อย่างที่ทราบกัน LG G2 mini จะวางขายในไทยช่วงเดือนเมษายนนี้ในราคา 9,990 บาท รุ่นที่ขายเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งาน 2 ซิม ส่วนตัวคิดว่ารุ่นซิมเดียวไม่น่าจะนำเข้ามาขายเพราะรุ่น 2 ซิมน่าจะเพียงพอแล้ว ตอบโจทย์การใช้งานของตลาดล่างมากกว่า 1 ซิม
G2 mini คือรุ่นที่ต่อยอดจาก LG G2 เรือธงที่สร้างความประทับใจให้กับหลายๆ คน ด้วยเหตุนี้จึงหยิบเอาจุดเด่นของ G2 มาไว้ใน G2 mini อาทิ Knock on และปุ่ม Rear Key
นอกจากราคาที่เปิดมาได้เร้าใจแล้ว G2 mini แถมเคส Quick Window มาให้ฟรี (ตอนผมซื้อ LG G2 ก็แถมนะ จนถึงตอนนี้ยังไม่แกะใช้เลย) ถ้าสนใจก็เตรียมเงินไไว้ ช่วงเดือนเมษายนนี้เจอกันแน่นอน
สเปก LG G2 mini
- หน้าจอ ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 540×960 พิกเซล
- แรม 1 GB
- ซีพียู quad-core Snapdragon 400 1.2GHz
- หน่วยความจำภายใน 8GB เพิ่ม microSD การ์ดได้
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล LED แฟลช
- กล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 2,440 mAh
- Android 4.4 KitKat
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
G2 mini มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด qHD 540×960 พิกเซล เรื่องหน้าจอเทียบกับรุ่นพี่ไม่ติดแน่นอน แต่ถ้าเทียบในราคาระดับเดียวกันอันนี้ค่อยสู่สีหน่อย รุ่นนี้กล้องหน้าให้มา 1.3 ล้านพิกเซล แม้จะเป็นจอ 4.7 นิ้ว แต่ขอบจอก็บาเลยทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่เหมือนรุ่นอื่นที่จอ 4.7 นิ้วเหมือนกัน
ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Knock Code ฟีเจอร์สำหรับการปลดล็อกหน้าจอแบบใหม่มาด้วย
ด้านข้างทั้ง 2 ด้านจะไม่มีปุ่มใดๆ เลย เพราะปุ่มจะอยู่ด้านหลังแบบเดียวกับ LG G2 ซึ่งปุ่มที่ว่าก็คือ Rear Key นั่นเอง
ด้านบนของเครื่องมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. ไมโครโฟสสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด่านล่างมีช่อง micro USB 2.0 ไมโครโฟนสำหรับสนทนา ลำโพงของเครื่องจะอยู่ด้านล่างเหมือนกับ LG G2
ด้านหลังจะเป็นพลาสติกขึ้นลาย ทำให้ผิวจะมีความหยาบ มีประโยชน์ช่วยเวลาจับจะไม่ลื่น เกิดลายยาก พลิกมาด้านหัลงจุดเด่นที่สุดก็คือปุ่ม Rear Key ส่วนกล้องให้มาที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
ดีไซน์ถอดแบบมาจาก LG G2 เลย ต่างเพียงแค่ขนาด และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หนึ่งในนั้นคือรุ่นนี้สามารถแกะฝาหลังได้ ถอดแบตได้ เพิ่ม microSD ได้ และใส่ซิมได้ 2 ซิม ทั้ง 2 ซิมเป็นแบบ micro SIM
เปรียบเทียบ LG G2 mini กับ LG G2
กด Like เพจเพื่อติดตามข่าวสาร