Lazada

รีวิวมือถือรุ่นใหม่ 3 รุ่นจาก TrueMove H: True Smart 4G MAX จอ 5.5, 5.0 และ 4.0

ในบทความนี้ทีมงานมีมือถือรุ่นใหม่ 3 รุ่นจากเครือข่าย TrueMove H มารีวิว อย่างที่ทราบกันว่า TrueMove H ทำมือถือของตัวเองออกมาขายหลายรุ่นด้วยกัน ทางเว็บเราก็เคยรีวิวให้ชมกันหลายรุ่น อาทิ True Smart 4G SPEEDY 4.0True Smart Tab Gen MeTrue Smart 4G 5.5” Enterprise, True Smart 5.0, True Smart Tab 7.0, และ True Beyond 4G เป็นต้น

ปัจจุบันผมยังใช้งานอยู่ 2 รุ่น คือ True Smart 4G SPEEDY 4.0 ตัวเล็ก ราคาเบาๆ แต่รองรับ 4G เลยใช้เป็นเครื่องแชร์เน็ต อีกรุ่นที่ชอบเป็นการส่วนตัวมากๆ เพราะเครื่องตอบสนองดี จอใหญ่ และแบตอึดมาก นั้นคือรุ่น True Smart 4G 5.5” Enterprise แต่น่าเสียดาย โดนคุณแม่ของผมยึดไปใช้งานเป็นเครื่องหลักไปซะแล้ว ตั้งแต่คุณแม่เอาไปใช้งาน ไม่เคยบ่นเกี่ยวกับปัญหาของเครื่องนี้เลย (ยกเว้นแต่เผลอไปกดปิดฟังก์ชั่นต่างๆ)

ที่เล่ามาเพียงแต่จะบอกว่ามือถือจากโอเปอร์เรเตอร์ไม่ได้แย่กว่ามือถืออินเตอร์แบรนด์เลย บางรุ่นได้ราคาที่ถูกกว่า ในสเปกที่เท่าเทียบอินเตอร์แบรนด์ที่สูงกว่า คุณภาพใกล้เคียงกัน ที่สำคัญมักจะมาพร้อมกับแพ็กเก็จเน็ตที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของเรา

ข้อมูลสเปก

2016-10-30_9-20-17

2016-10-30_9-20-21

2016-10-30_9-21-04

รีวิวตัวเครื่อง

truesmart4gmax_02

ทั้ง 3 รุ่น ที่กำลังจะรีวิวให้ชมกัน รุ่นที่เด่นๆ คงหนีไม่พ้น True Smart 4G MAX 5.5 และ True Smart 4G MAX 5.0 ไม่ใช่แค่เรื่องสเปก ราคา และคุณภาพ แต่รวมถึงขนาดของหน้าจอด้วย ยุคนี้ใครๆ ก็ชอบมือถือหน้าจอใหญ่ๆ จึงไม่แปลกที่มือถือหน้าจอตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไปจะได้รับความสนใจมากกว่าหน้าจอ 4 นิ้ว

ทั้ง 3 รุ่นจะมาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาดหน้าจอก็ตามชื่อรุ่น โดย รุ่น 5.5 และ 5.0 นิ้วจะใช้หน้าจอความละเอียด HD 720p ส่วนรุ่น 4.0 นิ้วจะใช้ความละเอียด WVGA 480 x 800 พิกเซล โดย True Smart 4G MAX 5.5 คือรุ่นที่หน้าจอคมชัดที่สุด ให้ภาพสวยที่สุด รองลงมาก็คือ True Smart 4G MAX 5.0 แม้จะใช้หน้าจอชนิดเดียวกัน ความละเอียดเท่ากัน แต่ความคมชัดสู้รุ่นพี่ไม่ได้

truesmart4gmax_04

มีกล้องหน้ามาให้ทั้ง 3 รุ่น น้องเล็กสุด True Smart 4G MAX 4.0 กล้องหน้าความละเอียด 3 แสนพิกเซล มีโหมดบิ้วตี้สำหรับถ่ายรูปตัวเองให้หน้าออกมาเนียน เรียว ส่วนรุ่นพี่ทั้งสองกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีโหมด HDR และโหมดบิ้วตี้ถ่ายรูปตัวเองให้หน้าออกมาเนียน เรียว นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นถ่ายอัตโนมัติเมื่อชูสองนิ้วแทนการกดปุ่มถ่ายภาพ

truesmart4gmax_10

ปุ่มควบคุมทั้ง 3 รุ่นถูกจัดวางในตำแหน่งเดียวกัน และใช้สัญลักษณ์เหมือนกัน ปุ่มไม่ได้รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล ทำให้ได้พื้นที่แสดงผลแบบเต็มๆ ไม่ต้องเสียพื้นที่บางส่วนไปกับปุ่มควบคุม มีไฟที่ปุ่ม ทำให้สะดวกเวลาใช้งานเวลาตอนกลางคืน หรือในที่มืด

truesmart4gmax_11

ทั้ง 3 รุ่นแม้จะขนาดหน้าจอแตกต่างกัน แต่ดีไซน์และการวางองค์ประกอบต่างๆ ของตัวเครื่องจะเหมือนกัน ยกตัวอย่างด้านล่างของตัวเครื่อง มุมขวาล่างจะมีช่องสำหรับแกะฝาหลัง ถัดไปจะเป็นช่องต่อ micro USB สำหรับชาร์จแบตและเชื่อมต่อข้อมูล ถัดไปเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนา

truesmart4gmax_06

ด้านบนของตัวเครื่องจะวางองค์ประกอบแตกต่างกันเล็กน้อย โดย True Smart 4G MAX 4.0 จะใส่ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. ไว้ที่ฝั่งขวา ส่วน True Smart 4G MAX 5.5 และ True Smart 4G MAX 5.0 จะอยู่ช่วงระหว่างกลางของตัวเครื่องไปทางซ้าย

truesmart4gmax_09

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง ขอบด้านข้างจะเคลือบด้วยสีให้ดูเหมือนโหลหะ และดูพรีเมี่ยมขึ้น โดย True Smart 4G MAX5.0 และ True Smart 4G MAX 4.0 จะเป็นสีเงิน ส่วน True Smart 4G MAX 5.5 จะเป็นสีทอง

truesmart4gmax_05 truesmart4gmax_07

วัสดุของตัวเครื่องทั้ง 3 รุ่นเป็นพลาสติก แต่ผิวสัมผัสจะแตกต่างกัน True Smart 4G MAX 5.0 และ True Smart 4G MAX 4.0 ผิวสัมผัสจะออกด้านเล็กน้อย ไม่มีความหนืด ทำให้การใช้งานไม่ลื่น ไม่เกิดคราบเหงื่อ เกิดรอยขนแมวได้ยาก ส่วน True Smart 4G MAX 5.5 พื้นผิวสัมผัสจะออกด้าน และมีความหนืดมากกว่า ส่วนตัวชอบผิวของตัว 5.5 นิ้วมากที่สุด ดูหรูกว่า จับแล้วกระชับมือกว่า แต่ก็ดูแลรักษายากกว่าเช่นกัน

truesmart4gmax_03

กล้องหลังของทั้ง 3 รุ่นจะนูนออกมาเล็กน้อย True Smart 4G MAX 4.0 นูนออกมาน้อยที่สุด ส่วนอีก2 รุ่นก็นูนออกมาเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ แทบมองไม่ออก) โดย True Smart 4G MAX 5.5 ให้กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และ Auto Focus ต่อมาเป็น True Smart 4G MAX 5.0 ให้กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และ Auto Focus พร้อมแฟลช True Smart 4G MAX 4.0 น้องเล็กสุดกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล มีแฟลชและ Auto Focus

truesmart4gmax_12

ทั้ง 3 รุ่นรองรับการใช้งาน 2 ซิม ใช้ซิมแบบ micro SIM รองรับทุกคลื่นความถี่ของ TrueMove H ไม่ว่าจะเป็น 900/850/1800/2100 รองรับทั้ง 4G/3G เพิ่ม microSD ได้ 128GB ถอดแบตเตอรี่ได้ทั้ง 3 รุ่น โดย True Smart 4G MAX 5.5 ให้แบตมา 2900mAh รุ่น 5.0 นิ้วให้แบตมา 2150 mAh แลพ True Smart 4G MAX 4.0 ให้แบตมา  1500 mAh

truesmart4gmax_14

รองรับ VoLTE ทั้ง 3 รุ่น

หลายๆ คนยังไม่ทราบว่า VoLTE คืออะไร VoLTE คือการโทรศัพท์ด้วยเสียงที่มีคมชัดระดับ HD พูดง่ายๆ คือเวลาโทรศัพท์เสียงจะคมชัดขึ้น เสียงดังขึ้น ฟังได้ชัดเจนขึ้น ที่สำคัญคือ Call Setup เร็วกว่าเดิม 4 เท่า โทรติดง่ายขึ้น จากเดิมการโทรเรียกหมายเลขปลายทางจะใช้เวลาราวๆ 5 วินาที แต่ใน VoLTE จะใช้เวลาต่อสายปลายทางแค่ 0.5 วินาทีเท่านั้น

ปกติแล้วมือถือรุ่นที่รองรับ VoLTE จะเป็นมือถือรุ่นท็อป ตัวแพงๆ 2 หมื่นอัพ อย่าง Galaxy S6, Galaxy S7 หรือ iPhone 6, iPhone 7 แต่เราไม่ต้องกำเงิน 2 หมื่นไปซื้อมือถือแพงๆ พวกนั้นเพื่อใช้ VoLTE แล้ว เพราะ , True Smart 4G MAX 5.0 และ True Smart 4G MAX 4.0 รองรับการทำงาน VoLTE ในตัว สามารถโทรศัพท์คุณภาพเสียงHD ได้ด้วยเงินมือถือที่ราคาไม่ถึง 5,000 บาท

ยิ่งไปกว่านั้น VoLTE ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใดๆ เลย เพียงแค่คุณอยู่ในที่สัญญาณ 4G ของ TrueMove H ถึง (หน้าจอขึ้น 4G) แค่นี้คุณก็สามารถใช้งาน VoLTE ได้แล้ว และปัจจุบันเครือข่าย 4G ของ TrueMove H ก็ครอบคลุมทุกจังหวัดในไทยแล้ว ไปที่ไหนก็ใช้งาน 4G และ VoLTE ได้แน่นอน

2016-11-13_11-11-49

กล้อง

กล้องมาพร้อมกับอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย ไม่อัดฟีเจอร์ที่เกินความจำเป็นมาให้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่เราเปิดกล้องมาแล้วเจอแต่ฟีเจอร์ที่ต้องใช้งาน และใช้งานได้จริง ส่วนมากเรามักจะถ่ายรูปมือถือด้วยโหมด Auto, ถ่ายภาพ HDR โหมด Beauty และในกล้องยังมีโหมถ่ายภาพแบบพาโนราม่ามาให้ การสลับโหมดกล้องไปมาก็ทำได้สะดวกและสลับได้รวดเร็ว อีกทั้งในแต่ละโหมดยังมีคู่มือแนะนำการใช้งานในตัว ทำให้สามารถใช้งานได้ทันทีไม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้

ในการถ่ายภาพเราเลือกได้ว่าจะกดถ่ายเอง ตั้งเวลาถ่าย หรือถ่ายมือชู 2 นิ้ว ก็ได้เช่นกัน

2016-11-23_22-12-34

ในตัวอย่างภาพหน้าจอเป็นของ True Smart 4G MAX 5.5 จะเห็นว่าตัวกล้องสามารถปรับความละเอียดของภาพได้เอง ตั้งแต่ 2 ล้านพิกเซล จนถึง 13 ล้านพิกเซล ปรับ ISO ได้เหมือนกล้องจริงๆ ตัวกล้องของวีดีโองก็สามารถปรับความละเอียดได้เอง โดยมีให้เลือก 4 ระดับคือ ต่ำ, ปานกลาง, สูง และละเอียด

2016-11-23_22-11-13

คุณสมบัติอื่นๆ ก็สามารถปรับตั้งค่าได้ไม่แพ้มือถือรุ่นแพงๆ อาทิ การเลือกโหมดถ่ายภาพแบบ multi shooting mode ที่มีโหมดถ่ายภาพที่หลากหลาย เพียงแค่เราเลือกโหมดให้ตรงกับสภาพแสงที่เราจะถ่าย เช่นถ่ายกลางคืน, ถ่ายดวงอาทิตย์ตก, งานเลี้ยง,พอร์เทรน, ทิวทัศน์ เป็นต้น เมื่อเราเลือกเสร็จก็จะได้ภาพที่เหมาะสมกับสภาพแสงนั้นๆ เลย นอกจากนั้นเรายังสามารถไวท์บาลานซ์ได้เองอีกด้วย โดยเลือกได้จากโหมด กลางวัน, ฟลูออเรสเซนต์, เมฆมาก, โพล้เพล้, เงา และ ฟลูออเรสเซ็นต์อุ่น ซึ่งการปรับไวท์บาลานซ์ จะทำให้โทนสีขอภาพแตกต่างกันออกไปตามโหมดที่เราเลือก

ยังไม่พอเรายังสามารถการตั้งค่าความชัดของภาพ ตั้งค่าสี และตั้งค่าความอิ่มตัวของภาพได้ด้วยตัวเอง

2016-11-23_22-10-31

มีฟังก์ชั่นสำหรับช่วยลดการกระพริบตั้งค่าเอฟเฟคช่วยให้การถ่ายภาพบางสถานที่ทำได้ดีขึ้น ตัวกล้องเองยังสามรถบันทึกสถานที่ (GPS) ที่ถ่ายภาพไว้ได้ ปรับค่ารูรับแสงได้เอง ช่วยในเรืองชดเชยแสงในบางสถานที่

และมีเอฟเฟคในการถ่ายภาพมาให้ใช้งาน ซึ่งแต่ละเอฟเฟคจะให้โทนและสีของภาพที่แตกต่างกัน จะทำให้เราได้ภาพที่สวยแตกต่างออกไปจากการถ่ายในโหมดอัตโนมัติ มีรูปสวยๆ แนวๆ ไว้อัพลง Social ไว้โชว์เพื่อนๆ

2016-11-23_22-10-43

ในกล้องยังมี ฟังก์ชั่น Burst shotคือการถ่ายภาพหลายๆภาพในการกดชัตเตอร์แค่ครั้งเดียว เราเลือกได้ว่าจะให้ถ่าย 40 ภาพ หรือ 99 ภาพ มีระบบตรวจจับใบหน้า ตรวจจับรอยยิ้มอีกด้วย มีระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) ที่ช่วยให้การถ่ายวีดีโอดูสมูทขึ้น หรือแม้แต่ฟังก์ชันลดเสียงรบกวน ที่ช่วยให้เสียงของวีดีโอชัดขึ้น เสียงรบกวนน้อยลง

2016-11-23_22-11-00

เรื่องคุณภาพของกล้องต้องบอกว่าประทับใจครับ ไม่นึกว่ากล้องของมือถือราคาต่ำกว่า 5,000 บาท จะทำออกมาได้ดีขนาดนี้ ปกติเราจะเห็นว่ากล้องในราคานี้คุณภาพพอไปวัดไปวา แต่ใน True Smart 4G MAX 5.5 และ True Smart 4G MAX 5.0 ทำได้ดีเลย

truesmart4gmax_16

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

กล้องหน้าทั้ง 3 รุ่น

untitled-1

กล้องหลังทั้ง 3 รุ่น

ซอฟท์แวร์

ในส่วนของซอฟท์แวร์ทั้ง 3 รุ่นจะเหมือนกับแทบทุกประการแตกต่างที่ความลื่นไหลของการใช้งาน แน่นอนว่ารุ่นที่ลื่นไหลที่สุดต้องเป็นพี่ใหญ่ True Smart 4G MAX 5.5 รองลงมาก็ True Smart 4G MAX 5.0 และ True Smart 4G MAX 4.0 ตามลำดับ ทั้งหมดมาพร้อมกับ Android 6.0 Marshmallow ตั้งแต่โรงงาน ครอบด้วยอินเตอร์เฟสที่ทรูพัฒนาขึ้นมา เน้นความเรียบง่ายเหมือนกับมือถือที่ใช้อินเตอร์เฟสเพียวแอนดรอยด์ นอกจากนั้นยังมีเปลี่ยนไอคอนแอพต่างๆ ให้ดูหรูขึ้น

2016-11-02_22-30-07

โดยรวมซอฟท์แวร์ทำงานได้ดีครับ ตอบสนองได้ดี ณ ตอนนี่ผมรีวิว ผมจะใช้งาน True Smart 4G MAX 5.5 และ True Smart 4G MAX 5.0 เป็นหลัก พบว่าเปิดหลายแอพสลับไปมาเป็นที่หน้าพอใจ เล่นเกมส์ได้ ลงแอพได้เยอะ เหมาะกับคนที่ชอบเล่น Social Network ดูหนังฟังเพลง เล่นเน็ต แชทต่างๆ 2 รุ่นนี้จะตอบสนองได้หลากหลายกว่า ด้วยความที่หน้าจอใหญ่ และสเปกที่สูงกว่าน้องเล็ก

2016-11-02_22-31-17

ตัวเครื่องรองรับการอ่านและพิมพ์ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store อัพเดทแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้จาก Play Stor มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering) แชร์กันให้คุ้มค่าแพ็กเกจ 4G กันไปเลย

มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นมาให้หลายตัว โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นในเครือของทรู อาทิ True Anywhere, H TV, iService และ TrueID แต่ไม่มีแอพพวก Trueyou, 7-Eleven TH, H Music, TrueCloud เข้าใจว่าบางแอพถูกรวมไปใน TrueID ไปแล้ว ถ้าอยากได้แบบแยกก็โหลดได้เพิ่มเติมจาก Play Store

2016-11-02_22-29-00

แอพ TrueID ถูกติดตั้งมาในเครื่องตั้งแต่โรงงาน เป็นแอพที่ลูกค้าควรค้าแก่การใช้งานมากๆ ผมคนนึงที่ใช้แอพนนี้บ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ (ดูบอล) เป็นแอพที่มาเติมเต็มความสุข ครบทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ใช้ TrueMove H โดยเฉพาะ ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้า TrueMove H ชมแพคเกจทรู ซูปเปอร์ ซอคเกอร์ได้ฟรี จนจบฤดูกาล 2016 – 2017

2016-11-02_22-40-19

ในแอพ TrueID ยังรวบรวมแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงสิทธิ์พิเศษต่างๆสำหรับลูกค้าไว้เพียบ อาทิ รับสิทธิประโยชน์ ส่วนลด และโปรโมชั่นพิเศษจาก TrueYou และสามารถหาสิทธิประโยชน์ได้ในพื้นที่ๆ คุณอยู่ (Near Me) แน่นอนว่ายุคนี้ cloud กำลังมา ไม่มีให้ก็แปลก ในแอพนี้ก็มีพื้นที่ cloud ให้ใช้แบบฟรีๆ เก็บไว้รูปภาพ วีดีโอ ไฟล์ต่างๆ เบอร์ติดต่อ sms และอื่นๆ อื่นมากมาย สามารถเก็บไว้ใน cloud storage ได้แบบฟรี

2016-11-02_22-32-12

แอพ iService อันนี้ไม่ต้องอธิบายมากมาย ลูกค้า TrueMove H รู้จักและใช้กันประจำอยู่แล้ว เป็นแอพที่ให้เราสามารถตรวจสอบข้อมูลและทำบริการหลังการขายได้ ด้วยตัวเราเองไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนตลอด 24 ชม.

ฟังก์ชั่นการใช้งาน ได้แก่

  • ตรวจสอบใบแจ้งค่าบริการและยอดค่าบริการปัจจุบัน
  • ตรวจสอบแพ็คเกจหลักและแพ็คเกจเสริม
  • เปิดบริการเสริม เช่น แพ็คเกจ 3G/ EDGE/ WIFI, SMS, MMS
  • จ่ายค่าบริการแบบรายเดือนให้และเติมเงินมือถือ
  • ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการ 3G และ WIFI
  • ค้นหาทรูช้อป
  • แชทออนไลน์กับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า
  • ตรวจสอบรายการย้อนหลัง
  • สมัคร E-billing

2016-11-02_22-38-24

ความบันเทิง

ในเรื่องความบันเทิงประเภทดูหนัง ฟังเพลง รุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุดคือ True Smart 4G MAX 5.5 เพราะหน้าจอใหญ่ รองลงมาก็เป็น True Smart 4G MAX 5.0 แม้ขนาดหน้าจอต่างกัน 0.5 นิ้ว แต่ความละเอียดหน้าจอ HD 720p เท่ากัน ทำให้การดูหนัง ดู Youtube ให้อรรถรสใกล้เคียงกัน (ถ้าชอบดูคลิปผมอนะนำตัว 5.5 เพราะจอใหญ่กว่า จอคมชัดกว่า)

2016-11-02_22-32-21

เกมส์

หากชอบเล่นเกมส์ผมแนะนำแค่ 2 รุ่น คือ True Smart 4G MAX 5.5 และ True Smart 4G MAX 5.0 น้องเล็กไม่แนะนำสำหรับคนที่อยากได้มาเล่นเกมส์ เนื่องจากสเปกของตัวเครื่องและขนาดของหน้าจอไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมส์เท่าไหร่หนัก

เท่าที่ลองเล่นเกมส์ Seven Knights, Subway และ Pokemon Go ตัวเครื่องสามารถเล่นได้ในระดับดี ในรุ่น True Smart 4G MAX 5.5 สามารถลงได้หลายเกมส์ เพราะหน่วยความจำภายในเยอะกว่า ส่วน True Smart 4G MAX 5.0 หากเป็นแอพที่มีพื้นที่เยอะๆ อาจจะลงได้แค่ 2-3 เกมส์เท่านั้น

2016-11-02_22-29-39

2016-10-30_9-25-16

เอาหล่ะ มาเข้าเรื่องของเรา มือถือทั้ง 3 รุ่นที่ผมจะมารีวิวให้ชมกันก็คือ True Smart 4G MAX 5.5, True Smart 4G MAX 5.0 และ True Smart 4G MAX 4.0 ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ณ เวลานี้ ถ้าใครอยากได้มือถือแอนดรอยด์ที่มาพร้อมกับแอนดรอย์เวอร์ชั่นล่าสุดจากโรงงาน 3 รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ราคา ?

สำหรับ True Smart 4G MAX 5.5 ราคาจะอยู่ที่ 3,990 บาท มีโปรโมชั่นรับเครื่องไปฟรีๆ ถ้าสมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Smart 499 ขึ้นไป พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,500 บาท ระยะเวลา 12 เดือน โดยจะได้รับเป็นส่วนลดค่าบริการรายเดือนทดแทน 250 บาท ต่อเดือน นาน 10 เดือน

ต่อมาชายกลาง True Smart 4G MAX 5.0 ราคาถูกกว่าชายใหญ่ 1,000 บาท โดยราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ 2,990 บาท มีโปรโมชั่นรับเครื่องไปฟรีๆ โดยไม่ต้องจ่าค่าเครื่องสักบาท แค่สมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Smart 399 ขึ้นไป พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,500 บาท ระยะเวลา 12 เดือน โดยจะได้รับเป็นส่วนลดค่าบริการรายเดือนทดแทน 150 บาท ต่อเดือน นาน 10 เดือน

น้องเล็กสุดก็ร้อนแรงไม่แพ้รุ่นพี่ True Smart 4G MAX 4.0 ราคาจะอยู่ที่ 1,790 บาท มีโปรโมชั่นรับเครื่องไปฟรีเช่นกัน แค่สมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Smart 399 ขึ้นไป พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้าแค่ 800 บาท ระยะเวลา 12 เดือน โดยจะได้รับเป็นส่วนลดค่าบริการรายเดือนทดแทน 100 บาท ต่อเดือน นาน 8 เดือน

นอกจากโปรโมชั่นรับเครื่องไปใช้งานฟรีแล้ว ทั้ง 3 ครั้งยังรับประกันเครื่องนาน 15 เดือน รับประกันอุปกรณ์และแบตเตอรี่นาน 7 เดือน หากมีปัญหาภายใน 30 เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้เลย

2016-10-30_10-06-41

แพ็กเกจใช้งานอะไรได้บ้าง ?

อย่างที่กล่าวในหัวข้อก่อนหน้า มือถือทั้ง 3 รุ่นกำลังมีโปรโมชั่นรับเครื่องไปใช้งานฟรีๆ แค่สมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Smart ที่กำหนด โดยแพ็กเกจ 4G+ Super Smart มีให้เลือก 5 แพ็กเกจด้วยกัน เริ่มต้น 4G+ Super Smart 399 จนถึง 4G+ Super Smart 899

โดย 4G+ Super Smart 399 สามารถใช้ 4G/3G ได้ 3GB (ในแพ็กเกจ 1GB และโบนัสอีก 2GB) โทรได้ 150 นาที ทุกเครือข่าย ใช้ WiFi ได้ไม่จำกัด ที่สำคัญใช้งานแอพ TrueID ได้ ถ้าใครชอบดูบอลสามารถดูบอลพรีเมียร์ลีกได้ผ่านแอพ TrueID เลย

4G+ Super Smart 499 สามารถใช้ 4G/3G ได้ 6GB มาจากในแพ็กเกจ 2GB และโบนัสอีก 2GB นอกจากนั้นยังได้สิทธิ์รับเน็ต 4G/3G เดือนละ 2GB ต่อเดือน นาน 20 เดือนเลยทีเดียว สำหรับแพ็กเกจนี้โทรได้ 200 นาที ทุกเครือข่าย ใช้ WiFi ได้ไม่จำกัด  และใช้แอพ TrueID ได้

2016-10-30_9-24-50