Lazada

13 ฟังก์ชันใหม่น่ารู้เกี่ยวกับแอนดรอยด์ 4.4 KitKat

Android-404-KitKat-Cover

เมื่อวานนี้กูเกิลเปิดตัว Nexus 5 และแอนดรอยด์ 4.4 KitKat อย่างยิ่งใหญ่ อลังการงานสร้าง ชนิดที่ว่า แฟนคลับของกูเกิลต้องอดตาหลับขับตานอน เพื่อรอดูการเปิดตัวในครั้งนี้ จนหลายคนบ่นเยอะมากว่า แทบจะไปทำงานสายเลยทีเดียว

…มันใช่ซะที่ไหนกันละ ในรอบนี้กูเกิลเปิดตัว Nexus 5 และ KitKat แอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่แบบไม่เชิญสื่อมาร่วมงานซะงั้น ซึ่งเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมกูเกิลถึงไม่จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

อ้าวแล้วแบบนี้เราจะรู้มั้ยเนี่ยว่า แอนดรอยด์ 4.4 KitKat มันมีอะไรใหม่? ไม่เป็นไรครับ Mobiledista เราจัดให้ครับ!

ก่อนอื่นต้องบอกว่า แอนดรอยด์ 4.4 KitKat มีอยู่ 2 ส่วน นั่นคือ ในส่วนของนักพัฒนา (Developer) และผู้ใช้งานทั่วไป (Comsumer) ซึ่งเราจะโฟกัสไปที่กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป 

สิ่งใหม่ๆ ที่มีเพิ่มขึ้นมา KitKat ถ้าว่ากันตรงๆ ก็คงไม่มีอะไรที่โดดเด่น ผิดแผกแหวกแนวอย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง แม้ว่ารหัสรุ่นจะเปลี่ยนจาก 4.3 เป็น 4.4 แต่ถ้าดูตามนี้ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกอะไรในเมื่อตัวเลขเวอร์ชันยังคงหยุดนิ่งที่เลข 4 การเปลี่ยนแปลงเลยเป็นแบบ Minor Change

Hi-Google

หากใครที่ได้ลองใช้งานแอนดรอยด์มาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็คงพอสังเกตได้ว่า ธีมพื้นฐานของแอนดรอยด์จะเป็นสีฟ้า (Halo Blue) มาโดยตลอด แต่รอบนี้ไม่ใช่ครับ กูเกิล-แอนดรอยด์ เปลี่ยนโทนสีมาเป็นแบบโปร่งแสงแทน ที่เห็นชัดที่สุดดูชัดๆ ได้เลยตรง notification bar ครับ

Hello-KitKat-404

ตอนที่ Moto X เปิดตัว คงจำกันได้นะครับว่า มีการสาธิการใช้งานด้วยเสียง เพียงแค่พูดว่า OK Google Now แล้วเราก็สั่งการผ่านเสียงได้เลย แต่ด้วยความที่บ้านเรายังไม่มี Moto X ให้ได้ใช้งาน เราก็ได้แต่รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ มันก็ไม่มีวางขายสักที เอาล่ะ ไม่เป็นไร ยังไงๆ nexus 5 มีขายแน่ๆ ยังไงเราก็ได้ใช้ รูปแบบการใช้งานไม่ต่างกัน คือ ใช้เสียงเหมือนกัน และต้องอยู่บนหน้าจอ Homesrceen หรือ Google Now จากนั้นก็ใช้เสียงของเราสั่งงานให้ Google Now มันทำงาน เสมือนเป็นลูกน้อง (เบ๊) ของเราคนหนึ่ง

Smart-caller-ID

จริงอยู่ที่ว่า ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผม หรือคุณผู้อ่าน มักใช้เดต้าอินเทอร์เน็ตมากกว่าการพูดคุยผ่านการโทรศัพท์ แต่ด้วยความที่มันยังเป็นโฟน (Phone) ฟีเจอร์เกี่ยวกับโทรศัพท์ก็ไม่ควรที่จะหยุดนิ่ง ซึ่งใน KitKat 4.4 นี้ กูเกิลได้มีการจัดเรียงความสำคัญของเบอร์โทรศัพท์ (Contact) ที่มีความสำคัญขึ้นมาแสดงผลไว้บนสุด เพื่อให้การโทรออกทำได้อย่างรวดเร็ว

ยังไม่พอ ผมกล้าเอาชื่อคุณปู่เป็นเดิมพันเลยว่า มือถือของเราทุกคนต้องเคยมีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามา ซึ่งบางทีพอเราเห็นเบอร์แปลกๆ ที่ไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้ ก็ไม่อยากจะรับสาย ตัวอย่างเช่นผมทุกๆ เช้าวันอังคารของทุกสัปดาห์ต้องมีบริษัทประกันเจ้านั้น เจ้านี้โทรมา ซึ่งความสามารถใหม่ใน KitKat จะมีส่วนที่เรียกว่า smarter caller ID ที่จะมีการประมวลผลว่า เบอร์แปลกๆ ที่โทรมาหาเรานี้ เป็นเบอร์ที่โทรมาจากบริษัท ห้างร้านไหน เพื่อแสดงผลบนหน้าจอสมาร์ทโฟน สรุปแล้วเบอร์แปลกที่โทรหาเราเป็นใคร ทีนี้การจะรับสาย-ไม่รับสาย คุณเลือกได้ครับ

Music-KitKat-404

พูดถึงด้านความบันเทิงกันบ้าง แม้ว่าปกติธรรมดาของสมาร์ทโฟนสาย Pure Google อาจไม่ได้มีลูกเล่นด้านเสียงเพลง หรือการรับชมภาพยนตร์มากนัก แต่รอบนี้ถูกยกระดับขึ้นมา ในแง่ของการฟังเพลงเช่นถ้าเรากำลังฟังเพลงผ่าน Google Music จะมีการแสดงคัฟเวอร์บนหน้าจอ เช่นเดียวกับ Chromecast ที่เราสั่งการจากสมาร์ทโฟนได้เลย

พร้อมกันนี้กูเกิลยังเคลมไว้ด้วยครับว่า มีโหมดสำหรับการฟังเพลงแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งเราสามารถฟังเพลงได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 60 ชม.

Cloud-Print-KitKat-404

อีกหนึ่งบริการที่หลายคนมองข้าม ก็คือ การใช้งานปรินท์เตอร์ รอบนี้แอนดรอยด์ 4.4 KitKat จะมีการบริการสั่งพิมพ์ผ่าน Cloud ฟังก์ชันการใช้งานก็เหมือนๆ กับที่เราใช้บนพีซีเลยครับ เราต้องการปริ้นท์ออกมากี่แผ่น ไซส์กระดาษแบบไหน จะปริ้นท์สีหรือขาวดำ หรือปริ้นท์แบบแนวตั้ง เอ๊ะแนวนอนน่าจะดีกว่า ซึ่งความสามารถด้านการพิมพผ่าน Cloud ผมเข้าใจว่า คงต้องเป็นเครื่องปริ้นท์รุ่นใหม่ๆ ที่รองรับกับระบบ Cloud ถึงจะใช้งานได้

immersive

มากันที่ความสามารถสุดท้ายที่จะพูดถึงกันในแอนดรอยด์ 4.4 KitKat เป็นเรื่องของประสบการณ์ในการใช้งาน ที่กูเกิลเรียกว่า immersive experience

ถ้าให้แปลตรงตัว คือ เจ้า immersive จะทำให้เราสามารถดื่มด่ำไปกับการใช้งานแอนดรอยด์แบบอารมณ์ไม่ค้าง ปกติการใช้งานสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จะไม่เป็นแบบ Full Screen จะมี notification bar หรือ Virtual Button ดักทางอยู่ทั้งด้านบน และด้านล่าง ซึ่ง immersive จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับการใช้งานหน้าจอแบบ Full Screen สักที คราวนี้เวลาเราเปิดแอปพลิเคชันพวกหนังสือ แผนที่ เล่นเกม หน้าจอเครื่องก็จะไม่มาเบียดเบียนพื้นที่การเสพย์คอนเทนต์ของเราแล้วอีกต่อไป

ความสามารถที่มีอยู่ในแอนดรอยด์ 4.4 KitKat ยังไม่หมดนะครับ มีอีกพอสมควรเลย แต่เพื่อความรวดเร็ว ขอสรุปเป็นข้อๆ เลยละกันครับ

  • มีเซ็นเซอร์สำหรับการนับก้าวการเดิน (Built-in pedometer)
  • Google Drive รองรับการเปิดไฟล์ บันทึกไฟล์บนสมาร์ทโฟนได้แล้ว
  • Google Keyboard รองรับการใช้ emoji
  • การใช้งาน Multitask ทำได้เร็วขึ้น
  • แอปพลิเคชัน SMS ได้ถูกยุบรวมไปอยู่ในแอปพลิเคชัน Hangout แล้ว
  • โหมดการถ่ายภาพ เพิ่มฟังก์ชัน HDR+
  • ฝังแอปพลิเคชัน ADM (Android Device Manager) สำหรับกรณีเครื่องสูญหายสามารถรีโมตลบข้อมูลได้ในระยะไกล

ส่วนเรื่องที่หลายคนสงสัยว่า แล้วแบบนี้แอนดรอยด์ 4.4 KitKat จะถูกปล่อยอัปเดทผ่านอุปกรณ์ที่เราถืออยู่ในเวลานี้ เช่น Nexus 7, Nexus 4, Galaxy S4 – HTC One Google Editionในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าครับ (in the coming week)

รายละเอียดเพิ่มเติมเชิญอ่านได้ที่ Android 4.4 KitKat