ในบทความนี้เราจะรีวิวมือถือแอนดรอยด์แบตอึดรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Asus รุ่นที่ต่อยอดมาจาก ZenFone Max นั้นคือ ZenFone 3 Max มือถือที่เน้นเรื่องความจุแบต ในรุ่นแรกให้แบตมาถึง 5000 mAh ส่วนรุ่นใหม่ให้มา 4130 mAh
รุ่นแรกโดนตำหนิเรื่องความหนาของตัวเครื่องและน้ำหนักเยอะพอสมควร ในรุ่นใหม่เลยปรับเปลี่นใหม่หมด เน้นดีไซน์ให้ออกมาเรียบๆ มีความบาง แต่ยังคงความจุแบตที่มากกว่ามือถือทั่วไปในตลาด ที่สำคัญในรุ่นใหม่ได้เพิ่มลูกเล่นอย่างเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามา
ZenFone 3 Max วางขายในไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยมีให้เลือก 2 โมเดล คือ Zenfone 3 Max (ZC520TL) จอ 5.2 นิ้ว ในราคา 5,990 บาท คือรุ่นที่เรากำลังรีวิวให้ชม ใช้ชิป MediaTek อีกรุ่นคือ ZenFone 3 Max (ZC553KL) ตัวนี้ มาพร้อมกับชิป Snapdragon Octa-Core 430
ข้อมูลสเปก
- หน้าจอ LCD IPS พาเนล ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดจอ 1280 x 720 พิกเซล
- ซีพียู MediaTek Quad-Core 1.25GHz
- ชิปกราฟฟิก Mali T720
- แรม 2GB LPDDR3
- หน่วยความจำภายใน 16GB รองรับ Micro SD card สูงสุด 32GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รองรับ 2 ซิม (Micro SIM และ Nano SIM)
- รองรับ 3G คลื่น 850/900/1900/2100 MHz
- รองรับ 4G LTE
- แบตเตอรี่ 4130 mAh
- ขนาด 149 x 73.7 x 8.55 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 148 กรัม
- Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย ASUS ZenUI 3.0
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
หน้าจอเป็น IPS ขนาด 5.2 นิ้วตามชื่อรุ่น ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ HD 720p แสดงผลได้ 16 ล้านสี เรื่องความคมชัดของสี ก็เป็นไปตามมาตรฐานของหน้าจอ IPS อีกทั้งค่าย Asus เป็นค่ายที่ไม่ได้เน้นฟีเจอร์ของหหน้าจอแสดงผลเท่าไหร่หนัก แต่ละรุ่นที่ออกมาจึงใช้สเปกหน้าจอที่ใกล้เคียงกัน แต่เพียงแค่ขนาด ความละเอียด และ PPI
มีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะที่หน้าจอ สำหรับกล้องหน้าให้มา 5 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องหน้าก็คล้ายกับหน้าจอ ค่ายนี้ไม่ค่อยเน้น ใส่ตัวเลขมาเยอะๆ คุณภาพกล้องพอไปวัดไปวาได้ ยังสู้ OPPO หรือ Samsung บางรุ่นไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มีโหมดหน้าเนียนมาให้
หลายๆรุ่นที่ผ่านมาของค่ายนี้ปุ่ม Home, Recent App, Back ยังไม่มีไฟส่องสว่าง เวลาใช้งานในที่มืดๆ กับเดากันไป แต่ในรุ่นีน้เปลี่ยนมาใช้ปุ่มที่รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผลแล้ว หมดปัญหาการเดาปุ่มเวลาใช้งานตอนมืดๆ แล้ว แต่ก็แลกมาด้วยพื้นที่แสดงผลหน้าจอที่น้อยลง (โหมดเล่นเกมส์ ดูหนังปุ่มจะหายไป)
ด้านบนเป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียรบกวน
ด้านล่างตัวเครื่องเป็นช่องต่อ micro USB 2.0 และรูไมโครโฟน
รองรับการใช้งาน 2 ซิม แบบ Micro SIM และ Nano SIM เพิ่ม microSD ได้ รองรับการใช้งาน 2 ซิม แต่ใช้งาน 3G/4G ได้ทีละ ซิม โดยซิม 1 เป็น 3G ซิมสองก็จะใช้งานได้แค่ 2G
เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือใช้งานไม่สะดวก ในขณะที่ถือมือเดียว นิ้วที่จะสามารถไปถึงตำแหน่งเซ็นเซอร์ก็มีอยู่ไม่กีนิ้ว ที่สำคัญนิ้วผมดันเกือบไม่ถึงเซ็นเซอร์ ทำให้ใช้งาานไม่สะดวกหนัก (ตรงนี้ขึ้นอยู่กับทาในการจับด้วย)
ส่วนความเร็วในการสแกนอยู่ในระดับที่ดี แต่ยังไม่เร็วเท่า iPhone, Galaxy S7
วัสดุดูดี งานประกอบดี ดีไซน์สวย ตัวเครื่องเป็นโลหะ ดูแข็งแรง กล้องไม่นูน ตัวเครื่องหนาแค่ 8.55 มิลลิเมตร แบตเตอรี่ให้มา 4130 mAh น้อยกว่า ZenFone Max ตัวแรก แต่ก็แลกมาด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่บางลง น่าใช้งานขึ้น
กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช
ภาพรอบๆ ตัวเครื่อง
ซอฟท์แวร์
มาพร้อมกับ Android 6.0 (Marshmallow) ตั้งแต่โรงงาน อินเตอร์เฟส Asus ZenUI 3.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ปรับปรุงให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวเอง จุดเด่นของรุ่นนี้คือความอึดของแบต ตัวอินเตอร์เฟสเองสามารถดาวน์โหลดธีมได้จากระบบของ Asus ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายธีม
นอกจากนั้นทาง Asus ยังพัฒนาเครื่องมือสำหรับคนที่ต้องการย้ายข้อมูลจากเครื่องเดิมมาที่เครื่องใหม่
อินเตอร์เฟสของ Asus จะออกแบบให้มีความเรียบง่าย ยกตัวอย่างหน้าแจ้งเตือนเมื่อเราลากนิ้วลงมาจะแสดงหน้าแจ้งเตือนต่างๆ หากลากลงมาอีกทีจะเป็นหน้า Quick Settings สำหรับเปิดและปิดฟังก์ชั่นต่างๆ ของเครื่อง ในหน้าโฮมเองก็ออกแบบมาให้เรียกใช้งานง่าย เพียงแค่กดค้างที่บริเวณหน้าจอโฮมสกรีน จะปรากฏเมนูปรับแต่งหน้าโฮมขึ้นมาทันที
รุ่นนี้มีฟังก์ชั่น ZenMotion มาให้แค่ตัวเดียว คือ Touch Gesture การสั่งงานด้วยการเขียนสัญญาลักษณ์บนหน้าจอเป็นตัวอักษรต่างๆ
มีฟังก์ชั่นห้ามรบกวน (Do not disturb) มาให้ เป็นนึงในฟังก์ชั่นที่ผมชอบมาก มีในมือถือและแท็บเล็ตหลายรุ่น ซึ่งผมเองก็มักจะตั้งค่าเปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้ การจัดการเกี่ยวกับการแจ้งเตือนต่างๆ เช่นเวลา 4 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า ห้ามแจ้งเตือน ปิดเสียงทุกอย่าง รวมถึงเมื่อมีสายเข้าด้วย เราสามารถกำหนดช่วงเวลาได้เอง
มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านล่าง ถัดลงมาจากกล้องหลัง เท่าที่ลองใช้งานสแกนได้เร็ว ตั้งค่าง่าย รองรับสูงสุด 5 นิ้ว โดยตัวสแกนลายนิ้วมือสามารถใช้จ่ายเงินใน Play Store แทนการกรอกรหัสได้ (สะดวกกว่ากรอกรหัสมาก)
จากใช้งานราวๆ 2 สัปดาห์ เล่นใช้งานเกมส์เป็นหลัก พบว่ารุ่นนี้การตอบสนองในเรื่องเกมส์ยังทำได้ไม่ดีหนัก ยกตัวอย่างเกมส์ที่ผมเล่นบ่อยๆ คือ Seven Knights พบว่าเล่นบน ZenFone 3 Max กระตุก และหน่วงมาก อาการเหมือนกับ HTC One M9 Plus คิดว่าส่วนนึงมาจากซีพียู MediaTek ด้วย
แม้ว่าจะปรับความละเอียดภาพเป็นความละเอียดต่ำแล้ว ก็ยังมีอาการหน่วงอยู่ หากใครซีเรีนสเรื่องเล่นเกมส์รุ่นนี้อาจจะไม่เหมาะหนัก ถ้าเน้นเล่นเกมส์เป็นหลัก แนะนำให้มองหารุ่นอื่นแทนครับ
ทดสอบประสิทธิภาพ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
กล้องหน้า
กล้องหลัง
กด Like เพจเพื่อติดตามข่าวสาร