Lazada

5 สิ่งที่ Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่า iPhone 6 Plus

ปีนี้ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Note 5 เร็วกว่าไทม์ไลน์เดิมเล็กน้อย จะเป็นเพราะอะไรนั้นไม่สำคัญเท่าที่ว่า Galaxy Note 5 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ทำให้แฟนคลับตระกูล “Note” เป็นเจ้าของ Galaxy Note 5 ได้เร็วขึ้น อันที่จริง Galaxy Note ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนสายแฟ็บเล็ตที่มีความน่าสนใจมากอยู่เป็นทุนเดิม สืบเนื่องยาวนานตลอด 4 รุ่นที่ผ่านมา  แน่นอนว่าการกลับมาของรุ่นใหม่ “Galaxy Note 5” ก็คงหลีกเลี่ยงที่จะเทียบกับผู้เล่นหน้าเก่าอย่าง iPhone 6 Plus ไม่ได้

Note-5_1

First Impression Galaxy Note 5 vs iPhone 6

ทั้ง iPhone 6 Plus และ Galaxy Note 5 จัดอยู่ในกลุ่ม Phablet Phone อันมีความหมายรวมถึงสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่เกินกว่า 5 นิ้วขึ้นไป ทีแรก iPhone ไม่เคยคิดจะจับตลาดนี้ ก่อนที่จะหันมาเริ่มพัฒนาอย่างจริงจังจนกระทั่งเกิดเป็น iPhone 6 Plus ขี้นมา ส่วน Galaxy Note 5 หากย้อนความเดิมกลับไป Galaxy Note รุ่นแรกก็มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่อยู่ก่อนแล้ว เสริมทัพด้วยสไตลัสอย่าง S Pen ที่ทำให้ประสบการณ์ระหว่างสมาร์ทโฟนกับสไตลัสเกิดความลงตัว

Note-5_2

ความน่าประหลาดใจอย่างหนึ่งของ Phablet สองรุ่นนี้ นั่นคือ Galaxy Note 5 ถือกำเนิดจากบล็อกแท่นพิมพ์ที่ขนาด 5.7 นิ้ว แต่กลับสามารถทำขนาดตัวเครื่องของตัวเองให้เล็กกว่า iPhone 6 Plus ที่มีขนาด 5.5 นิ้วได้ ตรงนี้มันบอกได้ถึงความเหมาะกระชับมือในการใช้งานอย่างแน่ชัด ซึ่งตรงนี้มีความสำคัญต่อการใช้งานชีวิตประจำวัน เพราะในวันหนึ่งๆ เราต้องสัมผัสกับสมาร์ทโฟนเกินกว่าที่จะนับครั้งได้ การรวมเป็นหนึ่งระหว่างมือและสมาร์ทโฟนจับเป็นต้องประสานกันให้เกิดความลงตัว เกินกว่านี้คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ มันอาจส่งผลต่ออุบัติเหตุไม่คาดฝัน

สัมผัสที่สองที่เกิดขึ้นจากการได้สัมผัส Galaxy Note 5 นั่นคือ ความโค้ง สิ่งนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ใหม่ที่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟน เพราะก่อนหน้านี้เรามีโอกาสได้เห็น Galaxy Note Edge ไปจนถึง Galaxy S6 edge แต่คำถามคือ ทำไมต้องจอต้องโค้งด้านหน้า? ด้านหลังมิได้หรือ? ซึ่งคำตอบของ Galaxy Note 5 ตอบว่าได้ การสร้างความโค้งด้านหลังตัวเครื่องทำให้ Galaxy Note 5 ทำให้ตัวเองเกิดความแตกต่างจากรุ่นอื่น อีกทั้งความโค้งที่อยู่ด้านหลังเข้าไปเสริมกับส่วนโค้งที่รายล้อมอยู่รอบตัวเครื่องทำให้เกิดการสอดรับระหว่างการสัมผัสกับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี และด้วยตัววัสดุที่มีความหรูหราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะช่วยยกระดับตัวเครื่องให้ดูมีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น ยิ่งการสร้างลูกเล่นด้วยฟิล์มที่ถูกฉาบอยู่ด้านหลังตัวเครื่องเมื่อมีแสงตกกระทบทำให้สีของตัวเครื่องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของแสง ถือเป็นกิมมิคที่น่าสนใจ

Balance Work and Play

ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนคือแหล่งรวมของทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่การเช็กอีเมล ดูตารางนัดหมาย อ่านข่าวสดใหม่จากสำนักข่าวระดับโลกด้วยแอปพลิเคชัน เป็นเครื่องมือวัดสุขภาพ เป็นแหล่งรวมความบันเทิงทั้งที่เป็นวิดีโอคลิป ทั้งยังเป็นช่องทางการสื่อสารกับคนทั้งโลก ซึ่งสมาร์ทโฟนทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น Note 5, iPhone 6 Plus หรือรุ่นอื่นๆ จะสามารถตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้หมด แต่จุดต่างทั้งหมดนี้อยู่ที่ S Pen และแอปพลิเคชันที่พัฒนาเพื่อรับกับ S Pen รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Note 5

Note-5_3

ปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ การทำงานที่หลากหลายกลายเป็นสิ่งที่เราถูกเวลา หน้าที่การงานเร่งให้เกิดรูปแบบของ Multitasking ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของ Note 5 ที่เราสามารถแบ่งหน้าจอสมาร์ทโฟนออกมาเพื่อการทำงานที่รวดเร็วลื่นไหล เช่นจะเช็กอีเมลพร้อมกับแผนที่เพื่อค้นหาปลายทางสำหรับการประชุม หรือคุยกับลูกค้าก็ทำได้ทันที

หรือถ้าการทำงานในแต่ละวันเราพบเจอกับความเคร่งเครียดมาพอแล้ว การพักผ่อนด้วยการฟังเพลง MP3 เพลงไฟล์ Lossless ความละเอียดสูงๆ หรือการดูคลิปดีๆ ใน YouTube ผ่าน Galaxy Note 5 พร้อมหน้าจอที่คมชัดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่น้อย

นอกจากนี้ใน Galaxy Note 5 ยังสร้างความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ อีกขั้นหนึ่งด้วยการเพิ่มโหมดสำหรับการถ่ายภาพอย่างน่าตะลึงตาตะลึงใจ เช่น Selective Focus, Slow Motion และที่เพิ่มมาใหม่อย่าง Live Broadcast ทำให้การวิดีโอบรอดแคสต์ลง YouTube ทำได้อย่างสะดวกอีกด้วย

เหล่านี้ถือเป็นจุดตัดที่ Note 5 ทำได้ดีเหนือคู่แข่งที่ยังไม่มีทีเด็ดทีขาด

อย่างไรก็ตามจุดบอดของ Galaxy Note 5 และสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอนดรอยด์ที่ยังเป็นรองคงเห็นทีเป็นเรื่องของเกม ซึ่งเกมที่มีความน่าสนใจมักจะอิมพอร์ทลง iOS ก่อน

Privilege 

Note-5_5

นอกเหนือจากความสามารถเฉพาะตัวของ Galaxy Note 5 แล้ว ยังมีความน่าสนใจที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือ สิทธิพิเศษที่จะมาพร้อมกับ Note 5 นั่นคือ สิทธิในการใช้ Galaxy Gift และแอปพลิเคชันเจ๋งๆ จาก Galaxy App

อย่าง Galaxy Gift คิดว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันบ้างแล้วซึ่งแอปนี้ถือเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะซัมซุงโดยเฉพาะ โดยการนำไปใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้าราคาพิเศษ หรือแม้แต่รับบริการ เครื่องดื่ม อาหารฟรี จะมีเฉพาะที่ Galaxy Gift เท่านั้น

Note-5_4

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบใช้งานแอปพลิเคชันและอยากได้แอปที่สุดพิเศษที่หาที่ไหนไม่ได้ ต้องเข้าไปที่ Galaxy App เท่านั้น เพราะที่นี่จะมีแอปพลิเคชันที่ปกติแล้วจะต้องเสียเงินซื้อ ส่งมาเสิร์ฟให้ใช้งานฟรีๆ กันเลยทีเดียว เช่น ถ้าคุณชอบติดตามข่าวสารจากต่างประเทศ ใน Galaxy App จะมีนิตยสาร The Economist ให้ได้อ่านฟรี หรือข่าวสารด่วนที่ต้องติดตามจากหนังสือพิมพ์ New York Times ก็มีให้ครบถ้วนตามติดได้ทุกกระแส ซึ่งสิทธิเหล่านี้มีเฉพาะ Galaxy Note 5 และ Samsung Smartphone

Display

ต่อมาที่ต้องพูดถึงคือสเปกเครื่อง เป็นที่น่าสนใจว่า สมาร์ทโฟนฝั่งแอนดรอยด์มีการยกระดับความละเอียดหน้าจอคมชัดมากขึ้น ซึ่ง Galaxy Note 5 ผู้มาใหม่ มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด 2,560 x 1,440 พิกเซล แต่ขณะเดียวกัน iPhone 6 Plus ที่มีไซส์ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล iPhone ยังเริ่มต้นที่ 1080p

Note-5_6

ทั้งนี้ความละเอียดหน้าจอถือเป็นท่วงทำนองเดียวกับสเปกอื่นๆ ที่ฝั่งแอนดรอยด์ไปได้ไกลกว่าค่อนข้างมาก เช่น Galaxy Note 5 ยกระดับแรมที่มีมาเต็มเอี๊ยดถึง 4GB ซึ่งเป็นไปได้ว่าแรมส่วนที่เพิ่มมานี้เพื่อความลื่นไหลในการระมวลผลที่เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Note 5

ฟากฝั่ง iPhone 6 Plus ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยยังเลือกชิปประมวลผล Dual-Core พร้อมแรม 2GB ที่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งยังส่งผลดีในแง่การประหยัดพลังงานอีกด้วย และที่ไม่กล่าวไม่ได้เลย คือ การปรับแต่งระบบปฏิบัติการที่ทำให้สเปกระดับกลางของแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนยังทำงานได้ในระบบปฏิบัติการ iOS

อย่างไรก็ตามในส่วนนี้คงเป็นเรื่องที่ยากหากจะนำมาเปรียบเทียบ เพราะรูปแบบของชุดซอฟต์แวร์มีความต่างกันอย่างมาก

Stylus vs. Finger

ก่อนที่จะเข้าถึงช่วงสุดท้าย คงต้องบอกว่าสิ่งที่เป็นจุดตัดระหว่าง Galaxy Note 5 และ iPhone 6 Plus ก็คือเรื่องของ S Pen การมีอยู่ของ S Pen ถือว่าเป็นการยกระดับอรรถประโยชน์ของสมาร์ทโฟนได้อย่างชัดเจน ด้วยการมีอยู่ของ S Pen สามารถทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์ที่มีจำนวนหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อสารพันไอเดียทีเกิดขึ้นจากการพบเห็นระหว่างการเดินทาง จากการอ่านหนังสือ จากการพูดคุย ไอเดียทั้งหลายเหล่านั้น สามารถที่จะบรรจุอย่างรวดเร็ว พร้อมการแชร์เพื่อส่งต่อไอเดียต่างๆ ไปยังแอปพลิเคชันอื่นๆ เช่น Email Line Facebook Messenger เป็นต้น

Note-5_7

ที่สำคัญ Galaxy Note 5 ยังได้ยกระดับ S Pen ให้มีสมจริงกับการขีดเขียนด้วยปากกาบนหน้ากระดาษ เช่น ความเร็วของการเขียน ลายเส้น น้ำหนัก ซึ่งยังไม่นับรวมไปถึงฟังก์ชันใหม่ Screen off memo ทำให้การบันทึกเกิดขึ้นได้ฉับพลันโดยไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าจอ Note 5 แต่อย่างใด

Prices

สุดท้ายคือส่วนของราคา iPhone 6 Plus เริ่มต้น 28,900 บาท ฟากฝั่ง Galaxy Note 5 เริ่มต้น 25,900 บาท ด้วยราคาที่แตกต่างกัน 3,000 บาท แต่ต้องไม่ลืมว่าขนาดความจุเริ่มต้นของสองรุ่นนี้ก็ต่างกันด้วย เพราะ iPhone 6 Plus รุ่นต่ำสุดยังมีขนาดความจุแค่ 16GB เท่านั้น ส่วน Galaxy Note 5 เริ่มต้นที่ 32GB

Note-5_8

นอกเหนือจากนี้แล้ว หากพูดกันถึงเรื่องฟังก์ชันการใช้งานแล้ว ต้องยอมรับว่า Note 5 มีความหลากหลายกว่า และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ใช้งานได้จริง กอปรกับ S Pen ที่ถือว่าเป็นทีเด็ดทีขาดที่สร้างความแตกต่างระหว่าง Note 5 กับแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนรุ่นอื่น และ iPhone 6 Plus

ถึงจุดนี้แล้วการซื้อสมาร์ทโฟนครั้งต่อไปจะเลือกใช้นิ้วหรือใช้ได้ทั้งนิ้วใช้ได้ทั้งสไตลัสอย่าง S Pen อยู่ที่การตัดสินใจของคุณแล้วล่ะครับ……..