Gear Fit 2 อุปกรณ์สวมใส่ติดตามกิจกรรมารออกกำลังกายของคนรักสุขภาพ ต่อยอดมาจาก Gear Fit ตัวแรก มีการปรับปรุงด้านฟีเจอร์ และดีไซน์พอสมควร เริ่มวางขายในไทยตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 6,500 บาท
Gear Fit 2 มีเซ็นเซอร์มาด้วยกันหลายตัวอาทิ เซ็นเซอร์ GPS, HR, Accelerometer, Gyro, Barometer (น่าเสียดายไม่มี Ant+) เป็นอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกกายที่สเปกพอๆ กับมือถือบางรุ่น ยกตัวอย่างให้แรมมาถึง 512MB หน่วยความจำ 4GB หน้าจอเป็น Super AMOLED หน้าจอเป็นแบบโค้ง ขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 216 x 432 พิกเซล
ในบทความนี้ทีมงาน mobiledista จึงถือโอกาสนำ Gear Fit 2 มารีวิวให้ชมกัน
ภาพรอบๆ ตัวเครื่อง Gear Fit 2
แจ้งเตือนได้หลากหลาย
นึ่งในฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่ต้นคือการแจ้งเตือน ซึ่งสามารถแจ้งเตือนทั้งข้อความ, สายเรียกเข้า ซึ่งสามารถเลือกกที่จะปฏิเสธสาย หรือรับสายได้จากตัวเครื่อง Gear Fit 2 เลย สามารถแจ้งเตือนอีเมล หรือจากแอพต่างๆ ได้มามายห ขึ้นอยุ่กับเราตั้งค่าว่าต้องการให้แจ้งเตือนอะไรบ้าง
วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ด้านในตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์ HR สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะทำงานตลอดเวลา หากเราวิ่งจะแสดงให้ดูว่าตอนนี้เราเหนื่อยระดับไหน ช่วยป้องกันการออกกำลังกายมากจนเกินไปได้
สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้จากตัวเครื่องเลย โดยไม่ต้อง Synce ข้อมูลกับมือถือ
หาไม่เจอ หลงลืมว่าวางเครื่องไว้ไหน ก็ตามหาเจอด้วยฟีเจอร์ Find Your Gear
เปลี่ยนสายได้ มีสายสวยๆให้เลือกใช้งาน แต่ต้องซื้อเองนะ ไม่มีแถมมา
เดินขึ้นลงบรรไดก็ตรวจจับได้ มีรางวัลกระตุ้นให้เดินขึ้นลงปล่อยๆ แทนการใช้ลิฟท์
รองรับการเชื่อมต่อหลอกหลาย
หลายคนเข้าใจว่าต้องเชื่มอต่อกับ Samsung Galaxy เท่านั้น แต่ไม่จำเป้นครับ ต่อได้หลายรุ่น หากเป็นมือถือ Android รุ่นอื่นๆ ขอแค่รัน Android 4.4 ขึ้นไป และแรมต้อง 1.5GB ขึ้นไป สำหรับ Samsung Galaxy ต้องเป็น Android 4.3 ขึ้นไป แรมขั้นต่ำ 1.5GB เช่นกัน
ติดตามการออกกำลังกาย
Gear Fit 2 ได้ปรับปรุงเพิ่ม GPS มาทำให้การออกกำลังกายของเราดูมีความน่าสนใจขึ้น มีความสมบูรณ์มากขึ้น จากเดิมที่ต้องพึ่งพา GPS จากมือถือ เวลาจะใช้งานก็ต้องพก 2 เครื่อง ซึ่งดูไม่สะดวกเท่าไหร่หนัก แต่พอ Gear Fit 2 เพิ่ม GPS เข้ามา ทำให้เราสามารถถือไปแค่ Gear Fit 2 ได้เลย ที่สำคัญ GPS ที่ให้มาก็มีความแม่นยำ แสดงผลได้แบบ real-time ทั้งการวิ่ง การปั่นจักรยาน รู้ระยะทาง และเก็บ GPS แชร์ไปอวดเพื่อนๆ ใน Social Network ได้ด้วย
เลือกแชร์ไปยังแอพต่างๆ ได้
กันน้ำ IP68
Gear Fit 2 ได้เพิ่มคุณสมบัติ IP68 เข้ามา ทำให้ตัวเครื่องสามารถกันน้ำได้ ไม่ต้องกังวลเวลาวิ่งจะมีเหงื่อ (โดนเหงื่อมากๆ แนะนำให้เช็ดหลังวิ่งเสร็จนะครับ เพื่อความสะอาด และป้องกันการเกิดคราบ) หรือโดนน้ำ สามารถใช้งานใต้น้ำได้ ซึ่งตัวก่อนหน้าเป็น IP 67 กันน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที
เชื่อมต่อกับ S Health ได้
สามารถเชื่อมต่อกับแอพสุขภาพของ Samsung อย่าง S Health ได้อย่างง่ายดาย ซิงค์ข้อมูลทุกอย่างตั้งแต่กิจกรรมไปจนถึงอัตรการเต้นของหัวใจที่หวัดได้จาก Gear Fit 2 นอกจากนั้นยังมีรางวัลต่างๆ แสดงใน Profile เมื่อทำถึงเงื่อนไขที่แอพกำหนด แชร์โชว์เพื่อนขำๆ ได้ เป็นกำลังให้ออกกำลังกายต่อได้ด้วย
มีหน่วยความจำภายใน ไม่ต้อง Sync ตลอดเวลา
หน่วยความจำในตัวเครื่องให้มา 4GB สามารถเก็บข้อมูลน้อยหลังได้หลายวัน โดยที่เราไม่ต้อง Sync ข้อมูลกับมือถือทุกวัน ใช้ยาวๆ แล้วค่อย Sync ทีเดียวก็ได้
ยังไม่หมด สำหรับคนที่ชอบการฟังเพลงไปพร้อมกับออกกำลังกาย คงเจอปัญหาต้องพกมือถือไปฟังเพลง และต้องใส่อุปกรณ์ tracking ไปด้วย ทำให้ไม่ค่อยสะดวกเวลาออกกำลังหาย ทางซัมซุงจะเพิ่มฟีเจอร์การเก็บเพลงในตัว Gear Fit 2 มีโปรแกรมฟังเพลงมาให้ในตัว สามารถฟังเพลงไปพร้อมกับการออกกำลังกาย โดยการเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธได้ทันที โดยไม่ต้องสตรีมเเพลงจากมือถือมา
แบตอยู่ได้ 2 วัน
ในที่สุดก็ไม่ต้องชาร์จทุกวันซะที หลังจากรุ่นก่อนหน้าต้องชาร์จแบตทุกวัน ซึ่งทำให้ไม่ค่อยสะดวก รุ่นนี้เพิ่มขึ้นมา สามารถใช้งานได้นานขึ้นเป็น 2 วัน (ตามสเปคบอกอยู่ได้ 3-4 วัน) บางทีก็เกือบๆ 3 วัน และมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ เวลาแบตใกล้จะหมดจะสลับเข้าโหมดประหยัดพลังงานให้เอง สามารถใช้งานได้ต่อราวๆครั้งวัน
ชาร์จแบตใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ
ชาร์จแบตด้านแท่นชาร์จ
Gear Fit 2 ชาร์จแบตด้วยแท่นชาร์จที่แถมมาให้ในกล่อง เป็นการชาร์จแบบไร้สาย ไม่ต้องต่อสายชาร์จที่ตัวเครื่องโดยตรง เพียงแค่บางตัวเครื่องที่แท่นชาร์จ ที่ผมชอบคือเราไม่ต้องสนว่าจะต้องวางฝั่งไหน เพราะมันชาร์จได้ทั้ง 2 ฝั่ง สะดวกมากๆ แค่หันถูกทางแล้ววางได้เลย