Lazada

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นเมื่อโทรศัพท์มือถือตกน้ำ

670px-Save-a-Wet-Cell-Phone-Step-2

เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์กันแล้ว แน่นอนล่ะครับว่าเทศกาลนี้ต้องมีน้ำมาเกี่ยวข้อง ซึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กับน้ำเป็นของไม่ค่อยจะไปด้วยกันได้สักเท่าไหร่ หนึ่งในนั้นก็คือ “โทรศัพท์มือถือ” ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์โฟน สมาร์ทโฟน อะไรก็แล้วแต่ ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีรุ่นกันน้ำออกมาบ้างแต่ก็มีไม่มากแถมราคาค่อนข้างสูงอาจจะไม่เจอปัญหาน้ำเข้าไปอาศัยอยู่ในตัวเครื่อง   เมื่อโทรศัพท์เรารุ่นธรรมดาตกน้ำ หรือโดนน้ำ จนมีน้ำเข้าไปในตัวเครื่องแล้ว เปิดไม่ติดจะมีวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นอย่างไร  วันนี้ผมมีวิธีแก้เบื้องต้นมาฝากครับ

*เทศกาลสงกรานต์วิธีป้องกันเบื้องต้นคือ หาซื้อเคสกันน้ำหรือซองกันน้ำมาใส่ป้องกัน แนะนะรุ่นที่ป้องกันน้ำเข้าไม่ใช่ป้องกันน้ำออกนะครับ :p

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นเมื่อโทรศัพท์มือถือตกน้ำ

  1. ตั้งสติ อย่า! เปิดหรือปิดเครื่องเป็นเด็ดขาด เพราะอาจจะทำแผงวงจรภายในเครื่องช็อตได้
  2. ถอดชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องออก มีอะไรถอดได้ถอดหมด  ไม่ว่าจะเป็น ซิมการ์ด microSD การ์ด ฝาหลัง แบตเตอรี่(ถ้าถอดได้)670px-Save-a-Wet-Cell-Phone-Step-3
  3. เมื่อถอดชิ้นส่วนต่างๆ ออกแล้วให้นำผ้าสะอาดๆ ที่ไม่มีขน มาเช็ดชิ้นส่วนต่างๆ ให้แห้งสนิท670px-Save-a-Wet-Cell-Phone-Step-6
  4. จากนั้นนำชิ้นส่วนต่างๆ มาเป่าด้วยพัดลม ไม่ควรเป่าด้วยไดว์เป่าผม มาเป่าเด็ดขาด เนื่องจากความร้อนจากลมไดว์เป่าผมอาจจะทำให้แผงวงกรพังได้  เว้นแต่จะมีไดว์เป่าแบบลมเย็น หรืออุปกรณ์ที่ไม่มีแผงวงจร 670px-Save-a-Wet-Cell-Phone-Step-7
  5. ขั้นตอนต่อ ให้นำไปแช่ในถุงหรือถังข้าวสาร จะเป็นข้าวสารเสกหรือไม่ก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะข้าวสารจะช่วยดูดความชื้นภายในตัวเครื่องออกใช้เวลาประมาณ 1- 2 วันในการแช่670px-Save-a-Wet-Cell-Phone-Step-8

จากนั้นนำเครื่องมาเช็ดฝุ่นทำความสะอาดเมื่อมั่นใจว่าเครื่องแห้งดีแล้ว  นำเครื่องมาประกอบเข้า ทดลองเปิดเครื่องดู

  • ถ้าติดก็ลองเช็คโทรศัพท์ดูว่าสามารถทำงานได้ปกติดีหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นโทรเข้า  โทรออก กดปุ่มหรือทัชหน้าจอ การใช้งานเชื่อมต่อ Wi-Fi  3G 4G  ถ่ายรูป ทำทุกอย่าง ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ถือว่าโชคดี ถ้าใช้ไม่ได้อาจต้องพึ่งศูยน์บริการเกี่ยวกับอากาณนั้นๆ
  • ถ้าเครื่องไม่ติดและมั่นใจว่าเครื่องแห้งเป็นอย่างดีแล้ว  ลองเสียบเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือชาร์จแบตเตอรี่ดู บางทีแบตฯอาจจะหมด ถ้ายังไม่ติดอีกต้องไปพึ่งศูยน์บริการหรือร้านซ่อมที่มีความชำนาญแล้วครับ

ที่มา : WikiHow