ในการสมัครเข้าทำงานโดยเฉพาะตำแหน่งเกี่ยวกับการขายสินค้า / บริการต่าง ๆ หนึ่งในปัจจัยที่มักสร้างความสับสนให้กับบรรดาผู้สมัครจำนวนมากนั่นคือ การที่ฝ่าย HR หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลตั้งคำถามให้กับคุณว่าต้องการคอมมิชชั่นสูง หรือฐานเงินเดือนสูง บางบริษัทก็ระบุชัดเจนเลยว่าที่นี่คำนวณเงินเดือนให้ไม่เยอะมาก แต่เน้นคอมมิชชั่นสูง ขณะที่บางองค์กรก็เน้นมีเงินเดือนให้ในเกณฑ์ มีการปรับให้ทุกปี ส่วนคอมมิชชั่นว่ากันตามผลงานจริง โดยใช้โปรแกรม HR คำนวณ สรุปแล้วควรเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์มากที่สุดกันแน่?
หลักในการพิจารณาควรเลือกคอมมิชชั่นหรือเงินเดือนสูงกันแน่
การจะพิจารณาว่าควรเลือกค่าคอมมิชชั่นสูง ๆ หรือเงินเดือนเหมาะสม พร้อมยังปรับตามเกณฑ์ทุกปีเป็นเงินค่าตอบแทนการทำงาน ก็ต้องมีหลักที่ช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น โดยอย่าพึ่งไปมองว่าคำนวณเงินเดือนออกมาแล้วแบบไหนคุ้มกว่า แต่ให้ดูว่างานแบบไหนตอบโจทย์กับผลตอบแทนที่ตนเองจะได้รับ
เลือกเงินเดือนต้องดูฐานเงินเดือนที่จ่ายให้และเกณฑ์การปรับเงินเดือน
สิ่งแรกให้ลองเปรียบเทียบฐานเงินเดือนที่ตนเองจะได้รับจากตัวงาน สมมุติว่ามีฐานเงินเดือนตามขั้นพื้นฐาน ไม่ได้สูงมากนักก็ให้ลองพิจารณาเรื่องเกณฑ์ในการปรับเงินเดือนที่ฝ่าย HR ระบุเอาไว้ว่าขั้นต่ำจะปรับให้กี่เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ขอบเขตหน้าที่ทำงานเป็นแบบไหนบ้าง รวมถึงอาจสอบถามเกี่ยวกับโบนัสที่ตนเองจะได้รับ หากมองแล้วทำงานที่นี่มีความมั่นคงในเรื่องการรับเงินทุกเดือน ไม่ต้องเสี่ยงกับค่าคอมมิชชั่นที่ไม่ค่อยแน่นอน การทำงานแล้วมีผลตอบแทนลักษณะดังกล่าวก็จัดว่าน่าสนใจ
เลือกคอมมิชชั่นต้องลักษณะงานที่ทำ ความยากง่ายที่จะทำให้ได้คอมมิชชั่น
สำหรับใครมาสายพนักงานขายแบบเต็มตัวจะรู้ดีว่าเงินเดือนเป็นเรื่องที่มองข้ามไปได้เลย เพราะส่วนใหญ่เน้นไปยังคอมมิชชั่นเป็นหลักอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ดีในการเลือกรับคอมมิชชั่นคือ
- สินค้าที่ขายเป็นอย่างไร – ขายยาก-ง่ายแค่ไหน มีความรู้เกี่ยวกับสินค้า / บริการมาก่อนหรือไม่
- กลุ่มลูกค้าตรงกับสไตล์การทำงานของตนเองเพียงใด – บางคนไม่ชอบความจุกจิกของลูกค้าเกรดสูง, ไม่ชอบลูกค้ากลุ่มโรงงานเพราะต้องเดินทางไกล, บางงานต้องหาลูกค้าเองโดยไม่มีกลุ่มเป้าหมายมาให้แบบนี้พึงพอใจมากน้อยแค่ไหน ฯลฯ
- ระยะเวลาหรือรอบการจ่ายเงินเหมือนกับเงินเดือนหรือไม่ – บางบริษัทตัดจ่ายพร้อมเงินเดือนก็ถือว่าคำนวณกันเข้าใจง่าย ไม่ต้องทำอะไรซับซ้อนมาก แต่บางแห่งอาจตัดรอบคนละวัน หรือตัดเดือนละ 2 รอบ ก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินงาน ตรงนี้อย่าลืมใช้พิจารณาถึงความเหมาะสมที่จะได้รับเงินด้วย
- จำนวน Commission ที่ออกมาดีกว่าการรับเงินเดือนรวมโบนัสต่อปีจริงไหม? – ข้อนี้อาจต้องคำนวณเงินเดือนเทียบกับจำนวนเงินที่จะได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นเพื่อประเมินคร่าว ๆ ว่าแบบไหนคุ้มกว่ากัน ทั้งนี้อาจต้องมีปัจจัยเรื่องลักษณะงานที่ทำด้วย
จะเห็นว่าหากพิจารณาเลือกรับคอมมิชชั่นมันไม่ใช่แค่การทำงานตามหน้าที่ของตนเองแต่ยังต้องวางแผนแนวทาง ลักษณะงานต่าง ๆ ให้เหมาะสม ถูกจริตเพื่อโอกาสในด้านผลลัพธ์ที่เช่น คุณไม่ถนัดพวกไอที ความทันสมัย แต่ต้องไปขายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ มือถือ ก็อาจไม่ตอบโจทย์ทั้งลักษณะงานที่ทำ ความเครียด และเงินตอบแทนที่จะได้รับ บางคนขายเก่งมากแต่ไม่ชอบลูกค้าจู้จี้จุกจิก แต่ดันต้องไปขายงานอสังหาริมทรัพย์ราคาแพง ที่ลูกค้าเป็นคนมีเงิน มีความเรื่องมากในตัว งานลักษณะนี้ก็มีสิทธิ์ไม่ตอบโจทย์แม้ค่าตอบแทนสูง แต่ความเครียด กดดันนำมาซึ่งไม่อยากทำงานก็สูงตาม
ข้อดีระหว่างการรับคอมมิชชั่นสูงกับเงินเดือนสูง
- รับคอมมิชชั่นสูง
ข้อดีหลักที่ปฏิเสธไม่ได้แน่ ๆ คือ มีโอกาสสร้างรายได้ให้กับตนเองเกินเป้าชนิดบางคนทำงานแค่ไม่กี่เดือนเท่ากับคนรับเงินเดือนทำทั้งปี เพราะส่วนใหญ่คอมมิชชั่นคือเงินที่ถูกแบ่งเปอร์เซ็นต์มาจากยอดขาย ทางบริษัทก็คำนวณเอาไว้เป็นต้นทุนสินค้าทั้งหมดแล้ว ยิ่งคุณขายได้เยอะ ทำยอดออกมาดีก็เท่ากับรับเงินต่อเดือนแบบไม่จำกัดนั่นเอง
- รับเงินเดือนสูง
อย่าพึ่งมองแค่เรื่องตัวเงินอย่างเดียว เพราะจริง ๆ แล้วคนที่เลือกรับเงินเดือนสูงมากกว่าคอมมิชชั่นก็ได้ความสบายใจ ทำงานแบบไม่ต้องกดดันเรื่องยอดขายมากเกินไป เหมาะกับคนที่รู้สึกว่าตนเองไม่ถนัดงานขาย หรือไม่ชอบการพบปะผู้คน ที่สำคัญยังมีความมั่นคง การันตีได้ชัดเจนว่าแต่ละเดือนจะมีเงินเข้าเท่าไหร่
สรุปแล้วคอมมิชชั่น หรือ เงินเดือน เลือกแบบไหนดี?
จากข้อมูลที่ระบุมาทั้งหมดหากถามว่าระหว่างคอมมิชชั่นกับเงินเดือน ควรเลือกแบบไหนดี คงไม่มีคำตอบที่ชัดเจน หรือไม่สามารถระบุได้เพราะอย่างที่กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่ามันมีปัจจัยหลายด้านเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณ, รูปแบบการทำงานที่ได้รับ หรือการมีเป้าหมายที่ชัดเจนของตนเองเป็นแบบใด
บางคนบอกเลยว่าต้องการมีเงินเยอะ ๆ ไม่เกี่ยงเรื่องการขาย การพบเจอลูกค้า การทำงานหนัก คอมมิชชั่นก็อาจโดนใจกว่า แต่ถ้ามีเป้าหมายเดียวกันแต่สินค้าที่ขายไม่ตรงกับความถนัด ไม่ชอบเดินทางไปต่างจังหวัด ในทางตรงข้ามการรับเงินเดือนแล้วอยู่อย่างสบายใจ จากนั้นมองหารายได้เสริมอื่น ๆ เข้ามาทดแทนก็จัดว่าตอบโจทย์ไม่แพ้กันนั่นเอง ลองคำนวณเงินเดือน คำนวณรายได้ เทียบกับจุดประสงค์ของชีวิตแล้วสมัครงานกันเลย