Sony Xperia Z5 มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดที่วางขายในไทย เปิดตัวที่ราคา 24,990 บาท มีให้เลือก 4 สี คือ สีดำ, สีขาว, สีเขียว และสีทอง เริ่มเปิดจองครั้งแรกที่งาน Mobile Expo เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ณ วันที่ผมเขียนรีวิวมีวางขายเรียบร้อย
จุดเด่นของ Sony Xperia Z5
- หน้าจอ : IPS LCD, 5.2 นิ้ว, FHD (Full HD) (1920 x 1080 พิกเซล)
- ซีพียู : Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 Quad-core 1.5 GHz & Quad-core 2 GHz
- แรม : 3GB
- ระบบปฏิบัติการ : Android 5.1.1 (Lollipop)
- กล้อง : หน้า 5.1 MP, 1080p, HDR / หลัง 23 ล้านพิกเซล
- หน่วยความจำภายใน : 32 GB
- แบตเตอรี่ : Li-Ion 2900 mAh
หน้าจอ IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด FHD (Full HD) (1920 x 1080 พิกเซล) พร้อมเทคโนโลยี X-Reality for mobile และเทคโนโลยี Triluminos Display เรื่องสีสันของหน้าจอเราสามารถปรับได้เองตามความชอบ หากชอบสีสันจัดๆ ก็ใช้ของเดิมได้เลย ไม่ต้องปรับอะไร แต่ถ้าชอบให้จัดกว่านี้หรือนุ่มนวลกว่านี้ก็ปรับได้ง่ายๆ แค่ไม่กี่สัมผัส
ปุ่มกดรวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล ทำให้เราต้องเสียพื้นที่แสดงผลบางส่วนเพื่อใช้สำหรับปุ่มควบคุม
Xperia Z5 มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น ผ่านมาตรฐาน IP68 ด้านล่างจะมีฝาปิดสำหรับกันน้ำเข้า ส่วนช่องหูฟังและช่องต่อ micro USB ถูกออกแบบมาให้น้ำไม่สามารถเข้าถึงตัวเครื่องได้ ตัวเครื่องหนา 7.3 มม. น้ำหนัก 154 กรัม
แม้รุ่นนี้จะกันน้ำ แต่ควรหลักเลี่ยงไม่ให้โดนน้ำทะเล น้ำเกลือ น้ำคลอรีน หรือของเหลว เช่น เครื่องดื่มต่างๆ เพราะจะส่งผลทำให้การรับประกันสิ้นสุดลงทันที
ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดและ microSD
Xperia Z5 รองรับซิมแบบ nano SIM จำนวน 1 ซิม รองรับ 3G คลื่น 850/900/2100 รองรับ 4G LTE คลื่น 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 12(700), 17(700), 20(800), 28(700), 38(2600), 40(2300 และสามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 200 GB
ปุ่ม Power ด้านข้างจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ หากวางนิ้วตรงจะสแกนเร็วพอสมควร แต่ยังรู้สึกว่าช้ากว่าเมื่อเทียบกับฝั่ง iPhone ในแง่การใช้งานจริงๆ การที่เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมืออยู่ด้านข้างแบบนี้กลับใช้งานยากกว่าอยู่ด้านหลังหรือตรงปุ่ม Home เพราะมีเรื่ององศาเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะกว่า บางทีวางนิ้วไม่แนบสนิทกับเซ็นเซอร์ เท่าที่ใช้งานพบว่านิ้วโป้งเป็นนิ้วที่สแกนได้สะดวกที่สุด นิ้วอื่นจะสแกนลำบากพอสมควร เวลาจะใช้ตรงปรับองศามือเวลาสแกน พอสแกนเสร็จค่อยจับเครื่องตามถนัดอีกที ดูลำบากพอสมควร
ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. ไม่มีฝาปิด แต่ไม่ต้องกลัวน้ำเข้า เพราะเขาออกแบบมาอย่างดี น้ำไม่สามารถเข้าถึงตัวเครื่องได้แน่นอน เว้นแต่ว่าตกน้ำนานกว่า 30 นาที ระบบเสียงของ Xperia Z5 มี DSEE HX จะชดเชยรายละเอียดเสียงในย่านความถี่สูงสุด ที่สูญหายไปในระหว่างการเข้ารหัสและบีบอัดสัญญาณ
ฝาหลังแกะไม่ได้แล้ว แบตถอดไม่ได้เช่นกัน ฝาหลังเรียบๆ แต่ดูหรูมิใช่น้อย ผมชอบฝาหลังแบบนี้กว่าแบบที่เป็นกระจก เพราะไม่ต้องกงวัลเรื่องคราบเหงื่อที่จะเกิดขึ้นเวลาใช้งาน แบตเตอรี่ให้มา 2900 mAh มี NFC
ลำโพงของตัวเครื่องอยู่ภายในเครื่อง ทำให้เสียงออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แถมเวลาเปิดเพลง หรือมีเสียงด้านล่างของตัวเครื่องจะสั่น เวลาถือแล้วเปิดเสียงไปด้วย (เช่นเล่นเกมแล้วเปิดเสียง) ด้านหลังจะสั้นน่ารำคาญไม่ใช่น้อย ตรงนี้เป็นหนึ่งจุดที่ผมไม่ชอบครับ ทำให้ความรู้สึกขณะใช้งานถูกหักคะแนนลง นอกจากจุดนี้ เรื่องอื่นผมก็ไม่ติดอะไร
กล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล, มี Auto focus, LED flash เลนส์ G เซ็นเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/2.3 นิ้ว ถ่ายวิดีโอ2160p@30fps, 1080p@60fps, 720p@120fps, HDR เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.3″
Hybrid ออโตโฟกัส 0.03 วินาที
ซอฟท์แวร์บน Xperia Z5
Sony Xperia Z5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop พร้อมด้วยอินเตอร์เฟสในแบบฉบับของ Sony หน่วยความจำ 32GB ระบบใช้ไป 9.4GB เหลือพื้นที่ให้ใช้งานเหลือเฟือ และยังสามารถเพิ่มหนวยความจำภายนอก microSD ได้ มีระบบอัพเดทซอฟท์แวร์ผ่าน OTA อัพเดทได้ด้วยตัวเองเมื่อมีซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นใหม่มา นอกจากนั้นยังมีตัวช่วยในการเปิดใช้งานครั้งแรก เช่นโอนถ่ายข้อมูชจากเครื่องเดิม, การตั้งค่าที่สำคัญ เช่นเรื่องภาษา แป้นพิมพ์, ตั้งค่าการล็อคหน้าจอ, บริการ Xperia, และติดตั้งแอพที่แนะนำ
ในแง่ประสิทธิภาพของซอฟท์แวร์ไม่น่าห่วงครับ ที่ผ่านมือซอฟท์แวร์ของค่ายนี้สะสมชื่อเสียงมาพอสมควร รุ่นนี้เองก็ยังคงเอกลักษ์ทั้งในแง่อินเตอร์เฟสและประสิทธิภาพการตอบสนองของซอฟท์แวร์ที่ทำได้อย่างลื่นไหล ไม่หน่วง ไม่ค้าง เปิดแอพ ปิดแอพทำได้อย่างรวดเร็ว จะติดปัญหาอยู่เรื่องเดียวที่พอเจอคือ บางเกมส์เล่นแล้วรู้สึกหน่วงๆ ผมได้ลองกับเกม Mu Origin ถ้าเปิดฟังก์ชั่นแสดงผลผู้เล่นคนอื่นด้วย จะหน่วงมาก แต่ถ้าปิดให้แสดงผู้เล่นคนอื่นก็พอเล่นได้ แต่ยังหน่วงอยู่
พวงด้วยฟีเจอร์ความบันเทิงมากหมาย อาทิ Playstation, PSN และ content ต่างๆ ทั้งเพลงละหนัง ตามสเปกสามารถอัพเกรดไป Android รุ่นต่อไปได้สบายๆ คาดว่าโซนี่ไม่น่าจะทอดทิ้งรุ่นนี้ รองรับการอ่านและพิมพ์ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์ มีระบบเมนูภาษาไทยมาให้ และสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้เมนูภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ได้ตามต้องการ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store
มีมินิแอพมาให้ สามารถเปิดใช้งานพร้อมกับ ผ่านหน้าต่างเล็กๆ คล้ายกับโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ สามารถย่อขยาย หรือโยกย้ายไปมาได้อย่างอิสระ
แบตเตอรี่โซนี่เคลมว่าใช้งานได้ 2 วัน โดยทดสอบใน Lab ด้วยการโทร การส่งข้อความ การเรียกดูเว็บ เครือข่ายสังคม การเล่นเกม การฟังเพลง การถ่ายภาพ การเรียกดูรูปภาพ การดูวิดีโอออนไลน์ การบันทึกวิดีโอ และการเล่นเพลง
ในแง่การใช้งานจริง เอาเข้าจริงๆ 2 วันที่ว่าไม่ได้หมายถึงการใช้งานต่อติดกันนาน 2 วันนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิดไป เปิดสแตนบายเฉยๆ ก็อยู่ได้ราวๆ 2 วัน หรือเปิดโหมด Ultra STAMINA หากใช้งานหนักๆ ก็หมดเร็วพอสมควร จากที่ลองใช้งานเล่นเกมส์ Mu Origin ติดต่อกัน 3 ชั่วโมงแบตลดไป 60-70% เลยทีเดียว หากใช้งานทั่วไป ก็อยู่ได้ครบวันพอดี นอกจากเรื่องอายุของแบต สิ่งที่น่าประทับใจคือเรื่องชาร์จแบต คือชาร์จแบตได้เร็วมาก โดยเฉพาะเมื่อชาร์จกับอะเดปเตอร์ที่จ่ายไฟ 2A หรือ 2.4A
จากการใช้งานเครื่องจะร้อนพอสมควรเวลาใช้งานหนักๆ โดยเฉพาะเล่นเกม และเปิด 3G/4G
Sony Xperia Z5 รองรับการใช้งาน 4G LTE สามารถใช้งาน 4G ในไทยได้ทั้งของ TrueMove H และ dtac ฟังก์ชั่นอื่นๆ ก็เหมือนกับมือถือแอนดรอยด์ทั่วไป อาทิ แชร์เน็ตเป็น Wi-Fi Hotspot มี NFC รองรับ Android Beam, เชื่อมต่อกับจอแสดงผลผ่าน DLNA
เมนูตั้งค่ามีระบบค้นหา ช่วยให้เราสามารถค้าหาเมนูที่ต้องการตั้งค่าได้จากการค้นหาทันที ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเมนูหรือฟังก์ชั่นที่เราจะตั้งค่าอยู่ส่วนไหนของเมนู เพียงแต่เพียงคำที่ต้องการระบบจะค้นหาและแสดงผลให้ทันที มีฟังก์ชั่นจัดการการโทรอัจฉริยะ เมื่อมีสายดทรเข้า ยกแนบหูจะรับสายทันที, หรือเขย่าเครื่องหากไม่ต้องการรัยสาย, วางคว่ำลงเพื่อเปิดเสียงเรียกเข้า
ระบบธีม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าตาได้ตามต้องการ เลือกธีมที่ชอบได้จากระบบที่โซนี่รวบรวมไว้ให้ มีให้เลือกหลายร้อยธีม ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ในระบบธีมที่เราโหลดมาจะมีทั้งไอคอน, ภาพพื้นหลังรวมอยู่ หากเบื่อก็โหลดธีมอื่นมาติดตั้งได้ใหม่ วิธีการทำก็ง่ายมากๆ แค่เข้าธีมแล้วเลือกโหลดธีมที่ชอบ และเปิดใช้งานธีมดังกล่าว
Sony Xperia Z5 มาพร้อมกับเทคโนโลยีแสดงผล X-Reality for Mobile ตามแบบฉบับมือถือโซนี่ แต่เราสามารถเลือกที่จะเปิด หรือปิดได้ นอกจากนั้นแล้วเราสามารถปรับโหมดภาพให้สีจัดขึ้นได้อีกด้วย หากชอบภาพที่สีจัดจ้านก็สามารถปรับขึ้น หากใครชอบแบบสบายตาก็ปิดฟีเจอร์นี้ไป ในเมนูตั้งค่าจะมีภาพตัวอย่างให้ดูว่า หากเราเลือกตั้งค่าภาพที่ออกมาจะเป็นยังไง ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะตั้งค่าแบบไหนดี
หน้าจอสามารถใช้งานได้แม้ขณะส่วมถุงมือ ซึ่งต้องเปิดใช้งานฟังก์ชั่นโหมดสวมถุงมือก่อน สามารถควบคุมการย้อนแสงได้ และยังสามารถปรับอุณภูมิสีของหน้าจอได้เองอีกด้วย
แอพฟังเพลงที่มาพร้อมกับหน้าตาที่น่าใช้งาน สามารถ Podcast ได้ ดาวน์โหลด cover ของเพลงได้จากอินเตอร์เน็ต จัดคิวได้เอง แบ่งหมวดหมู่ตามศิลปิน, อัลบั้ม หรือ โฟลเดอร์ รองรับระบบเสียงความละเอียดสูง (LPCM, FLAC, ALAC, DSD)
แอพพลิเคชั่น Lifelog แอพสำหรับคนรักสุขภาพ ก่อนเปิดใช้งานต้องใส่ข้อมูลส่วนตัว เช่น น้ำหนัก, ความสูง, วันเกิด และเพศ ตัวแอพมีฟีเจอร์คล้ายกับแอพออกกำลังกายทั่วไป อินเตอร์เฟสน่าใช้งาน และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ออกกำลังกายหลายตัว
แอพสำหรับอ่านข่าว เราสามารถเลือกข่าวที่เราสนใจเพื่อถึง Feed มาแสดง มีเว็บไทยให้เลือกนิดหน่อย ส่วนมากเป็นเว็บต่างประเทศ แต่เรายังสามารถเพิ่ม RSS Feed จากแหล่งอื่นได้เอง
ในส่วนของกล้อง มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดในการถ่ายาภพแบบต่างๆ เยอะแยะมากมาย ดูเกินความจำเป็น เท่าที่ใช้งานผมใช้ Auto (อัตโนมัติพิเศษ) ตลอด เพราะสะดวกกว่า เวลาเราจะถ่ายอะไร ถ้าต้องเลือกโหมดการถ่ายก่อนก็ไม่ทันการ ส่วนกล้องหน้าให้มาความละเอียด 5.2 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดภ่ายภาพแบบต่างๆ อีกเช่นกัน จากที่ลองใช้งานทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพบว่ามีปัญหาเวลากดถ่ายภาพ บางครั้งก็ถ่ายเร็ว บางครั้งก็ช้า หน่วงตอนกดถ่าย การโฟกัสภาพ Hybrid Auto Focus ทำได้เร็วจริงครับ แต่ซัตเตอร์ผมว่าน่าจะทำได้เร็วกว่านี้ ซัตเตอร์ช้าหรือหน่วงเวลากดถ่ายทำให้ภาพที่ออกมาบางทีก็เบลอไปซะงั้น
ในแง่ประสิทธิภาพมาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon 810 (MSM8994) ซึ่งเป็นชิปแบบ Octa-core ภายในประกอบด้วย Quad-core 1.5 GHz & Quad-core 2.0 GHz ชิปกราฟฟิก Adreno 430 แรม 3GB สเปกเพียงต่อสำหรับเล่นเกมส์กราฟฟิกโหดๆ (ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกราฟด้วยว่าพัฒนามาดีแค่ไหน ยกตัวอย่าง Mu Origin ผมเล่นบน Galaxy S6 ก็มีหน่วงบ้าง บนรุ่นนี้ก็หน่วงเช่นกัน เท่าที่ลองมา มีแค่ iPhone 6 เท่านั้นที่เล่นลื่นไหล เข้าใจว่าเกมเองก็มีส่วนด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Xperia Z5
แกลอรี่ Xperia Z5
