Lazada

ผมนี่เรียกเพื่อนมาดู !! 6 ความน่าสนใจที่มีใน Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge

Samsung เปิดตัว Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge สองเรือธงรุ่นใหม่ในงาน MWC สร้างความฮือฮาไม่น้อย เพราะมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมพอสมควร ในแง่สเปกคงไม่ต้องพูดถึงกัน คงอ่านข่าวกันไปเยอะพอสมควร ในบทความนี้ผมจะพูดถึงความน่าสนใจของ Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge ว่ามีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจ มีจุดเด่นในแง่ไหนบ้าง

ที่ผ่านมาเรือธงของตระกูล Galaxy S หน้าตาจะไม่แตกต่างกันมากหนัก สิ่งที่ทุกวิจารณ์มาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นที่ 5 ก็คือเรื่องวัสดุและดีไซน์ ซึ่งใช้พลาสติกมาโดยตลอด แต่ทุกอย่างหายไปหมด Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge เป็นการเริ่มต้นเร์อธงที่มาพร้อมกับคามพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง เอาละ มาดูก่อนเลยว่าทั้ง 6 ความน่าสนใจมีอะไรบ้าง 

[section label=”Design”]

1. วัสดุพรีเมียมขึ้น  

ทั้ง Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ออกแบบบนแนวคิด Design with Purpose ได้รับความชมจากสื่อต่างประเทศค่อนข้างเยอะ ต่างจากรุ่นที่ผ่านๆ มาที่ถูกด่ามากกว่าชม ในแง่ดีไซน์ถ้าไม่นับประเด็นที่ถูกวิจารณ์ว่าก๊อปดีไซน์บางส่วนของ iPhone มาก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ ครับ โดยเฉพาะ Galaxy S6 Edge แม้หน้าจอจะโค้งน้อยกว่า Galaxy Note Edge แต่ดีไซน์สวยงามน่าใช้งานเอามากๆ ตัวเครื่องเปลี่ยนจากพลาสติกเป็นโลหะแล้วแบบเดียวกับที่เคยใช้ใน Galaxy Alpha และตระกูล Galaxy A

ถ้ามีแค่นี้คงไม่พูดถึง เพราะตัวเครื่องของทั้งคู่ทำจากวัสดุพรีเมียมไม่ใช่แค่หรู แต่ยังทนทาน โดยโลหะที่ใช้ผลิตทั้งคู่มีความแข็งแรงกว่าโลหะปกติถึง 50% ช่วยให้มือถือทั้งสองรุ่นนี้เป็นมากกว่ามือถือพรีเมียมนั้นเอง

2015-03-02_22-59-21

[section label=”Display”]

2. หน้าจอ

ปกติมือถือเรือธงของซัมซุงขึ้นชื่อเรื่องความสวยสดของหน้าจออยู่แล้ว แต่ใน Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge เจ่งกว่านั้น มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด QHD 1440 x 2560 พิกเซล (ความละเอียด 2K) ที่ 577 PPI ความสว่างของหน้าจออยู่ที่ 600cd/mm แม้จะอยู่ในที่กลางแจ้ง หน้าจอก็ยังคงความสวยสดของสีอยู่

ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass 4 โดย Galaxy S6 มีพื้นที่หน้าจอคิดเป็น 70.7% ของพื้นที่ตัวเครื่อง ส่วน Galaxy S6 edge มีพื้นที่หน้าจอ 72.0% ของตัวเครื่อง

2015-03-02_22-57-59

[section label=”Fast charging”]

3. ระบบชาร์จไฟ ชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สายได้

Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ติดตั้งเทคโนโลยีชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless charging) ของ Powermat มาตรฐาน PMA นอกจากนั้นยังสามารถใช้ Wireless charging มาตรฐาน Qi และ WPC ได้ ทำให้ Galaxy S6 เป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีชาร์จไฟแบบไร้สายซึ่งใช้ได้กับแท่นชาร์จไร้สายทุกแบบที่มีในตลาด

นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ชาร์จ 10 นาทีใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง ชาร์จเร็วกว่า Galaxy S5 1.5 และชาร์จเร็วกว่า iPhone 6 ถึง 50%

ปล. ทั้งสองรุ่นถอดแบตไม่ได้แล้วนะครับ

2015-03-02_23-02-47 2015-03-02_23-02-34

[section label=”Camera”]

4. กล้อง

รอบนี้ซัมซุงให้ความสำคัญกับกล้องหน้ามากขึ้น โดยให้มา 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงอยู่ที่ f/1.9 คอเซลฟี่น่าจะชอบ เพราะที่ผ่านมาหลายคนบ่นว่ามือถือตัวท็อปของซัมซุงกล้องหน้าไม่สวย ซึ่งซัมซุงปรับปรุงให้เรียบร้อย คาดว่าคุณภาพน่าจะเทียบเท่ากล้องหน้าของ Galaxy A7 นอกจากนั้นกล้องหน้ายังสามารถถ่ายภาพ Real-time HDR ได้เหมือน Galaxy Note 4 อีกด้วย ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกเลยก็ว่าได้ที่กล้องหน้ามีคุณสมบัตินี้

ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, f/1.9 มี OIS (optical image stabilization) แบบเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy Note 4 ถ่ายภาพ Real-time HDR ได้เช่นกัน และพัฒนาการถ่ายภาพในที่แสงน้อยขึ้น ในงานเปิดตัวได้หยิบภาพถ่ายจากกล้องของ Galaxy S6 เทียบกับภาพจากกล้องของ iPhone 6 เลยทีเดียว แสดงว่ามั่นใจในคุณภาพของตัวเองมาก

2015-03-02_23-00-55

เปรียบเทียบภาพจากกล้อง iPhone 6 Plus และ Galaxy S6

ภาพจาก blognone.com
ภาพจาก blognone.com

[section label=”Software”]

5. Android 5 (Lollipop) อินเตอร์เฟส Touchwiz Material Design

Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) พร้อมด้วยอินเตอร์เฟสเวอร์ชั่นใหม่ TouchWiz Material Design ที่ออกแบบใหม่หมด บนพื้นฐาน flat design บนคอนเซ็ปท์ Design with Purpose ลดหน้าจอที่ไม่เป็นประโยนช์ต่อผู้ใช้ เหลือแต่ส่วนที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องใช้จริงๆ ทำให้แลดูน่าใช้งานขึ้น เรื่องความสวยงาม เท่าที่ดูจากภาพสวยขึ้นจากเดิมมาก น่าจะถูกใจสาวกหลายคนที่บ่นว่าเบื่อ TouchWiz  แบบเดิมๆ

นอกจากนั้นสื่อในต่างประเทศยังให้คำชมว่าการใช้งานลื่นไหลขึ้น อินเตอร์เฟสไม่หน่วงเหมือนเดิมแล้ว

2015-03-02_22-58-35

[section label=”Fast Fingerprint”]

6. Fast Fingerprint

ในรุ่นที่ผ่านมา Fingerprint แทนที่จะเป็นจุดขาย กลับเป็นประเด็นเรียกคำวิจาณ์ แต่ซัมซุงได้พัฒนา Fingerprint ใหม้เป้นที่เรียบร้อย จากเดิมที่ต้องรูดนิ้วผ่านปุ่มโฮม ในเวอร์ชั่นใหม่บน Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ไม่ต้องรูดนิ้วแล้ว เพียงแค่แตะเบาๆ ก็สแกนติดแล้ว

นอกจากนั้นซัมซุงยังพัฒนาระบบจ่ายเงิน Samsung Pay ที่ช่วยให้การจ่ายเงินของเราง่ายขึ้น ผ่าน NFC 

2015-03-02_23-03-44 

นอกจากนั้น Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ยังจัดเต็มเรื่องสเปก ด้านชิปประมวลผลก็ใช้แบบ 14 นาโนเมตร ช่วยประหยัดพลังงานขึ้น 35% แรม 3GB DDR4 ประสิทธิภาพสูงขึ้น 80% เลยทีเดียว หน่วยความจำมีให้เลือกตั้งแต่ 32GB, 64GB, 128GB โดยใช้แบบ Universal Flash Storage 2.0 อ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วขึ้น (เพิ่ม microSD ไม่ได้)

2015-03-02_23-02-12

หวังเป็นอย่างยิ่งความบทความนี้จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำหรับคนที่กำลังสนใจ Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge อยู่ไม่มากก็น้อย สำหรับ Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge จะเริ่มวางจำหน่ายใน 20 ประเทศแรก (ซึ่งไม่ทราบว่ามีประเทศใดบ้าง) ในวันที่ 10 เมษายน รุ่น Galaxy S6 จะมีให้เลือกด้วยกัน 4 สีประกอบไปด้วย สีขาว สีดำ สีฟ้า และสีทอง ส่วน Galaxy S6 Edge จะมีสีเขียวเป็นตัวยืน

S6edge_spec S6_spec