พรีวิวแรกสัมผัสสมาร์ทโฟนเรือธง Samsung Galaxy Note 5

Galaxy_Note5_0003

หลังจากที่ทีมงานได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ Galaxy Note 5 ให้ชมกันแบบจุใจ ทั้งข่าวเปิด, และตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Galaxy Note 5 รวมถึงเปรียบเทียบภาพถ่ายจากกล้อง Galaxy Note 5 VS Galaxy S6, Galaxy Note 5 VS iPhone 6 คราวนี้ถึงเวลาพรีวิวให้ชมกัน เชื่อว่าในขณะที่ผมกำลังเขียนพรีวิวอยู่ มีหลายท่านที่ตัดสินใจไปแล้ว และคงมีอีหหลายท่านที่ไปซื้อมาเรียบร้อย ซึ่ง Galaxy Note 5 เริ่มมีวางขายตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป และจะมีวางขายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ (รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำหนดการวางขาย)

ข้อมูลสเปก Samsung Galaxy Note 5

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD 2560 x 1440 (518ppi)
  • S Pen พร้อม Air Command เวอร์ชั่นใหม่
  • มีระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) แบบเดียวกับใน Galaxy S6
  • ซีพียู Exynos Octa-core Quad-core 2.1GHz และ Quad-core 1.5GHz 64 bit, 14 nm process
  • แรม 4GB LPDDR4
  • หน่วยความจำภายใน 32GB/64GB
  • กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F1.9 พร้อมแฟลช และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล F1.9
  • แบตเตอรี่ 3,000 mAh
  • รองรับ Fast Charge และ Wireless Charging ที่ชาร์จเร็วกว่าเดิม
  • รัน Android 5.1.1 Lollipop อินเตอร์เฟส TouchWiz
  • 153.2 x 76.1 x 7.6 มม.
  • น้ำหนัก 171 กรัม
  • รองรับ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
  • Bluetooth v 4.2 LE,
  • รองรับ ANT+

Galaxy Note 5 รุ่นที่ขายในไทยจะมีทั้งความจุ 32GB และ 64GB ทั้งคู่เพิ่มหน่วยความจำไม่ได้ สำหรับผมแล้วรุ่น 32GB ก็เพียงพอแล้ว เพราะเป็นคนเก็บอะไรไม่เยอะอยู่แล้ว บางรุ่นที่ผมใช้ 16GB ก็ไม่เต็ม (ลงแค่แค่แอพกับเกมส์) สำหรับท่านที่ใช้เยอะก็สามารถต่อ USB OTG เอาได้ ถึงแม้ไม่สะดวก แต่ก็ดีกว่าไม่มี

Galaxy_Note5_0004

อุปกรณ์ในกล่องที่แถมมามีคู่มือ, ใบรับประกันสินค้า, หูฟัง, สายชาร์จที่รองรับ fast charge, อะเดปเตอร์ ที่รองรับ fast charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100% ได้ในเวลา 90 นาที นอกจากนั้นในกล่องยังมีเข็มจิ้มถาดซิม และหัว S Pen สำรอง 4 อัน พร้อมที่เปลี่ยน

Galaxy_Note5_0001

Galaxy Note 5 มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว หน้าจอปกติไม่ได้โค้ง edge Screen แบบ Galaxy Note 4 Edge, Galaxy S6 edge แต่ไปดค้งด้านหลังแทน ตัวหน้าจอความละเอียด Quad HD 2560 x 1440 (518ppi) หน้าจอ Super AMOLED มีจุดเด่นเรื่องความสดใสของภาพ ความคมชัด และสีสันที่เหมือนจริง

Galaxy_Note5_0019

ตัวหน้าจอ Galaxy Note 5 ขนาดจะเท่ากับ Galaxy Note 4 แต่เวลาสัมผัสได้รู้สึกได้ถึงขนาดที่เล็กลง เพราะตัวขอบหน้าจอที่บางลง และด้านตัวเครื่องด้านหลังจะโค้งรับกับมือ ทำให้จับได้กระชับขึ้น (แต่สำหรับผมยังคงชอบ Galaxy S6 มากกว่า เพราะมือเล็กจับมือถือจอใหญ่ลำบาก ใช้งานมือถือยาก)

Galaxy_Note5_0018

กล้องหน้าให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f1.9 ช่วยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย และมีโหมดหน้าเนียน สำหรับคนชอบเซลฟี่ สามารถปรับแต่งได้เอง 8 ระดับ เช่น ปรับคาง, ปรับตา และปรับระดับความเนียน ถ้าใครชอบถ่ายรูปด้วยกล้องหน้า รุ่นนี้หายห่วงครับ กล้องหน้าพัฒนาใหม่ ไม่กากเหมือนเดิมแล้ว

Galaxy_Note5_0021

ปุ่มควบคุมแบบสัมผัสสองปุ่มเช่นเคย ส่วนปุ่มโฮมเป็นแบบกดและเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) ในตัว เป็นแบบเดียวกับใน Galaxy S6 ทำงานได้เร็วขึ้น ไม่ต้องรูด แค่แตะเบาๆ และรับได้หลายทิศทาง ใช้สำหรับระบุตัวตนก่อนเข้าใช้งาน รวมถึงระบุตัวตนสำหรับการจ่ายเงิน และใช้งานแอพพลิเคชั่นบางตัว

Galaxy_Note5_0020

ด้านล่างของตัวเครื่องเป็นโลหะเหมือนกับ Galaxy S6 มีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องต่อ micro USB2.0 ลำโพงตัวเครื่อง รูไมโครโฟนสำหรับสนทนาและปากกา S Pen

Galaxy_Note5_0015

Galaxy Note 5 ออกแบบปากกก S Pen ใหม่ให้ดึงออกมาใช้งานไดด้ง่ายขึ้น โดยส่วนหัวของปากกาจะสามารถกดได้ เมื่อกดแล้วส่วนหัวจะเด้งออกมาเพื่อให้เราสามารถดึง S Pen ออกมาง่ายขึ้น กดอีกทีปากกาก็จะกลับเข้าที่เดิม วิธีนี้ทำให้ S Pen เกือบจะเรียบเป็นส่วนเดียวกันกับตัวเครื่อง ต้องการใช้งานก็เพียงแค่กดเท่านั้น หลักการทำวานก็เหมือนกับปากกาแบบกดที่เราเคยใช้กันนี่แหละครับ

Galaxy_Note5_0009

S Pen ใน Galaxy Note 5 ทำงานได้เร็วขึ้นกว่า S Pen บน Galaxy Note 4 จากเดิม 90ms ทำงานเร็วขึ้นเป็น 74ms (ค่ายิ่งน้อย ยิ่งทำงานเร็ว) พวงด้วยฟีเจอร์ Air Command แบบใหม่ ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งให้ตรงตามการใช้งานของตัวเอง สามารถเลือกแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อยมาไว้ใน  Air Command ได้ 2 ตัว และเพิ่มฟีเจอร์การจดบันทึกแบบเร่งด่วน โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ (Screen off Memo)

Galaxy_Note5_0007

ใน Galaxy Note 4 ช่องใส่ซิมย้ายมาอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง เวลาใช้เปลี่ยนซิมต้องใช้เข็มจิ้ม ซึ่งมีแถมมาในกล่อง หากไม่มีสามารถใช้คลิปหนีบกระดาษแบบเล็กแทนได้ รองรับซิมแบบ nano SIM ใช้งานได้ซิมเดียว และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่สอง

Galaxy_Note5_0012

ตัวเครื่องหนา 7.6 มม. และ น้ำหนัก 171 กรัม ด้านข้างทำด้วยโลหะชินเดียวขัดขอบไม่ให้มีเหลี่ยม ช่วยให้จับกระชับมือ ปุ่มกดเองก็ดูหรู ไม่มีก็อกแก๊ก ด้านซ้ายมีปุ่มเพิ่มและลดเสียง

Galaxy_Note5_0016

ด้านขวามีปุ่มสำหรับเปิดและปิดเครื่อง

Galaxy_Note5_0017

Galaxy Note 5 วัสดุตัวเครื่องทำจากโลหะและกระจกแบบเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S6, Galaxy S6 edge โดย Galaxy Note 5 ด้านหลังจะโค้งทั้งสองด้าน ช่วยให้จับถัดมือยิ่งขึ้น มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.9 มีระบบกันสั่น OIS ถ่ายในที่แสงน้อยดีขึ้น และโฟกัสไวขึ้น

Galaxy_Note5_0011

ฝาหลังเป็นกระจกโค้งหักทั้งสองข้าง ข้อดีคือดูสวยงาม หรู เกิดรอยยาก แต่ข้อเสียคือเกิดคราบรอยนิ้วมือง่ายมาก ทั้งคราบเหงื่อ คราบน้ำ เกิดขึ้นง่ายมาก

Galaxy_Note5_0010

Galaxy Note 5 รองรับ Fast Charge ผ่านดะเดปเตอร์ที่แถมมาในกล่อง หาก Galaxy Note 5 แบตหมดเกลี้ยงเหลือ 0% สามารถชาร์จจนเต็ม 100% ใช้เวลาเพียงแค่ 90 นาที นอกจากนั้นยังรองรับ Wireless Charging ที่รองรับ Fast Charge ใช้งานได้ทั้ง WPC และ PMA ชาร์จเร็วกว่าเดิม เต็มในเวลาแค่ 120 นาที

Galaxy_Note5_0006

แกลอรี่ Galaxy Note 5