลย

ถ้าจะให้ดีที่สุด ผมคิดว่าควรจะแนะนำแอปพลิเคชันที่อ้างอิงจากแอปพลิเคชันในเครื่อง ผ่าน machine learning ในการคัดกรองแอป แล้วส่งมอบแอปพลิเคชันที่น่าสนใจมายังในส่วนของอินเตอร์เฟสน่าจะเป็นการดีมากกว่า ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่า Sony จะพัฒนาไปถึงจุดนั้นหรือไม่

xperia-x-performance-homescreen

ขณะเดียวกันเรื่องของการพัฒนา User Interface ของ Sony ก็ถือว่าดีขึ้นมีความสวยงาม แล้วก็เรื่องความหน่วงก็หายไป ใช้งานได้ค่อนข้างลื่นไหลทีเดียว รวมถึงสีสันที่ได้จากธีมถือว่าลงตัวมากครับ

5. การถ่ายภาพ

Xperia X Performance Camera

ครั้งหนึ่งที่ Sony ยังชูผลิตภัณฑ์ในตระกูล Xperia Z จำได้ดีเป็นอย่างยิ่งกว่า สมาร์ทโฟนของ Sony เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ยากเอามากๆ ไม่ว่าจะใช้งาน Auto Mode หรือ Manual Mode

แต่ว่าพอเป็น Xperia X Series ยอมรับว่า Sony มีการปรับปรุงส่วนนี้ได้ดีขึ้น ซึ่งผมสังเกตตั้งแต่เมื่อครั้งรีวิว Xperia XA แล้วว่า Sony มีการปรับโหมด Auto รวมถึง Manual Mode ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

โดย Xperia X Performance จะมาพร้อมกับ scene mode ที่มีการปรับเปลี่ยนอัตโนมัติ เช่น เมื่อเราอยู่ใกล้วัตถุ ระบบภายในก็จะเปลี่ยนเป็นโหมด macro เป็นต้น

ส่วน Manual Mode นั้น น่าเสียดายที่ปรับได้เฉพาะในส่วนของ White Balance แต่จากที่ลองมาก็ถือว่า ทำได้ดีทีเดียว

โหมดกล้อง

ภาพถ่าย Xperia X Performance

6. อื่นๆ 

Xperia X Performance Daul SIM

นอกเหนือจากนี้แล้ว สิ่งที่น่าสนใจของ Xperia X Performance คงเป็นเรื่องของการรองรับ 2 ซิม แบบ Hybrid Slot เพราะถือว่าตอบโจทย์การใช้งานของคนไทย ที่นิยมการใช้งาน 2 ซิม แต่ถ้าหากไม่ต้องการใช้ซิมที่สอง ก็สามารถเปลี่ยนเป็น microSD แทน

xperia-x-performance-dual-sim

ขณะเดียวกัน Xperia X Performance รองรับในเรื่องของ Carrier aggregation แบบ 3CA และ Dual Standby คือใช้งาน 4G ในซิมนึง ส่วนอีกซิมนึงยังรองรับ 3G

ต่อมาก็คือ มาตรฐานกันน้ำ IP68 อันถือว่าเป็นจุดเด่นตั้งแต่ Xperia Z รุ่นแรก จนกระทั่งมาถึง Xperia X Performance อย่างไรก็ดี สิ่งที่อยากย้ำเตือนก็คือว่า ความสามารถการกันน้ำ ควรที่จะใช้งานเฉพาะกรณีฉุกเฉิน เช่น โดนฝน โดนละอองน้ำ มากกว่าที่จะเอาไปใช้งานแบบลุยๆ สมบุกสมบัน เพราะมันไม่เข้าข่ายการรับประกันนั่นเอง

xperia-x-performance_battery

ทางด้านของแบตเตอรี บนความจุ 2,700 mAh ผมได้ปรับความสว่างหน้าจอราวๆ 50% พร้อมการเชื่อมต่อ WiFi และ 4G ในช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ในบ้านหรือห้างสรรพสินค้า แบตเตอรีถือว่าพอไหวนะครับ เฉลี่ยราว 8 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Stamina Mode แต่ถ้าหากใช้งานหนักๆ เช่น การเล่นเกม ก็จะหลดหลั่นกว่านั้นลงไปครับ

แต่โดยปกติแล้วผมจะใช้งานหลักๆ แค่การแชต ตอบอีเมลงาน ใช้ Chrome Browser ในการท่องเว็บ ไม่ได้ดู YouTube หรือ Video-on-demand โทรออก/รับสาย ก็เลยเหลือพอใช้งานระดับหนึ่งวัน

Xperia X Performance

สุดท้ายก็คือ เรื่องของสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งถือว่าตอบสนองการปลดล็อกที่ค่อนข้างไว แล้วก็มีการดีไซน์ปุ่มสำหรับสแกนลายนิ้วมือ (และเป็นปุ่ม Power On/Off ในตัว) ได้สวยงามกว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นๆ

จุดด้อยของ Xperia X Performance

ที่กล่าวมาทั้งหมด ยอมรับว่าเป็นสิ่งชอบเป็นอย่างมากใน Xperia X Performance

แต่ถึงกระนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากว่า ทาง Sony ตั้งราคาสมาร์ทโฟนรุ่นนี้แพงไปสักหน่อย โดยเฉพาะการตั้งราคาตัวเครื่องไว้ที่ 25,990 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่แรงเอามากๆ

ในประเด็นนี้เมื่อเรามองถึงยุคที่คู่แข่งบนตลาดสมาร์ทโฟนที่ความสามารถไล่เลี่ยกัน แต่สามารถควบคุมราคาได้ถูกกว่า มันยิ่งทำให้เป็นจุดตัดที่ผู้บริโภคอาจหันเหไปยังแบรนด์อื่นได้โดยง่าย ถึงแม้ว่า Xperia X Performance จะเป็นรุ่นที่น่าสนใจก็จริง แต่เมื่อป๊ะเข้ากับราคาที่แพงเช่นนี้แล้ว ก็อาจทำให้เกิดอาการชวนสะอึกกับราคาได้เลย

สเปกเครื่อง Xperia X Performance 

  • ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด Full HD
  • กันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IP68
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 820
  • RAM 3GB
  • กล้องหลัง 23 ล้านพิกเซล, f/2.0, มี phase detection autofocus, LED flash
  • กล้องหน้า 13 พิกเซล, f/2.0
  • รองรับ Quick Charge 2.0
  • มีสแกนลายนิ้วมือ
  • แบตเตอรี 2700 mAh
  • Android 6 Marshmallow พร้อมอัปเดทเป็น Nougat

รีวิวสมาร์ทโฟน Sony ที่น่าสนใจ