Asus ZenFone Max (ZC550KL) หนึ่งในซีรีย์ ZenFone ที่แตกลายเพิ่มคุณสมบัติให้แตกต่างจากรุ่นเดิม โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นเรื่องความจุแบตเตอรี่ ที่ให้มาถึง 5000 mAh นอกจากั้นยังสามารถชาร์จแบตให้กับมือถือเครื่องอื่นได้ ด้วยคอนเซ็ปท์ “โลกเหมือนสนามเด็กเล่นที่ยาวนานของคุณ พลังงานบนสมาร์ทโฟนที่มีไม่สิ้นสุด เพื่อให้ ZenFone Max เป็นเพื่อนของคุณที่มีพลังงานที่ไม่มีขีดจำกัด!”
ZenFone Max ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 410 แบบ 64 bit แรม 2GB / ซิมตามแบบฉบับ ZenFone ด้วยขนาดแบตที่ให้มากเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องพก Power Bank และยังเป้น Power Bank ให้เครื่องอื่นได้ด้วย
นอกจากนั้นยังรองรับ 4G LTE Cat4 โดยรองรับความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 150 Mbps ราคาค่าตัวของรุ่นนี้อยู่ที่ 6,490 บาท เท่านั้น
ข้อมูลสเปก ASUS Zenfone Max
Processor | 64-bit Qualcomm Snapdragon 410 (MSM8916) Quad-core 1.2 GHz |
GPU | Adreno 306 |
OS | Android 5.0 (Lollipop) with Brand-new ASUS ZenUI |
Display | 5.5-inches, 1280 x 720 (HD)IPS Display Corning Gorilla Glass 4 Anti-fingerprints coating |
Memory | 2 GB LPDDR3 RAM |
Storage | 16 GB ROM5 GB free lifetime ASUS WebStorage 100 GB Google Drive free space (2 years) |
Memory Slot | MicroSD card (up to 64 GB) |
Front Camera | 5 Megapixels f/2.0, 88-degree Wide-Angle lens, PixelMaster |
Rear Camera | 13 Megapixels, f/2.0 PixelMasterLaser Auto-focus Dual color real tone LED flash |
ConnectivityTechnology | WLAN 802.11 b/g/n Micro USB support OTG Bluetooth V4.0+EDRSIM1 Support 2G/3G/4G SIM2 Support 2G/3G/4G Dual SIM Dual Stand By |
Network Standard | 4G : FDD-LTE: 2100MHz(1)/1900MHz(2)/1800MHz(3)/850MHz(5)/ 2600MHz(7)/900MHz(8)/800MHz(20) 3G : WCDMA : 850MHz(5)/900MHz(8)/1900MHz(2) /2100MHz(1) 2G : EDGE/GPRS/GSM: 850/900/1800/1900 |
Battery | 5000 mAh Li-Polymer non-removable battery |
Audio Slot | 3.5mm audio jack |
Sensor | Accelerator/E-Compass/Proximity/Ambient Light Sensor/Hall Sensor |
Navigation | GPS, GLONASS, AGPS, BDS |
Weight | 202g (with battery) |
Dimensions | 77.5 x 156 x 10.55mm (WxDxH) |
Accessories | OTG Cable |
Color | Osmium Black, Pure White |
สำรวจตัวเครื่อง
หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 720p ใช้กระจกกันกระแทก Gorilla Glass 4 หากหน้าจอเป็น Full HD จะดีมาก ตัวกล้องหน้าให้มา 5 ล้านพิกเซล รูรังแสง f/2.0 ตัวกล้องเป็นมุมกว้าง 88 องศา พร้อม PixelMaster ส่วนปุ่มกดเป็นแบบสัมผัสจำนวน 3 ปุ่ม
ด้านล่างของตัวเครื่องเป็นช่องต่อ micro USB 2.0 พร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนา
ด้านบนเป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม.
ตัวเครื่องหนา 5.2 มิลลิเมตร แต่ด้วยความจุแบตที่ให้มาถึง 5000 mAh จึงทำให้ตัวเครื่องหนักถึง 202 กรัมเลยทีเดียว
ZenFone Max ให้แบตเตอรี่ lithium-polymer มาถึง 5000mAh แบตอึด เพียงพอที่จะอยู่ได้ 2-3 วันเลยทีเดียว และยังสามารถช่วยชาร์จอุปกรณ์อื่นๆได้ด้วย โดยต้องใช้สาย USB OTG ต่อก่อน (ชื่อจริงๆ คือ USB OTG Reverse Charge) แล้วค่อยใช้สายชาร์จปกติต่อจากสาย USB OTG อีกที ตอนซื้อเครื่องจะมีสาย USB OTG Reverse Charge แถมมาให้ครับ
นอกจากนั้นยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ไอทีได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต กล้องดิจิตอล หรือจะเป็นอุปกรณ์แก็ดเจ็ตต่างๆ ก็ได้เช่นกัน
ZenFone Max รองรับการใช้งาน 2 ซิม ใช้แบบ micro SIM ทั้งสองช่อง และสามารถเพิ่มหน่วยความจำ microSD ได้
กล้องหลังของ ZenFone Max ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิเซล พร้อม PixelMaster มาพร้อมกับรูรับแสง 2.0 มี แฟลชคู่ พร้อม ultra-fastlaser และ auto-focus ทาง Asus เคลมว่ารุ่นนี้มีจุดเด่นในการถ่ายภาพโหมดแสงน้อย โดยใช้เทคโนโลยี pixel – merging ในการจับภาพให้สว่างขึ้นสูงสุดถึง 400% ในถ่ายภาพตอนกลางคืน หรือ ฉากที่มีแสงน้อย โดยไม่ต้องใช้แฟลช
ซอฟท์แวร์
ด้านซอฟท์แวร์ของ ZenFone Max มาพร้อมกับ Android 5.0.2 (Lollipop) อยู่ในแผนที่จะอัพเกรดให้เป็น Android 6.0 (Marshmallow) อินเตอร์เฟส Asus ZenUI เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ปรับปรุงให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวเอง จุดเด่นของรุ่นนี้คือความอึดของแบต ตัวอินเตอร์เฟสเองสามารถดาวน์โหลดธีมได้จากระบบของ Asus ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายธีม นอกจากนั้นทาง Asus ยังพัฒนาเครื่องมือสำหรับคนที่ต้องการย้ายข้อมูลจากเครื่องเดิมมาที่เครื่องใหม่
อินเตอร์เฟสของ Asus จะออกแบบให้มีความเรียบง่าย ยกตัวอย่างหน้าแจ้งเตือนเมื่อเราลากนิ้วลงมาจะแสดงหน้าแจ้งเตือนต่างๆ หากลากลงมาอีกทีจะเป็นหน้า Quick Settings สำหรับเปิดและปิดฟังก์ชั่นต่างๆ ของเครื่อง ในหน้าโฮมเองก็ออกแบบมาให้เรียกใช้งานง่าย เพียงแค่กดค้างที่บริเวณหน้าจอโฮมสกรีน จะปรากฏเมนูปรับแต่งหน้าโฮมขึ้นมาทันที
มีฟังก์ชั่นห้ามรบกวน หรือ Do not disturb เป็นนึงในฟังก์ชั่นที่ผมชอบมาก มีในมือถือและแท็บเล็ตหลายรุ่น ซึ่งผมเองก็มักจะตั้งค่าเปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้ การจัดการเกี่ยวกับการแจ้งเตือนต่างๆ เช่นเวลา 4 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า ห้ามแจ้งเตือน ปิดเสียงทุกอย่าง รวมถึงเมื่อมีสายเข้าด้วย เราสามารถกำหนดช่วงเวลาได้เอง
มีฟังก์ชั่น ZenMotion มีอยู่ 2 ส่วนด้วยกันคือ Touch Gesture คือการสั่งงานด้วยการเขียนสัญญาลักษณ์บนหน้าจอเป้นตัวอักษรต่างๆ และ Motion Gesture คือการสั่งงานด้วยวิธีต่างๆ โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ เช่น เมื่อหน้าจอเปิดอยู่เคาะหน้าจอสองครั้งแบบเร็วๆเพื่อล็อกหน้าจอ และเคาะสองครั้งเพื่อเปิดหน้าจอเมื่อหน้าจอปิดอยู่
มีโหมดใช้งานมือเดียวมาให้ ก่อนใช้งานต้องเปิดใช้งานก่อน ส่วนวิธีเรียกใช้งานคือกดที่ปุ่มโฮม 2 ครั้งติดๆ กัน หน้าจอจะย่อหลัง ทำให้ใช้งานมือเดียวสดวกขึ้น
จากที่ทำสอบใช้งาน แบตเตอรี่อยู่ได้สบายๆ 2-3 วัน
และทดสอบชาร์จแบตจนเต็ม 100% และเล่นเกมส์ตั้งแต่ 19.45 จนถึง 23.15 เปิดเกมส์ยาวนาน 3 ชั่วโมงกว่าๆ กินแบตไปราวๆ 27% เท่านั้น และเครื่องไม่ร้อนเท่าไหร่ด้วย (ไม่ได้เปิดแอร์นะ)
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
กด Like เพจเพื่อติดตามข่าวสาร